บทที่ 10 - ผู้แข็งแกร่ง

เย่ชีเหวิน ประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น นี่หมายความว่าพวกมันต้องการที่จะสังหารเขาเพื่อแย่งชิงสมบัติไป!

และเป็นไปตามคาดพวกมันไม่ฟังคำใดๆทั้งนั้น ชายหนุ่มในชุดม่วงได้เดินตรงมาทาง เย่ชีเหวิน พร้อมกับสองมือที่กลายเป็นคู่กรงเล็บนกอินทรี นี่คือเคล็ดวิชากรงเล็บนกอินทรี ด้วยพลังอำนาจของเคล็ดวิชาผนวกกับพื้นฐานฝึกตนปลายก่อตั้งขั้นห้า จึงทำให้มันมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ศิษย์ชั้นในตระกูลจาง

ร่างของชายหนุ่มปรากฏขึ้นราวกับเป็นภาพของนกอินทรีขนาดใหญ่ ขณะที่ฝ่ามือของมันกลายเป็นคู่กรงเล็บนกอินทรี ทำให้มันดูราวกับสามารถคว้าอากาศและบดขยี้ทุกสิ่งอย่างได้อย่างง่ายดายจนเกิดเป็นคลื่นกระแทกกวาดผ่านออกไป ในขณะเดียวกันใบหน้าของมันก็เผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย ราวกับว่ามันได้เห็นภาพของ เย่ชีเหวิน นอนจมกองโลหิตเพราะอำนาจกรงเล็บของมัน

ดุจดั่งนกอินทรีขนาดใหญ่ที่กำลังโฉบเหยื่อ ด้วยปราณที่หนาแน่นจนก่อเป็นรูปร่างนกอินทรี

แต่ในขณะเดียวกัน เย่ชีเหวิน ก็ยื่นฝ่ามือออกไปเพื่อตอบโต้กลับในทันที พร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นดังก้องอยู่รอบฝ่ามือ ฉีกกระฉากเกราะป้องกันปราณของชายหนุ่มชุดม่วงออกเป็นชิ้นๆ และคว้าไปที่คอของชายหนุ่มชุดม่วงโดยตรง

ในความเป็นจริงมันมีความแตกต่างกันมากระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ เย่ชีเหวิน สามารถทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามลงได้อย่างง่ายดาย

ชายหนุ่มในชุดม่วงถูกคว้าคอโดยมือข้างเดียวของ เย่ชีเหวิน ด้วยฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขามันทำให้รู้สึกราวกับเป็นครีมเหล็กที่ล็อคแน่น ทำให้ไม่แม้แต่จะหายใจหรือเคลื่อนไหวใดๆได้ หากมันยังคงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่อไป มันคงต้องตายลงด้วยเงื้อมมือของ เย่ชีเหวิน อย่างแน่นอน

สำหรับ เย่ชีเหวิน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงมือกับผู้ฝึกยุทธ ด้วยอำนาจของพยัคฆ์ห้าตัวผนวกกับฝ่ามืออสนีบาตแปดก้องคำราม ทำให้ชายหนุ่มชุดม่วงพ่ายแพ้ให้กับเขาอย่างง่ายดาย ราวกับมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสอง

ในขณะเดียวกันการตอบสนองที่ไม่อยากเชื่อและความประหลาดใจก็ได้ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มอีกสองคน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มนายน้อยตระกูลจางกับชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีดำ สำหรับพวกมันแล้วนี่เป็นสิ่งที่เรียกว่าอยู่เกินกว่าสามัญสำนึก

          "หยุดปล่อยมันลงเดี๋ยวนี้" ชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีดำตะโกนกล่าว

          "ดี ถ้าเจ้าอยากได้นัก เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้า!" ภายใต้เสื้อคลุมยาวของ เย่ชีเหวิน กล้ามเนื้อของเขาปูดนูน ในขณะที่ในเวลาต่อมาร่างของชายหนุ่มชุดม่วงได้ถูกโยนออกไป

          "ปัง!" ทันทีที่ชายหนุ่มชุดม่วงได้ถูกโยนออกไปทางชายหนุ่มชุดคลุมดำ เมื่อเห็นร่างที่พุ่งตรงเข้ามา ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำก็ยืนแขนทั้งสองข้างออกไปเพื่ออ้ารับ แต่ในขณะนั้นเองเสียง *แคร็ค *แคร็ค ก็ดังออกมาจากแขนทั้งสองข้างของมัน ราวกับมันถูกทุกตีโดยบางสิ่งบางอย่างที่มีขนาดใหญ่และทรงพลัง จนทำให้กระดูกของมันแตกเป็นชิ้นๆ

ในตอนนี้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของ เย่ชีเหวิน ได้ทะลุถึงจุดพลังอำนาจของพยัคฆ์ห้าตัว ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเขามีพละกำลังมากถึงสองพันห้าร้อยจิน ในขณะที่ชายหนุ่มชุดคลุมยาวสีดำมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ก่อตั้งขั้นห้าและมีพลังอำนาจของพยัคฆ์อยู่เพียงสามตัว ด้วยเหตุนี้มันจะสามารถรับแรงพลักดันที่พุ่งตรงมาได้อย่างไร ฉะนั้นทันทีที่แขนของมันยื่นตรงออกไปมันก็ราวเหมือนกับถูกทุบ กระดูกของมันแตกหัก และโค้งงอลงไปอย่างน่าประหลาดใจ


          "แคร็ค!" เสียงแตกหักของกระดูกระเบิดออกมาจากทางด้านหลังของชายหนุ่มชุดม่วง ในทันทีที่มันกระแทกเข้ากับชายหนุ่มชุดดำ ด้วยแรงปะทะกันอย่างรุนแรงส่งผลให้กระดูกสันหลังของชายหนุ่มชุดม่วงแตกหักและอวัยวะภายในบางส่วนถูกทำลาย ทำให้มันพ่นโลหิตออกมาจากปากพร้อมกับเศษอวัยวะภายในบางส่วน ก่อนที่จะล้มลงและหมดสติไปจนยากที่จะบอกได้ว่าเป็นอยู่หรือตายไปแล้ว

คำอธิบายอาจฟังดูยาว แต่ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจ

นายน้อยหนุ่มตระกูลจางถึงกับโกรธกริ้ว ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วลมหายใจ สองผู้ใต้บังคับบัญชาของมันก็ถูกจัดการลงได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งหนึ่งในสองคนก็ยังอยู่ในอาการที่ไม่ทราบว่าเป็นอยู่หรือตายไปแล้ว มือทั้งสองข้างชายหนุ่มกำแน่นราวกับสามารถบดขยี้หินให้แหลกเป็นผุยผงได้ในพริบตา เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าไม่แตกต่างอะไรไปจากการตบไปที่ใบหน้าของมันเข้าอย่างจัง

          "ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังรนหาที่ตายอยู่อย่างแท้จริง!" นายน้อยหนุ่มตระกูลจางเกรี้ยวกราด พลังปราณเริ่มแพร่ขยายกว้างขึ้น เมื่อเทียบกับชายหนุ่มอีกสองคนก่อนหน้านี้ พื้นฐานฝึกตนของมันนั้นอยู่ในระดับก่อตั้งขั้นหก ซึ่งความแข็งแกร่งของมันก็น่าทึ่งอย่างเหลือเชื่อ จนอาจกล่าวได้เลยว่าตัวมันนั้นมีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นศิษย์หลักได้อย่างง่ายดาย "ข้าจะตัดมือและเท้าของเจ้า ทำลายวรยุทธของเจ้า แต่เท่านั้นมันยังไม่เพียงพอ ข้าจะถลกหนังของเจ้าด้วย!"

กำปั้นของนายน้อยหนุ่มตระกูลจางระเบิดพลังอำนาจออกมาอย่างเต็มที่ ปราณอันหนาแน่นกวาดผ่านท้องฟ้า อากาศสั่นสะเทือน จนปรากฏเป็นภาพของมังกรที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังปราณพุ่งตรงไปทาง เย่ชีเหวิน 

          "เคลื่อนไหวดั่งอัสนีเคลื่อนย้ายดั่งวายุ!" เย่ชีเหวิน เค้นเสียง เพียงชั่วอึดใจ ฝ่ามืออสนีบาตของเขาก็ถูกยิงออกไปพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังสนั่น โจมตีเข้าใส่กลุ่มปราณรูปมังกรของนายน้อยหนุ่มตระกูลจาง จนกระจัดกระจายหายไปภายในชั่วพริบตา

          "ปัง!" ฝ่ามือทั้งสองข้างของนายน้อยหนุ่มตระกูลจางถูกตีกลับ โลหิตไหลผ่านพุ่งออกมาจากปากในทันที พร้อมกับร่างที่ถูกโยนจนพลิกคว่ำล้มลงไปกับพื้น ดวงตาเบิกกว้างจนแทบจะถลนและใบหน้าเผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ความไม่อยากเชื่ออย่างรุนแรง "เป็นไปไม่ได้ ก้องคำรามที่แปด นี่เจ้าฝึกฝนก้องคำรามที่แปด!"

นายน้อยหนุ่มตระกูลจางไม่อาจยอมรับได้ว่า เย่ชีเหวิน จะสามารถฝีกฝนฝ่ามืออสนีบาตมาได้จนถึงระดับนี้ มันเป็นที่แน่ชัดว่าการฝึกฝนให้ได้ก้องคำรามที่แปดนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุ แม้ต่อให้เป็นศิษย์หลักก็ตาม ที่สำคัญตำรายุทธฝ่ามืออสนีบาตก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นเคล็ดวิชาที่เร้นลับอะไร แม้แต่ตระกูลจางเองก็ยังมีมันไว้ในการครอบครอง แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่เคยมีศิษย์ในรุ่นเดียวกันที่สามารถฝึกฝนก้องคำรามที่แปดได้มาก่อน ในประวัติศาสตร์แล้วมันไม่เคยมี

แล้วที่ยิ่งน่าหวาดหวั่นไปมากกว่านั้น คือความจริงที่ว่า เย่ชีเหวิน ได้ครอบครองขุมพลังอำนาจแห่งพยัคฆ์ห้าตัว มันไม่ใช่ความแข็งแรงที่กระจัดกระจายกันออกไป แต่เป็นความแข็งแรงที่รวมกันอยู่ในจุดเดียว จึงทำให้การโจมตีของเขานั้นยิ่งน่ากลัวมากขึ้น

          "ในตอนนี้เจ้าควรจะรู้แล้วสินะว่าการโจมตีของเจ้ามันไร้ประโยชน์!" เย่ชีเหวิน ยิ้มเยาะ พร้อมกับก้าวเดินข้างหน้า ทันใดนั้นฝ่ามืออสนีบาตก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พร้อมพุ่งตรงไปข้างหน้าและกระแทกเข้ากับหน้าอกของนายน้อยหนุ่มตระกูลจางจนร่างของมันปลิวกระเด็นลอยขึ้นไปบนฟ้า

          "ปัง!" หน้าอกของนายน้อยหนุ่มตระกูลจางถูกเจาะเป็นรูกว้าง กระดูกซี่โครงหักและแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ โลหิตและชิ้นเนื้อไหลนองทั้งยังสาดกระเซ็นไปทั่ว เย่ชีเหวิน ได้บดขยี้หัวใจของชายหนุ่มจนแทบทำให้มันลาโลกไปในทันทีที่หัวใจมันถูกทำลาย

ในช่วงเวลาไม่นานทั้งสามคนก็ได้ถูกจัดการลงด้วยเงื้อมมือของ เย่ชีเหวิน เพียงคนเดียว หนึ่งถูกสังหาร หนึ่งไม่รู้เป็นอยู่หรือตาย ส่วนอีกหนึ่งบาดเจ็บสาหัส

          "ไม่จริงนี่เจ้า...เจ้ากล้าสังหารนายน้อยหนุ่ม!" ชายหนุ่มชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่เศร้าโศก

ใบหน้าของ เย่ชีเหวิน ยังคงนิ่งเฉยไร้อารมณ์ในขณะที่เขาค่อยๆก้าวเดินไปหามัน

          "นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ได้โปรดปล่อยพวกข้าไป ข้าเป็นเพียงแค่ข้ารับใช้ของนายน้อยหนุ่ม พวกข้าไม่อาจฝ่าฝีนคำสั่งใดๆได้!" ในตอนนี้เองที่ใบหน้าของชายหนุ่มชุดดำได้เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง แต่ลึกลงไปในจิตใจของมันต่างเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ซึ่ง เย่ชีเหวิน สามารถสังเกตุเห็นมันได้อย่างชัดเจน

          "เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้า? ทั้งที่ข้ากับเจ้าก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความบาดหมางต่อกัน แต่พวกเจ้าก็ยังพยายามมาหาเรื่องข้า ทั้งยังพยายามที่จะชิงสมบัติข้า นี่ยังไมต้องกล่าวถึงว่าพวกเจ้าพยายามที่จะสังหารข้าแทนที่จะปล่อยข้าไป!" คำอ้อนวอนของชายหนุ่มชุดดำถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง มีหรือที่ เย่ชีเหวิน จะยอมเชื่อคำพูดของมันโดยง่าย? ร่องรอยของความเกลียดชังเผยให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านทางใบหน้าของมัน ซึ่ง เย่ชีเหวิน สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าถ้าหากเขาปล่อยมันไป ก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะกลับมาแก้แค้นเขาในภายหลัง

เมื่อเห็นว่า เย่ชีเหวิน ตั้งใจสังหารตนชายหนุ่มชุดคลุมดำก็เริ่มคลั่งในทันที "เจ้าจะต้องตาย...เหล่าผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลจางต่างอยู่ที่นี่,เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกเราไม่กลับไปพวกเขาจะต้องตามหา และเจ้า...เจ้าจะต้องตาย พวกเขาจะรู้ความจริงทุกอย่าง พวกเขาจะแก้แค้นให้เรา!"

          "เจ้าจะต้องได้ผลกรรมที่เจ้าได้หว่านเอาไว้ นี่คือผลจากการกระทำของตัวเจ้าเอง!"

เย่ชีเหวิน ไม่สนใจทุกอย่างและปล่อยฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณออกไป

          "ปัง!"

ชายหนุ่มกรีดร้องอย่างน่าสงสารก่อนที่จะตายไป

หลังจากที่สังหารชายหนุ่มชุดดำ เย่ชีเหวิน ก็สังหารชายหนุ่มชุดม่วงที่ไม่รู้ว่าเป็นอยู่หรือตาย นี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับพยานรู้เห็น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่มีเวลามากพอที่จะวางแผนการใดๆ จากคำพูดสุดท้ายของชายหนุ่มชุดดำ มีความเป็นไปได้ว่าผู้เชี่ยวชาญตระกูลจางจะอยู่บริเวณใกล้ๆนี้ เช่นนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

หลังจากที่ เย่ชีเหวิน จากไปไม่นาน กลุ่มคนห้าคนก็ได้มาถึง เมื่อสายตาของพวกมันจับจ้องมองไปที่ร่างศพทั้งสามร่างที่นอนอยู่บนพื้น คนทั้งกลุ่มก็เริ่มคลุ้มคลั่งในทันที

          "ศพของนายน้อยหนุ่มยังคงอุ่นอยู่ เป็นข้อสันนิษฐานว่ามือสังหารยังคงไปได้ไม่ไกล ไล่ตามมันไป ตามมันไปจนกว่าจะถึงสุดขอบโลก จงลากคอมันมาให้ได้ ถ้าไม่ได้ถลกหนังและเลาะเนื้อมันออก ก็คงไม่อาจลบความเกลียดชังที่อยู่ในใจนี้ไปได้!" ผู้นำกลุ่มกล่าวเสียงดัง ในขณะที่ขบฟันด้วยความโกรธแค้น บนใบหน้าของมันมีแผลเป็นยาวลึกขีดฆ่าบนใบหน้า

          "โอ้ว!" อีกสี่คนต่างตระโกนพร้อมกัน

-จบ-



แปลโดย : นายกะทิ 3B

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม