บทที่ 2 ดินแดนก่อตั้งขั้น 4

เวลาค่อยๆผ่านล่วงเลยไปจากนาทีเป็น 2 นาที เย่ชีเหวิน ได้ละทิ้งความพยายามที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ กำลังใจของเขาค่อยๆเริ่มถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่สามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ นั่นก็เท่ากับว่าเขาจะติดอยู่ในสถานที่แห่งนี้ตลอดไป!

เย่ชีเหวิน ไม่เคยนึกถึงการเป็นผู้ปกครองโลกนี้โดยกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธที่ไร้ยางอายหรืออย่างอื่น สิ่งที่เขาคิดมีเพียงแค่การปกป้องตนเองและขจัดความอัปยศทั้งหมดออกจากตัวเขา เขาไม่ต้องการที่จะติดแหงกอยู่ในสถานที่แห่งนี้

หลังจากที่เวลาค่อยๆผ่านไป เย่ชีเหวิน ก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิต ในเมื่อไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้แล้ว เขาจึงเริ่มทำการบ่มเพาะพลังปราณ อำนาจการต่อสู้บนโลกใบนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการ"ฝึกฝนวรยุทธ"และการ"บ่มเพาะพลัง" ในตอนนี้เขายังอยู่เพียงแค่ก่อตั้งขั้น 3 ตามกฏข้อบังคับของสำนักผู้ที่มีการบ่มเพาะพลังต่ำกว่าก่อตั้งขั้น 4 จะมิได้รับอนุญาตให้ฝึกฝนวรยุทธ เพราะการฝึกฝนวรยุทธนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้"พลังปราณ"เป็นพื้นฐาน ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกวรยุทธโดยไม่พึ่ง"พลังปราณ"นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้เยี่ยมยุทธก่อตั้งขั้น 3 นั้นถูกเรียกว่าขั้นการวางรากฐาน

แต่ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า เย่ชีเหวิน จะค้นพบว่านอกจากเขาจะติดอยู่ในสถานที่แห่งนี้แล้ว การไหลของเวลาและทุกสิ่งทุกอย่างภายใน"พื้นที่ลึกลับ"แห่งนี้จะเหมือนกับโลกภายนอก

ดังนั้นในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ ทางเลือกเดียวของเขาคือการรักษาสภาพที่เป็นอยู่โดยยึดหลักการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ด้านนอก ในเมื่อมันไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถทำได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์และเริ่มทำการบ่มเพาะพลังเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอ

ในตอนนี้เขากำลังฝึกฝนการบ่มเพาะพลังโดยใช้ทักษะที่มีชื่อว่า"อำนาจอัญมณีเจิดจ้า"ซึ่งแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 ขั้น ภายในสำนักยี่หยวนนั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีความสามารถในการบ่มเพาะพลังจนไปถึงขั้นก่อเกิด แต่อย่างไรก็ตาม เย่คงหมิง ก็ยังเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักยี่หยวน ดังนั้น เย่ชีเหวิน จึงมีโอกาศได้รับการฝึกฝนการบ่มเพาะพลังโดยใช้ทักษะนี้

ซึ่งทักษะนี้เป็นทักษะที่เรียบง่ายและง่ายต่อการฝึกฝน

แต่ในชั่วขณะนั้นเอง เย่ชีเหวิน กับค้นพบว่าความเข้าใจต่อทักษะ"อำนาจอัญมณีเจิดจ้า"ของเขานั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน หากกล่าวว่าความเข้าใจเดิมของเขานั้นเปรียบได้ดั่งลำธารเล็กๆ ความเข้าใจของเขาในตอนนี้ก็เทียบเท่าได้กับแม่น้ำใหญ่แยงซีเกียงหรือแม่น้ำเหลืองที่หลั่งไหลและพลุ่งพล่านอย่างต่อเนื่องอยู่ภายในจิตใจของเขา

ความเข้าใจของ เย่ชีเหวิน กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนทำให้เขารู้สึกโง่เขลาไปทันใด ในขณะที่เขากำลังบ่มเพาะ"อำนาจอัญมณีเจิดจ้า"

ช่วงเวลาค่อยๆผ่านไป จนกระทั่ง...

          " ตูม! "

เย่ชีเหวิน ได้เปิดตาขึ้นและต้องพบกับความประหลาดใจ เพราะแทนที่เขาจะอยู่ใน"พื้นที่ลึกลับ"แต่ในตอนนี้เขากับปรากฏตัวอยู่ด้านนอกที่เต็มไปด้วยแสงสว่างเจิดจ้า

เย่ชีเหวิน ตกใจกลัวจนถึงขั้นมีเหงื่อไหลออกตามร่างกาย เป็นไปได้หรือไม่ว่านั่นอาจเป็นเพียงแค่ความฝัน?

แต่ความรู้สึกของเขานั้น"พื้นที่ลึกลับ"นั่นกับดูเหมือนจริง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเป็นของปลอม

ในขณะนั้นเอง เย่ชีเหวิน ก็พบว่าร่างกายที่ถูกชโลมไปด้วยเหงื่อของเขานั้นได้ถูกปกคลุมไปด้วยคราบสกปรกสีดำบางอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกเรียกว่าคราบซ่อนเร้น ในการตัดผ่านดินแดนก่อตั้งทั้ง 9 ขั้น คราบสกปรกเหล่านี้จะค่อยๆถูกขับออกไปจากร่างกาย ซึ่งเมื่อหลังจากที่ร่างกายถูกชำระล้างออกไปจนหมดแล้ว พวกเขาก็จะสามารถเชื่อมต่อกับเส้นโลหิตและเส้นปราณที่อยู่ภายในร่างกายของพวกเขาที่อยู่ในขอบเขตดินแดนก่อตั้งให้ก้าวข้ามขึ้นไปยังดินแดนก่อเกิดได้

แต่ในอีกความหมายหนึ่งก็คือมันเป็นสัญญาณในการตัดผ่านไปยังระดับขั้นต่อไป ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ เย่ชีเหวิน จะไม่ตกใจ เพราะตามการคาดคะเนของเขา มันจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลากว่าครึ่งปีจึงจะสามารถตัดผ่านไปยังก่อตั้งขั้น 4 ได้ ด้วยความสามารถของเขาที่เป็นอยู่ในตอนนี้

แต่นี่กับใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนใน"พื้นที่ลึกลับ"เขาก็สามารถตัดผ่านไปยัง"ก่อตั้งขั้น 4"ได้แล้

มิน่าแปลกใจ ตามความทรงจำของบรรพบุรุษ แม้จะฝึกฝนทักษะ"อำนาจอัญมณีเจิดจ้า"อยู่ตลอด แต่มันก็ยากที่เขาจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับมัน แต่ในช่วงเวลาที่ เย่ชีเหวิน ได้ฝึกฝนอยู่ภายใน"พื้นที่ลึกลับ" ความเข้าใจของเขากับเพิ่มสูงขึ้น ภายใน"พื้นที่ลึกลับ"ระดับความเข้าใจของเขาได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเดิมถึง 100 เท่า

ถ้าเป็นในกรณีนี้ ด้วยความเชื่อเหลือของ"พื้นที่ลึกลับ"ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธใดก็ไม่อาจปกปิดเคล็ดลับได้เมื่ออยู่ต่อหน้า เย่ชีเหวิน ด้วยการฝึกฝนใน"พื้นที่ลึกลับ"จะทำให้ความเข้าใจของเขาเพิ่มพูนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว!

เย่ชีเหวิน ระเบิดกำปั้นออกไปจนเกิดคลื่นกระแทกผ่านอากาศ พลังกำลังพลุ่นพล่านอยู่ภายในร่างกายของเขา ความจริงพลังของเขาไม่กระจายตัวออกไปเช่นในอดีต ความแข็งแกร่งของเขากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับหลายเท่า ซึ่งมันเทียบกันไม่ได้เลยกับตัวเขาก่อนหน้านี้

ในช่วงดินแดนก่อตั้งทั้ง 9 ขั้น จอมยุทธก่อตั้งขั้นแรกนั้นจะมีพลังหมัดอยู่ที่ 50 จินและจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 จินเมื่อก้าวเข้าสู่ก่อตั้งขั้น 2 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 จินเมื่อก้าวเข้าสู่ก่อตั้งขั้น 3 แต่เมื่อเหล่าจอมยุทธตัดผ่านเข้าสู่ก่อตั้งขั้น 4 พลังหมัดของพวกเขาจะพุ่งทะยานขึ้นจนไปถึง 500 จิน

[ GaTi : 1 จิน = 0.5 กิโลกรัม , 1 ลี้ = 0.5 กิโลเมตร ]

ดินแดนก่อตั้งขั้น 4 นั้นก็เปรียบเสมือนเป็นก้าวแรกของเส้นแบ่งเขตที่จะกวาดผ่านไปสู่บนชั้นฟ้าสวรรค์ หลังจากที่ได้ตัดผ่านเข้าสู่ก่อตั้งขั้น 4 แล้วความแข็งแกร่งของบุคคลนั้นก็จะพุ่งทะยานขึ้นจนไปถึง 500 จินหรือก็คือเป็นผู้ครอบครองขุมพลังอำนาจแห่งพยัคฆ์อันยิ่งใหญ่

สำนักยี่หยวนนั้นไม่จำกัดศิษย์ให้ฝึกฝนวรยุทธไปตามที่สำนักต้องการ พวกเขานั้นสามารถฝึกฝนวรยุทธแขนงใดก็ได้ เพราะหอตำรายุทธของสำนักยี่หยวนก็เต็มไปด้วยตำรายุทธมากมายหลายแขนงให้เลือกสรร ฉะนั้นพวกเขาก็ควรเลือกวรยุทธที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

แม้ว่าวรยุทธนั้นจะเป็นวรยุทธจากภายนอกก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ถูกห้ามให้ฝึกฝน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นโอกาศของเขาที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังจากที่ศิลาหลากสีนั่นได้พุ่งเข้ามาในร่างกายของ เย่ชีเหวิน มันได้เปลี่ยนเส้นปราณของเขาให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมนับหลายเท่า หากเส้นปราณเดิมของเขาเปรียบได้ดั่งลำธารเล็กๆ เส้นปราณของเขาในตอนนี้ก็มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับแม่น้ำแยงซีเกียงหรือแม่น้ำเหลือง ทำให้ปราณของเขาไหลพล่านไปทั่วร่างอย่างไม่ติดขัดใดๆ

ทำให้การบ่มเพาะพลังเพียงชั่วข้ามคืนของ เย่ชีเหวิน นั้นเทียบเท่าได้กับหลายวันของผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ ด้วยพลังอำนาจของทักษะและปริมาณของปราณที่ปล่อยออกมาเพียงครั้งเดียวในช่วงระยะเวลาสั่นๆ ทำให้เส้นปราณของเขาเกิดการขยายตัวและมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เยี่ยมยุทธคนอื่นๆที่อยู่ในระดับเดียวกัน ฉะนั้นในทางกับกันความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ก็ย่อมพุ่งสูงขึ้นและมากกว่าผู้เยี่ยมยุทธที่อยู่ในระดับเดียวกันอย่างเทียบไม่ได้

ฉะนั้นความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้จึงได้ทะลุขึ้นไปถึง 570 จิน

เย่ชีเหวิน จึงรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ด้วยการช่วยเหลือของ"พื้นที่ลึกลับ"มันอาจทำให้เขาโดดเด่นและก้าวล้ำกว่าผู้ใด

เมื่อคิดเช่นนั้น เย่ชีเหวิน ก็ไม่รอช้าเขารีบนั่งลงและทำสมาธิในทันที เขาพยายามเพ่งสมาธิเพื่อที่จะกลับเข้าไปยัง"พื้นที่ลึกลับ"อีกครั้ง หากแต่ในคราวนี้ เย่ชีเหวิน กับล้มเหลว เขาไม่สามารถกลับเข้าไปยังภายใน"พื้นที่ลึกลับ"นั้นได้

เย่ชีเหวิน ถึงกับงุนงงและแปลกใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถเข้าไปได้ แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงไม่?

ทันใดนั้นเอง เย่ชีเหวิน ก็พบว่าปราณที่เขาดูดซับไว้ก่อนหน้านี้ได้ถูกดูดกลื่นหายไปจนหมดสิ้น นั่นทำให้เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ร่างกายของเขายังคงเต็มไปด้วยปราณที่ดูดซับไว้ ก่อนที่เขาจะเข้าไปยัง"พื้นที่ลึกลับ"แต่ในตอนนี้มันกลับหายไปอย่างฉับพลัน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เช่นไร?

          "หรือว่า,ข้าเข้าใจแล้ว!" เย่ชีเหวิน กล่าวออกมาอย่างฉับพลันพร้อมกับฉุกคิดขึ้นได้ มันอาจเป็นไปได้ว่าเพื่อที่ฝึกวรยุทธและบ่มเพาะพลังใน"พื้นที่ลึกลับ"มันอาจจำเป็นต้องดูดกลื่น"พลังปราณ"หรือพลังงานในชิดเดียวกัน นี่อาจเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถอธิบายได้ว่าปราณจำนวนมากของเขานั้นมันหายไปไหน อีกทั้งมันยังเป็นข้อพิสูจน์ได้อีกด้วยว่าเหตุใดเขาถึงหลุดออกมาจาก"พื้นที่ลึกลับ"ได้ ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นเพราะปราณที่มันดูดกลื่นไปนั้นถูกเผาผลาญไปจนหมดสิ้นแล้ว

ในลานกว้าง เย่ชีเหวิน ได้หยิบเอาข้าวของทั้งหมดของเขาออกมา มันคือศิลาวิญญาณระดับต่ำรวม 10 ก้อนและมันคือทั้งหมดที่เขามี ผลึกศิลาเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันดีในนามของศิลาวิญญาณบนโลกใบนี้ ศิลาวิญญาณเหล่านี้ถูกอัดแน่นไปด้วย"ปราณจิตวิญญาณ"จำนวนมาก ศิลาวิญญาณนั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ , ศิลาวิญญาณระดับกลาง , ศิลาวิญญาณระดับสูง และ ศิลาวิญญาณชั้นยอด

เหล่าจอมยุทธสามารถดูดซับ"ปราณจิตวิญญาณ"จากศิลาวิญญาณเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ในการบ่มเพาะพลังของพวกเขาได้ นอกจากนี้มันยังสามารถนำมาเติมเป็น"พลังปราณ"ได้ภายในช่วงระยะเวลาสั่นๆ

หากพื้นที่นี้จำเป็นที่จะต้องใช่พลังงานจำพวกนี้เป็นตัวกระตุ้นจริง มันอาจทำให้การฝึกฝนวรยุทธของเขานั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น หากเขาใช้ศิลาวิญญาณเป็นเชื้อเพลิง

เย่ชีเหวิน เริ่มดูซับ"ปราณจิตวิญญาณ"และแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็น"พลังปราณ"ไหลผ่านเข้าสู่ห้วงจิตใจของเขา หลังจากนั้น"พื้นที่ลึกลับ"ก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขายังคงเพ่งสมาธิไปที่มันและดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปตามดั่งที่เขาคาดไว้ หลังจากนั้นเขาก็ก้าวลงไปบน"พื้นที่ลึกลับ"

#############################################

B1 : โครตแจ่ม 

B2 : ความสามารถแลดูโกง

B3 : ขอตัวร้ายแบบเก่งๆ นะจะได้แฟร์ๆ 

B4 : แล้วเรื่องราวของโลกศตวรรษที่ 21 ก็ได้จางหายไป

2 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม