บทที่ 11 - ต่อสู้

ในส่วนลึกของหุบเขาฉิงฟง มีเงาจำนวนมากโดดไปมา

สามวันผ่านไปนับตั้งแต่ที่ เย่ชีเหวิน ได้สังหารนายน้อยหนุ่มตระกูลจาง เขาได้หลบหนีอยู่ภายในป่ามาแล้วกว่าสามวัน หลังจากที่หลบออกไปจากหน้าผา เขาก็พบว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากกำลังไล่ตามเขามาและพยายามที่จะสังหารเขา มีอยู่หลายครั้งที่เขาเกือบถูกไล่ตามจนทัน

ในตอนนี้ เย่ชีเหวิน รู้สึกมืดแปดด้าน ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะพลั้งมือสังหารบุคคลใหญ่โตเข้าแล้วจริงๆ มิเช่นนั้นบุคคลมากมายคงไม่ไล่ตามเขามาเช่นนี้ตลอดสามวันสามคืน ข่าวการตายคงแพร่งพรายไปทั่วตระกูลจางแล้วอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นบุคคลที่ไล่ตามมาคงมากมายเช่นนี้

แต่อย่างไรก็ตามเขาก็มิได้เสียใจกับการกระทำของเขา หลังจากที่นายน้อยหนุ่มตระกูลจางได้ล้ำเส้นของมันมากเกินไป!

ในขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าก็ได้ดังมาจากทางด้านหลัง ทันทีที่ เย่ชีเหวิน ได้ยินเช่นนั้น เขาก็กระโดดขึ้นไปทางด้านบนและหลบซ่อนอยู่พุ่มไม้ในมุมสูง

ไม่นานร่างของคนสองคนก็ได้ปรากฏขึ้นยังตำแหน่งที่ เย่ชีเหวิน ยืนอยู่ก่อนหน้านี้ คนหนึ่งมีสัดส่วนที่สูง ส่วนอีกคนมีลักษณะที่ค่อนข้างเตี่ย ทั้งสองแต่งกายเต็มยศซึ่งบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นคนของตระกูลจาง

          "รอยเท้ามาถึงตรงนี้แล้วหาย!" ผู้ฝึกยุทธร่างสูงกล่าว

          "ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องควานหาตัวมันให้เจอ ท่านผู้นำตระกูลทรงโกรธมากเมื่อได้ทราบเรื่องนี้ เจ้ามือสังหารนั่นมันจะต้องชดใช้ หากเราตามมันไปในตอนนี้ เราจะต้องไล่มันทันอย่างแน่นอน!" ผู้ฝึกยุทธรูปอวบอ้วนกล่าว

          "ใช่มันจะต้องชดใช้!" ทันทีที่สิ้นเสียง ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองก็ได้ปล่อยฝ่ามืออกไปโดยพลัน พุ่งทะยานขึ้นไปที่พุ่มไม้ด้านบนมุมขวาราวกับลูกศร

เดิมที่พวกมันทราบถึงตำแหน่งของ เย่ชีเหวิน อยู่ก่อนแล้ว แต่การสนธนาเมื่อครู่ก็เป็นเพียงแค่การเล่นละครตบตาเท่านั้น

ใบหน้าของ เย่ชีเหวิน สลดลงในทันใด เขาประมาทพวกมันมากเกินไป เพียงแค่ลบรอยเท้ามันยังคงไม่เพียงพอ ประสบการณ์ของเขายังน้อย พวกมันจึงหาเขาพบ

การจู่โจมอย่างฉับพลันของพวกมัน หาก เย่ชีเหวิน ไม่ระวังมากพอ เขาอาจถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสได้เลยทีเดียว

เย่ชีเหวิน เหยียดมือออกไปพร้อมเสียงคลื่นพายุฟ้าคำราม เป็นเสียงดังก้องคำรามออกมาทั้งหมดถึงแปดเสียงสะท้อน

เย่ชีเหวิน ได้ใช้ความแข็งแรงออกไปทั้งหมดอย่างเต็มที่ เมื่อชีวิตถูกแขวนอยู่บนเส้นดาย เขาก็ไม่กล้าที่จะสบประมาทใดๆ เขาไม่รีรอที่จะปล่อยฝ่ามือออกไปในทันที

          "แคร็ค" เสียงกระดูกหักดังออกมาจากแขนของจอมยุทธ์สูงผอมบาง กระดูกของมันแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ ด้วยการโจมตีของ เย่ชีเหวิน แม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์สูงสุดก่อตั้งขั้นห้าก็ยังมิอาจต้านทานได้ ด้วยพละกำลังของพยัคฆ์ห้าตัวก็นับว่าหนักหนาสาหัส คงไม่ต้องกล่าวถึงพลังอำนาจของฝ่ามืออสนีบาตแปดก้องคำราม

จอมยุทธ์สูงผอมบางกรีดร้องพร้อมกับล้มลง

ขณะเดียวกัน เย่ชีเหวิน ก็พุ่งตัวออกมาจากพุ่มไม้ราวกับลูกศร มุ่งตรงไปยังจอมยุทธ์สูงผอมบาง

          "ตึม!" เย่ชีเหวิน เรียกใช้ฝ่ามืออสนีบาตอีกครั้งและโจมตีเข้าใส่จอมยุทธ์สูงผอมบางอย่างรวดเร็วและรุนแรง

จอมยุทธ์สูงบางกรีดร้องอย่างทรมารจากการโจมตีของ เย่ชีเหวิน

มันตายลงในทันที ด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งย้าย

          "เด็กน้อยเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!" จอมยุทธ์อ้วนร่างใหญ่ตัวเตี้ยน่าเกรงขาม เห็นสภาพของสหายถูกตีตายไปต่อหน้า ก็ทำให้จิตใจของมันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มันปล่อยหมัดเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ในทันที ปราณขนาดใหญ่พุ่งตรงไปราวกับลูกศรที่คมกริบ มันพุ่งตรงไปทาง เย่ชีเหวิน อย่างรวดเร็ว

          "ปัง!" เพียงแต่ เย่ชีเหวิน ได้กวาดฝ่ามือออกไปและคว้าจับมันเอาไว้ ในขณะที่จอมยุทธอ้วนยังมิทันตั้งตัว ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งของ เย่ชีเหวิน ก็เปล่งเสียงฟ้าร้องคำรามพร้อมกับโจมตีกลับไป

ชั่วพริบตาความกลัวก็ได้เกาะกินจิตใจของจอมยุทธ์อ้วน มันดึงมือกลับมาตั้งท่าป้องกันฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน ในทันที แต่อย่างไรก็ตาม ทันทีที่หมัดเข้าปะทะ แขนของจอมยุทธ์อ้วนก็แตกหักและฉีกขาดในทันที เสียงกรีดร้องดังก้องออกมาอย่างน่าสังเวช ร่างของมันกระเด็นบิดหมุนพลิกคว่ำหน้าคะมำลงกับพื้น โดยที่แทบไม่ต้องใช้ความคิด ทันทีที่ตั้งหลักได้ มันก็ตั้งท่าที่จะหลบหนีออกไปในทันที

มันไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะจับมันได้หรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเขาไม่ใช่คู่มือของ เย่ชีเหวิน

แต่มีหรือที่ เย่ชีเหวิน จะปล่อยให้ศัตรูของเขาหลบหนีออกไป? เสียงฟ้าร้องดังสนั่นออกมาจากฝ่ามือของเขาอีกครั้ง ซึ่งมันดังก้องกังวาลออกไปทั่วทุกหนแห่ง

การเคลื่อนไหวของ เย่ชีเหวิน รวดเร็วเฉกเช่นราวกับสายฟ้า เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั่นๆ เขาก็กระแทกหมัดลงไปที่ด้านหลังของจอมยุทธ์อ้วน

          "อ็อค!" โลหิตคำโตกระอักออกมาจากปากของจอมยุทธ์อ้วนพร้อมกับอวัยวะภายในบางส่วน ห้าอวัยวะภายในต่างถูกทำลายด้วยแรงหมัดของ เย่ชีเหวิน

          "ตึม!" ร่างของจอมยุทธ์อ้วน ก้าวออกไปข้างหน้าได้เพียงแค่สองก้าว ก่อนที่จะล้มลงกับพื้น

เมื่อเห็นเช่นนั้น เย่ชีเหวิน ก็พลันโล่งอก พลางถอนหายใจ และพยายามครุ่นคิดว่าครั้งต่อไปเขาจะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง

          "น้องชาย,ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความกล้า,เจ้ากล้าทำร้ายคนตระกูลจางของข้าเช่นนั้นได้เยี่ยงไร!" แต่ในเวลานั้นเอง ร่างเงาสีดำก็ได้ปรากฏขึ้นบนกิ่งไม้ด้านบน เย่ชีเหวิน ได้หันหน้ากลับไปมองที่ต้นเสียงและพบเข้ากับชายหนุ่มรูปหล่อในชุดคลุมยาวสีดำ ซึ่งดูเหมือนจะมีอายุราวยี่สิบปี

          "นั่นเป็นเพราะพวกมันต้องการที่จะสังหารข้า,ข้าจึงทำไปเพื่อปกป้องตนเองเพียงเท่านั้น!" เย่ชีเหวิน กล่าววาจาอย่างหนักแน่น

          "ไร้สาระ!,เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ?,แม้ว่าหนึ่งในคนตระกูลจางของข้าต้องการที่จะสังหารเจ้า,เจ้าก็ไม่มีตัวเลือกใดทั้งนั้น,นอกจากต้องทำตามคำสั่งแต่โดยดี!" ชายหนุ่มในชุดดำกล่าววาจาใหญ่โตโดยถือตนเป็นใหญ่

          "หึ,ช่างเป็นวาจาที่เอาแต่ใจนัก!" เย่ชีเหวิน กล่าววาจาด้วยน้ำเสียงที่ดูเย้ยหยัน

          "โอหัง,เจ้ากล่าว่าข้าเอาแต่ใจอย่างนั้นรึ,เช่นนั้นมาดูกันว่าข้าจะจัดการกับเจ้าเช่นไร!" ชายหนุ่มชุดดำกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายและบ้าคลั่ง บรรยากาศรอบตัวของมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปและดูน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น ซึ่งน่าประหลาดใจเป็นอย่างมากที่พื้นฐานฝึกตนของชายหนุ่มผู้นี้นั้นอยู่ในระดับปลายก่อตั้งขั้นหก

ชายหนุ่มชุดดำได้สะบัดเหวี่ยงข้อมือออกไป ปรากฏเป็นคลื่นใบมีดที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังปราณที่ถูกปล่อยออกมา ปราณหนาแน่นที่ควบแน่นจนกลายเป็นใบมีด สามารถบิดเบือนได้แม้แต่อากาศและตัดผ่านอากาศออกเป็นแนวขวาง

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เย่ชีเหวิน ก็ถึงกับตกตะลึง เขาทราบดีว่าการควบแน่นพลังปราณและสร้างเป็นศาสตราวุธ เป็นความสามารถของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับขั้นดินแดนก่อเกิดเท่านั้นถึงสามารถทำได้ พวกมันคือกลุ่มก้อนพลังปราณ กลุ่มก๊าซที่กลายเป็นศาสตราวุธ ซึ่งจัดการได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับศาสตราวุธทั่วไป ว่ากันตามจริงคุณภาพและประสิทธิภาพของมัน อาจเทียบเคียงได้กับ ศาสตราวุธวิเศษ

ปราณใบมีดที่พุ่งตรงเข้ามา เย่ชีเหวิน ไม่กล้าแม้แต่ที่จะรับมันโดยตรง แม้ว่าในมือของมันจะมิได้มีดดาบอยู่เลยก็ตาม แต่ปราณใบมีดที่กำลังพุ่งตรงเข้ามานั้นคือของจริง

เย่ชีเหวิน เค้นเสียงพร้อมกับกระแทกฝ่ามือออกไป จนเกิดเป็นคลื่นพลังปราณสายฟ้าที่ส่งเสียงฟ้าร้องดังสนั่นกระแทกเข้ากับคลื่นพลังปราณใบมีด

          "ตูม!"

          "ปัง!" แม้ว่า เย่ชีเหวิน จะรีดเร้นพลังปราณทั้งหมดออกไป แต่พลานุภาพของใบมีดลมปราณก็มีเหลือเกินคณานับ มันได้หักล้างกับพลังปราณทั้งหมดของเขาจนสิ้น และยังคงมีเศษชิ้นส่วนเล็กน้อยของปราณใบมีดที่เล็ดลอดออกมา กระแทกเข้ากับศีรษะของเขาอย่างรุนแรง โชคดีที่มิได้เป็นอะไรมากนัก และบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

          "ฮ่าฮ่าฮ่า,หากเจ้ายอมจำนนเสียตอนนี้,แม้ว่าเจ้าจะสังหารน้องชายข้า,แต่ข้าให้สัญญาว่าจะรักษาสภาพศพของเจ้าให้ดูดีที่สุด,ฮ่าฮ่าฮ่า,จงรีบตัดสินใจเสีย,เพื่อสภาพศพที่ดีที่สุดของเจ้า!" ชายหนุ่มกล่าววาจาเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่น

เย่ชีเหวิน เช็ดโลหิตที่มุมปากพร้อมกับกล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย "อย่ามัวแต่พล่ามไร้สาระ,ให้ข้ายอมจำนนต่อเจ้าเช่นนั้นรึ,เหอะ!,ฝันไปเถอะ!"

          "ถ้าเช่นนั้นก็จงเตรียมตัวตาย!" ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำกล่าวด้วยน้ำเสียงและท่าทีแววตาที่ดุร้าย ในชั่วพริบตา ปราณใบมีดก็ปรากฏอยู่ในมือของชายหนุ่ม ในขณะที่ข้อมือของเขากำลังเหวี่ยงสะบัดออกไปอย่างต่อเนื่อง เพียงชั่วครู่ปราณใบมีดจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้โหมกระหน่ำเข้าใส่ เย่ชีเหวิน อย่างบ้าคลั่ง

ราวกับมีดร้อนตัดเนย อากาศไม่อาจต้านทานได้ ใบมีดได้กวาดผ่านและสับลงไปที่ เย่ชีเหวิน

          "ตูม!" ปราณอันคมได้ปะทะเข้ากับร่างของ เย่ชีเหวิน ด้วยการโจมตีอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเผยให้เห็นการตัดเฉือนถึงกระดูกอย่างชัดเจน แน่นอนว่าความเจ็บปวดนั้นคงไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

แต่อย่างไรก็ตาม แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาได้ตัดสินใจและก้าวเดินออกไปยังเบื้องหน้า แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะตกเป็นรองเมื่อเทียบกับชายหนุ่มชุดดำ ความแข็งแกร่งของมันมั่นเหมาะที่จะมีพละกำลังของขุมอำนาจแห่งพยัคฆ์ถึงเจ็ดตัว ซึ่งเมื่อเทียบกับเขามันก็ยังคงมีความห่างชั้นกันอยู่ถึงสองตัว หากเขายังคงเป็นฝ่ายตั้งรับการโจมตีจากระยะไกลอยู่เช่นนี้ต่อไป ก็คงเป็นตัวเขาเองที่จะเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำไปในที่สุด ฉะนั้นจึงมีเพียงวิถีทางเดียวที่เขาจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้ในครั้งนี้ คือการใช้ฝ่ามืออสนีบาตแปดก้องคำรามในระยะประชิด

เคล็ดวิชาฝ่ามืออสนีบาตแปดก้องคำรามนั้นใกล้จะถึงในระดับขั้นสมบูรณ์ของเคล็ดวิชาแล้ว ซึ่งแม้จะเป็นตัววิชาที่ยังไม่สมบูรณ์ในตอนนี้ แต่พลังอำนาจของมันนั้นก็นับว่าน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และในตอนนี้เขาก็มีเพียงแค่โอกาศเดียวเท่านั้น

แต่ในขณะเดียวกัน เย่ชีเหวิน ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจทานทนได้ แต่ถึงอย่างนั้น ดวงตาของเขาก็ไม่แม้แต่ที่จะกระพริบ ตรงกันข้ามพลังปราณของเขากับปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง ฝ่าเท้ากดทับลงไปที่พื้นจนเกิดเป็นรอยแยก และร่างที่พุ่งตรงทะยานออกไปราวกับหัวลูกศร

ชายหนุ่มชุดดำถึงกับมิคาดคิดว่าไม่เพียงแค่ เย่ชีเหวิน ไม่ยอมจำนนต่อเขาเพียงเท่านั้น แต่กับยังต่อต้านใบมีดลมปราณของเขาได้และพุ่งตรงเข้ามา แม้ว่าทั่วร่างของมันจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แค่เพียงชั่วพริบตาร่างของ เย่ชีเหวิน ก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มชุดดำ ซึ่งแม้แต่ชายหนุ่มชุดดำก็ยังคงประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงสามารถดึงใบมีดกลับมาได้ทันอย่างรวดเร็วและป้องกันการโจมตีของ เย่ชีเหวิน 

ปราณใบมีดของเขาได้ตัดผ่านออกไปเป็นแนวอีกครั้ง

-จบ-

แปลโดย : นายกระทิ 3B

2 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม