บทที่ 5 อสนีบาต 9 ก้องคำราม

ภายในลานของ เย่ชีเหวิน เขาได้หยิบศิลาวิญญาณออกมาทั้งหมด 10 ก้อนซึ่งเป็นทรัพยากรทั้งหมดที่เขามี หลังจากที่ดูดซับ ปราณจิตวิญญาณ แล้วแปลงเป็น พลังปราณ เขาก็เริ่มนั่งสมาธิและเพ่งความสนใจไปที่"พื้นที่ลึกลับ"อีกครั้ง เย่ชีเหวิน ยังคงเพ่งสมาธิอยู๋เช่นนั้นจนกระทั่งเข้าก้าวเข้ามายังภายใน"พื้นที่ลึกลับ"

เย่ชีเหวิน ไม่ต้องการเสียเวลาและเริ่มใช้ความคิดควบคุม"พื้นที่ลึกลับ"ในทันทีเพื่อสรุปเนื้อหา"ฝ่ามืออสนีบาต" แต่ฉับพลัน ข้อมูลนับไม่ถ้วนก็ได้ถ่าโถมเข้าใส่จิตใจของเขา

เย่ชีเหวิน รู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะดูเหมือนว่ามันจะเกินความคาดหมายที่เขาได้ตั้งเอาไว้ ไม่เพียงแค่การบ่มเพาะพลังเท่านั้นที่ยกระดับขึ้น แม้แต่การฝึกฝนวรยุทธเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

เนื้อหาของ"ฝ่ามืออสนีบาต"ได้ถ่าโถมเข้าใส่จิตใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับน้ำวนที่เชี่ยวกราด จนทำให้จิตใจของเขานั้นเริ่มรู้สึกมึนงง

เย่ชีเหวิน ได้เริ่มต้นฝึกฝนวรยุทธ"ฝ่ามืออสนีบาต"กระบวนท่าแรก รวดเร็วดั่งอัสนีเคลื่อนย้ายดั่งวายุ , อัสนีคำราม , อาภรขวานปีศาจอัสนี และ วายุอัสนี 4 ทิศ ทั้งหมดนี่ แม้ว่าจะมีกระบวนท่าไม่มาก ซึ่งง่ายต่อการเรียนรู้ แต่อยากที่จะทำความเข้าใจให้แตกฉาน ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการฝึกฝนจนไปถึงระดับสูงสุดของมันนั้นเป็นไปได้ยากมาก

          "*เสียงฟ้าร้อง!"

เย่ชีเหวิน ปล่อยฝ่ามือของเขาออกไปอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการฝึกฝนวรยุทธใหม่

เย่ชีเหวิน ยังคงฝึกฝน"ฝ่ามืออัสนีบาต"ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่หยุดยั้ง จนความเข้าใจของเขาในตอนนี้ได้เพิ่มพูนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับแต่ก่อน หากเปรีบความเข้าใจของเขาก่อนหน้านี้เป็นเพียงสายน้ำลำธารสายเล็กๆ ความเข้าใจของเขาในตอนนี้ก็เทียบได้กับสายน้ำที่เชี่ยวกราดของแม่น้ำแยงซีเกียงหรือแม่น้ำเหลือง

          "บูม!"

          "บูม!"

          "บูม!"

ไม่ทราบว่าเวลาได้ผ่านล่วงเลยไปนานเท่าใด แต่ เย่ชีเหวิน ยังคงผลักฝ่ามือของเขาออกไปอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกๆครั้งที่ปล่อยฝ่ามืออกไปก็มักจะเกิดเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นกึกก้อง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าเขาได้สำเร็จ"ฝ่ามืออสนีบาต"ไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว

          "รวดเร็วดั่งอัสนีเคลื่อนย้ายดั่งวายุ!" เย่ชีเหวิน เค้นเสียงเบาๆก็พลันปรากฏคลื่นสายฟ้าขึ้นที่ฝ่ามือขวาของเขา เมื่อเขาปล่อยฝ่ามืออกไปก็เกิดเสียงที่ดังสนั่นกึกก้องในขณะที่มันพุ่งชนเข้ากับกหินก้อนใหญ่ ในชั่วพริบตามากกว่าครึ่งหนึ่งของก้อนหินก็ได้กลายเป็นผุยผงไปในทันที

เย่ชีเหวิน เผยให้เห็นถึงความรู้สึกทึ่งผ่านดวงตาของเขาเมื่อมองไปยังฝ่ามือขวาของตนเองพร้อมกับกล่าวว่า "ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ฝ่ามืออสนีบาต 2 ก้องคำราม (ขั้น 2) นั้นจะมีความน่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้,ทั้งที่ข้าสัมผัสได้ถึงความเข้าใจเพียงน้อยนิดจากมันได้เท่านั้น,อีกทั้งความรวดเร็วในการยกระดับนี่..,หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป,คาดว่าภายใน 1 เดือนหลังจากนี้,ข้าคงสามารถบรรลุ ฝ่ามืออสนีบาต 9 ก้องคำราม(ขั้น 9) ได้เป็นแน่"

อย่างที่ทราบกันดีว่า"ฝ่ามืออสนีบาต"นั้นง่ายต่อการเรียนรู้แต่อยากที่จะทำความเข้าใจให้แตกฉาน แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังสามารถยกระดับมันได้ภายในระยะเวลาอันสั่นจนสามารถพัฒนามันไปจนถึงระดับขั้นที่ 2 ได้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะความสามารถ"พื้นที่ลึกลับ"

          "ฝ่ามืออสนีบาต"นั้นถือว่าฝึกฝนค่อนข้างยาก อย่างน้อยถ้าจะควบคุมมันให้ได้ดั่งใจก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าปีหรือ 2 ปีในการยกระดับมันให้ก้าวขึ้นมาเป็นขั้นที่ 2 หรือกระทั่งบางคนก็อาจต้องใช้เวลาชั่วชีวิตของพวกเขาในการยกระดับมันไปจนถึงขั้นที่ 9

เสียงหยาบกร้านและเสียงปริแตกดังออกมาจากร่างกายของ เย่ชีเหวิน พร้อมกับคราบสกปรกสีดำที่ไหลออกมาพร้อมกับเหงื่อของเขา หลังจากที่คราบสิ่งสกปรกเหล่านี้ไหลออกไปจากร่างกาย ทำให้ร่างกายของ เย่ชีเหวิน ดูเหมือนมีความบริสุทธิ์มากขึ้น

นอกจากนี้ เย่ชีเหวิน ยังได้ค้นพบอีกว่า หลังจากที่"ฝ่ามืออสนีบาต"ได้หักผ่าน 2 ก้องคำรามไปแล้ว พละกำลังของเขาก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นตามมาด้วย

เย่ชีเหวิน รู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมากจนปล่อยหมัดออกไปพลันระเบิดเป็นคลื่นกระแทกกับอากาศที่อยู่เบื้องหน้า

ความแข็งแรงของเขาได้เพิ่มขึ้นมาจาก 570 จินเป็น 630 จิน โดยรวมแล้วเพิ่มขึ้นมาถึง 60 จิน ซึ่งเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าช่องว่างระหว่างขั้นของ"ฝ่ามืออสนีบาต"จะเพิ่มความแข็งแรงให้กับเขาได้มากมายถึงเพียงนี้

[ GaTi : 1 จิน = 0.5 กิโลกรัม ]

ดินแดนก่อตั้งขั้น 4 นั้นถือเป็นก้าวแรกของเส้นแบ่งเขต ซึ่งหลังจากที่บรรลุก่อตั้งขั้น 4 แล้วความแข็งแรงของบุคคลจะพุ่งทะยานขึ้นมาถึง 500 จิน หรือก็คือเป็นผู้ครอบครองขุมพลังอำนาจแห่งพยัคฆ์ 1 ตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เยี่ยมยุทธหักผ่านก่อตั้งขั้น 5 ความแข็งแกรงของพวกเขาจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,000 จิน หรือเทียบเท่าได้กับผู้ครอบคริงขุมพลังอำนาจแห่งพยัคฆ์ 2 ตัว

เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่า"ฝ่ามืออสนีบาต 2 ก้องคำราม"นั้นจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาได้มากมายถึงเพียงนี้

โดยปกติของคนส่วนใหญ่นั้นจะไม่ส่งผลกระทบชี้ชัดเช่นเดียวกับ เย่ชีเหวิน เพราะการฝึกฝนของพวกเขาจากอีกขั้นไปยังอีกขั้นหนึ่งนั้นมันจำเป็นที่จะต้องใช้เวลา แต่กับ เย่ชีเหวิน นั้นเขาใช้เวลาเพียงแค่ชั่วข้าม ฉะนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

——————

          "*เสียงฟ้าร้อง!"

ท้องฟ้าเริ่มสว่างในขณะที่ดวงตะวันค่อยๆเริ่มเฉิดฉายท้องฟ้า เย่ชีเหวิน ยังคงนั่งอยู่ภายในลานเล็กๆของตนและยังคงฝึกฝนอยู่อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ในความเป็นจริงเขาได้ฝึกฝนมาตลอดทั้งคืน

เย่ชีเหวิน ยังคงปล่อยฝ่ามือของเขาออกไป เสียงฟ้าร้องดังสนั่นกึกก้องไปทั่วลาน เป็นอีกครั้งที่"ฝ่ามืออสนีบาต"ถูกปล่อยออกไป ร่างกายของเขาต่างเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและมีไอน้ำระเหยออกมาตามร่างกาย ราวกับหมอกที่ปกคลุมไปทั่วร่างของเขา

ทุกครั้งที่ เย่ชีเหวิน ปล่อยฝ่ามือออกไป พลังปราณ มันได้พลุ่งพล่านไปทั่วร่างของเขา ทำให้ปราณและโลหิตของเขาเริ่มมีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น บวกกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมานับหลายเท่าตัว

ในช่วงแรกผลของมันได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ได้เริ่มปล่อย"ฝ่ามืออสนีบาต" ในทุกๆครั้งที่เขาปล่อยฝ่ามือออกไป ความแข็งแรงของเขาจะเพิ่มขึ้นมาทุก 1 จินต่อ 1 ฝ่ามือที่ปล่อยออกไป แต่พอหลังจากนั้นนานๆเข้าจาก 1 ฝ่ามือก็ลายเป็น 10 ฝ่ามือถึงจะสามารถเพิ่มความแข็งแรงได้ 1 จิน

3 วันต่อมา ความแข็งแรงของ เย่ชีเหวิน ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 200 จิน กลายเป็น 870 จิน

          "อัสนีคำราม!" เสียงร้องกัมปนาทดั่งสนั่นออกมาจากฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน จนเกิดเป็นเสียงร้องคำรามดังออกมา 4 อีกครั้ง หรืออีกในหนึ่งก็คือใน 3 วันมานี้"ฝ่ามืออสนีบาต"ของเขาได้บรรลุขึ้นไปอีก 2 ขั้น

เสียงพายุสายฟ้าที่ดังสนั่นออกมาอย่างกึกก้องไม่ต่างไปจากตอนที่อยู่ภายใน"พื้นที่ลึกลับ"

ก้องคำรามที่ 1

ก้องคำรามที่ 2

ก้องคำรามที่ 3

ก้องคำรามที่ 4

เย่ชีเหวิน สามารถแสดง 4 ก้องคำรามออกมาได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่ในตอนแรกมันมีอุปสรรคขว้างกันความคืบหน้าของเขาอยู่มากมาย แต่ในตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว

ภายใต้สถานการณ์ปกติทั่วไปแล้วการจะเข้าใจ"ฝ่ามืออสนีบาต"ในขณะฝึกได้นั้นมันเป็นไปได้ยากมาก แต่ถึงอย่างนั้น เย่ชีเหวิน ก็ยังประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจถึงข้อมูลต่างๆในขณะที่ฝึกซ้อมอยู่ภายใน"พื้นที่ลึกลับ" ในความเป็นจริงแล้วแม้แต่ระดับความเข้าใจของเขาก็ยังรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมถึง 100 เท่า

แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังกล่าวได้ว่ามีข้อบกพร่องอยู่ ซึ่งนั่นก็คืออัตราการดูดซับศิลาวิญญาณนั้นอยู่ในระดับที่รวดเร็วมาก เพื่อให้เขาได้บรรลุ"ฝ่ามืออสนีบาต 4 ก้องคำราม"เขาจำเป็นต้องใช้ศิลาวิญญาณทั้งหมดไปกว่า 10 ก้อน โดยที่ เย่ชีเหวิน ใช้เวลาในการรวบรวมมันมาอย่างยาวนานและยากลำบาก

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาได้มานั้นมันดีกว่าสิ่งที่เสียไป ฉะนั้นเขาจึงยังไม่เลือกที่จะยอมแพ้

ในตอนนี้ เย่ชีเหวิน กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตซึ่งขาดแคลนศิลาวิญญาณเป็นอย่างมาก เพราะเขาได้ใช้ศิลาวิญญาณที่มีอยู่ไปจนหมดแล้วกับการฝึกฝน แน่นอนว่า เย่คงหมิง เองก็ควรที่จะมีศิลาวิญญาณอยู่มาก แต่หลังจากที่มันถูกพิจารณาว่าเป็นสกุลเงินภายใน"โลกการต่อสู้ที่แท้จริง" ศิลาวิญญาณเหล่านี้จึงมิใช่เพียงแค่นำมาบ่มเพาะพลังเพียงเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นสกุลเงินได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เขาในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะ เย่คงหมิง ได้บอกกล่าวไว้แล้วว่าบางครั้งก็ไม่อาจใช้ศิลาวิญญาณจำนวนมากไปในช่วงระยะเวลาสั่นๆได้

ดังนั้น เย่ชีเหวิน ในตอนนี้จึงไม่มีทางเลือกนอกจากการต้องหยุดฝึกฝน ศิลาวิญญาณทั้งหมดของเขาได้กลายเป็นก้อนผงขาวไปแล้วในพริบตา ในขณะที่เขาใช้มันไปกับการเข้าใจในเนื้อหาของ"ฝ่ามืออสนีบาต"

ดังนั้น เย่ชีเหวิน จึงตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วว่าเขาจะมุ่งหน้าไปที่ด้านหลังของหุบเขาฉิงฟง เพื่อขัดเกลาวรยุทธของเขา สำนักยี่หยวนนั้นตั้งอยู่บนหุบเขาฉิงฟง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพวกสัตว์ปีศาจร้ายนานาพันธุ์ พวกมันเหล่านี้ล้วนมีพลังอำนาจวิเศษ

นอกจากนี้ หากเขาต้องการที่จะเข้าใจเนื้อหาของตำรายุทธทุกประเภท เขาก็จำเป็นที่จะไล่ล่าพวกมันเพื่อให้ได้ผลึกศิลามา เพราะ"พื้นที่ลึกลับ"ของเขานั้นมันจำเป็นที่จะต้องใช้ผลึกศิลาเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นตัวขับเคลื่อน

######################################################

B1 : ดูลำบากเนาะกับช่วงเริ่มต้น

B2 : แรกๆก็เงี้ย เหมือนจน! แต่พอหลังๆนะ อุ๊บแหม่!! เจ้าพ่อกิจการบั้มเงินแห่งชาติ เชื่อกูดิกูเห็นมาหลายเรื่องแล้ว!

B3 : ถ้าหลังๆมันรวยตัวร้ายกูก็โกงว่ะ

B4 : ขอให้เป็นอย่างนั้นนะ B3 !!!!

4 ความคิดเห็น:

  1. คำผิดค่ะ ** บริสุทธิ์ผุดผ่อง ** คุณใช้ บริสุทธิ์พลุพร่อง.. ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  2. เดี๋ยวก็ฆ่าสัตว์อสูรเก็บตัง

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม