บทที่ 18 - ดินแดนโลหิตหยวน

          “ ใคร…ใครมันกล้าทำร้ายข้า ! ” หม่าเหยียน ได้กล่าวออกมาในขณะที่กำลังกรีดร้อง

เย่ชีเหวิน นั้นจริงเขาไม่ได้หลบซ่อนอยู่ภายในฝูงชน และ หวังเหลี่ย ได้พบเห็นเขาอย่างรวดเร็วพลางรีบวิ่งออกไปด้วยลักษณะที่มีความสุขพร้อมกล่าว “ สารเลวเจ้าหายไปไหนมาตั้งหนึ่งเดือน ! ”

          “ ข้าไปฝึกฝนวิชาอยู่ที่ด้านหลังของ[ หุบเขาฉิงฟง ] ! ” เย่ชีเหวิน กล่าว

          “ เฮ่ ทำในตอนนี้ข้าถึงไม่สามารถดูผ่านระดับพลังของเจ้าได้กัน ! ” หวังเหลี่ย กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกที่แปลกเพราะปกติเขาและ เย่ชีเหวิน นั้นมีความสามารถที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว เย่ชีเหวิน สมควรที่จะมีความแข็งแรงเป็นด้อยกว่าเขา เพราะตั้งแต่ยังเล็กเขาแข็งแกร่งกว่า เย่ชีเหวิน เสมอมา แต่ทว่าในเวลานี้เมื่อเขามองไปยังสหายที่ดีที่สุดของเขา เขากลับไม่สามารถมองผ่านระดับพลังของสหายได้

แต่ในขณะเดียวกันที่เขาไม่สามารถมองผ่านระดับพลังของ เย่ชีเหวิน ได้นั้น เย่ชีเหวิน กลับสามารถมองผ่านระดับพลังของเขาได้อย่างชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่าในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จและสามารถทลายกำแพงก้าวผ่านไปสู่ระดับขั้นที่ 4 เขาได้เลื่อนละดับตัวเองเข้าไปอยู่ชนชั้นกลางของสำนักฝ่ายใน

          “ เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ในตอนนี้เจ้าควรที่จะบอกข้าก่อนว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น เจ้านั้นมันพยายามที่จะขู่รีดไถเจ้าใช่หรือไม่ ! ” เย่ชีเหวิน กล่าวพลางจ้องมองไปที่ หม่า เหยียน ด้วยสายตาที่เย็นชา

          “ ข้าก็แค่ต้องการที่จะมาหาซื้อเคล็ดวิชาการต่อสู้แถวนี้หลังจากที่ข้าพึ่งจะทลายกำแพงก้าวผ่านมายังระดับที่ 4 ได้เท่านั้น หากแต่ใครมันจะไปรู้กันว่าข้าต้องมาถูกไอ้บ้านี่ข่มขู่รีดไถให้ซื้อตำราของมันตั้ง 500 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ! ” หวัง เหลี่ย กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นไปด้วยความโกรธ “ พอข้าบอกว่าไม่ซื้อมันก็กล่าวหาว่าข้านั้นได้อ่านเนื้อหาภายในของตำราเล่มนี้ไปแล้ว! ”

ถ้ามันเป็น [ เคล็ดวิชาการต่อสู่ระดับขั้นก่อเกิด ] โดยธรรมชาติแล้วล่ะก็ อย่าว่าแต่ 500 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]เลย เพราะต่อให้เป็น 50,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]ก็ยังนับว่าไม่ได้แพงจนเกินเลย แต่ทว่านี่มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ไม่เช่นนั้นแล้วล่ะก็มันคงไม่ถูกตั้งราคาไว้เพียงแค่ 500 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]

โดยสถานการณ์เช่นนี้แล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะมองว่ามันไม่ได้เป็นตำราที่มีความล้ำคาอะไร เพราะโดยส่วนมากแล้วตำราที่ไม่สมบูรณ์เหล่านี้จะนับว่าไม่มีคุณค่าไปเสียทั้งหมด และนี่เองก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีคนตั้งใจจะขาย [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] ด้วยราคาเพียงแค่ 500 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]

          “ หาที่ตาย…ไอ้สารเลวเจ้าจริงบังอาจกล้าลอบทำร้ายข้า! ” หม่า เหยียน มองด้วยสายตาที่ดุร้าย แม้ว่ามือของเขายังคงอยู่ในอาการปวดหากแต่เจตนาฆ่าได้แพร่กระจายเต็มไปทั่วดวงตาของเขา

เขาได้ก้าวเท้าพลางกระโดดออกไปข้างหน้าพุ่งตรงไปยัง เย่ชีเหวิน พร้อมปล่อยหมัดของเขาออกไปอีกครั้ง

          “ ปัง! ” เย่ชีเหวิน ไม่แสดงถึงท่าทีที่ป้องกันใด ๆ เขาได้ยื่นฝ่ามือออกไปและคว้าจับกำปั้นโดยตรง

          “ ตึมครึมครึม! ” เย่ชีเหวิน ได้คว้าจับกำปั้นของ หม่า เหยียน และบีบมันจนเกิดเสียงดังก้อง

          “ แกรก ”

          “ อ้า! ” หม่า เหยียน กรีดร้องออกมาด้วยความทรมานราวกับเสียงหมูที่กำลังจะถูกเชือด เย่ชีเหวิน ได้บีบกำปั้นของเขาโดยตรง ด้วยพลังอำนาจที่เขาได้ใช้มันออกมาในตอนนี้เป็นเพียงแค่ความแข็งแกร่งระดับขั้น[9 พยัคฆ์ ] ในขณะที่ หม่าเหยียน มีความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับขั้น[ 4 พยัคฆ์ ] ซึ่งมันจะเป็นไปได้เช่นไรที่เขาจะสามารถต้านทานความแข็งแรงของ เย่ชีเหวิน ได้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองนั้นมันแตกต่างกันมากเกินไป

          “ อย่ามาเกะกะ ” เย่ชีเหวิน ตะโกนพลางยกเท้าของเขาและเตะออก

          “ ปัง ! ” หม่า เหยียน ไม่อาจทนความรุนแรงเช่นนี้ได้ ร่างกายของเขาปลิวกระเด็ดออกไปราวกับว่าวที่ขาดและล่วงหล่นสู่พื้นจากที่สูงอย่างรุนแรง และทันใดนั้นเองก็ได้มีฟองไหลออกมาจากปากของเขาและล้มลงหมดสติไปในทันที

ผู้คนรอบข้างเริ่มจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยความรู้สึกที่น่าทึ่งอย่างมิเชื่อ เพราะ หม่า เหยียน นั้นเป็นถึง 1 ใน 20ของศิษย์แถวหน้าภายในสำนักฝ่ายใน แต่กลับถูก เย่ชีเหวิน เตะอย่างรุนแรงจนอยู่ในขั้นเป็นหรือตายก็ยังมิอาจรู้ ชายหนุ่มที่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้เขาเป็นใครกัน

ซึ่งด้วยข้อมูลที่เกี่ยวกับ เย่ชีเหวิน นั้นมีน้อยมาก เพราะความแข็งแกร่งของเขาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน มันจึงเลยไม่มีใครที่ให้ความสนใจเขา และนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นเป็นใคร

ทุกคนรอบข้างเริ่มหันมามองแล้วว่าชายหนุ่มที่พึ่งโผล่มานี้เป็นจริงคือเหี้ยมโหด เขาได้เข้ามาและจัดการเตะ หม่า เหยียน จนอยู่ในขั้นอาการโคม่าเป็นหรือตายยังมิอาจรู้ และเขาสมควรที่จะเป็นจุดสูงสุดของระดับที่ 5 ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีความสามารถที่รุนแรงเช่นนี้

และแน่นอนว่าตั้งแต่ที่ หม่า เหยียน เป็นคนคดโกงจึงไม่มีใครที่ออกมาแก่ต่างให้เขาแต่กลับแอบปรบมือเสียเป็นส่วนใหญ่

เย่ชีเหวิน ได้พบตำรา [ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] ที่อยู่ข้างกายของ หม่า เหยียน เขาไม่สามารถที่จะเปิดดูมันได้ภายในที่เต็มไปด้วยฝูงชนเช่นนี้และแน่นอนว่าเขาก็ไม่สามารถจับมันยัดใส่ลงไปที่แหวนพื้นที่ได้ เพราะว่ามันจะสร้างความแตกตื่นและความอิจฉาริษยาให้แก่ฝูงชนไม่น้อยซึ่งนั้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อเขา

          “ เราไปกันเถอะ! ” เย่ชีเหวิน หันหน้าไปและกล่าวกับ หวัง เหลี่ย

ไม่นานนักพวกเขาก็ได้ออกมาจากย่านการค้า หวังเหลี่ย ไม่สามารถที่จะรอจึงได้ถาม “ เจ้าไปทำอะไรมาถึงได้มีความแข็งแกร่งเช่นนั้นได้กัน เจ้าจริงเตะไอ้บ้า หม่าเหยียน นั้นเสียกระเด็นไปเลย ”

          “ ฮ่าฮ่า ข้าเนี่ยนะแข็งแกร่ง ! ” เย่ชีเหวิน กล่าวพลางหัวเราะซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับพื้นที่ลึกลับ

          “ บัดซับ เจ้าจะบอกข้าว่าเจ้าไม่รู้อย่างงั้น! ”

พวกเขาทั้งสองต่างแกล้งกันไปแกล้งกันมาก่อนที่จะแยกทางกลับไปที่จวนของตน

แต่ในขณะนั้นเอง เย่ชีเหวิน ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่กลับมา เย่ คงหมิง ก็ได้กลับมาหลังจากที่ออกไปทำธุระข้างนอกมาเช่นกัน และในทันทีที่เขาได้เห็น เย่ชีเหวิน ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มพลางเปิดปากกล่าวว่า“ ยินดีต้อนรับกลับ! ”

เย่ชีเหวิน กลับมาโดยใช้เวลาที่น้อยกว่าหนึ่งเดือน เขาไม่ได้กล่าวอะไรเพราะสำหรับจอมยุทธ์ที่ออกไปเพื่อฝึกฝนวิชานั้นเขาอาจจะเป็นที่จะต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีหรือแม้แต่ 10 ปีในการกลับมานั้นก็ย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอันใด

นอกจากนี้ เย่ชีเหวิน ก็ยังได้บอกพวกเขาแล้วก่อนที่จะออกเดินทาง

          “ ไม่เลว เจ้าดูแข็งแกร่งขึ้น! ” เย่ คงหมิง เขาพยักหน้าตอบเพื่อให้กำลังใจพร้อมกล่าว สำหรับเขาแล้วเขาได้ทุ่มเทเอาใจใส่ในตัวบุตรบุญธรรมคนนี้ของเขาเป็นอย่างมาก

          “ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะผอมลงแสดงว่าเจ้าจะต้องกินอาหารที่ไม่ดีลงไปเป็นแน่! ” ความกังวลสำหรับแม่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความคิดและความเป็นห่วงที่แตกต่างกันอย่างมาก

          “ ดีที่เจ้ากลับมาในตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสองวันก่อนที่งานการงานแข่งขันจะจัดขึ้น! ” เย่ คงหมิง ว่ากล่าว “ ซึ่งในการแข่งขันใหญ่นี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ติดอันดับ 100 คนแรก เป็นเงินและทรัพยากรจำนวนมาก! ”

          “ ครับท่านพ่อ! ” เย่ชีเหวิน พยักหน้าซึ่งแน่นอนว่าที่เขากลับมาในเวลานี้นั้นก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแข่งขันหากแต่ไม่ใช่การเข้ารอบ 100 อันดับแรกอย่างที่พ่อเขาได้หวังเอาไว้แต่เป็น 1 ใน 5อันดับแรกที่เขาได้ตั้งเป้าเอาไว้ต่างหาก

          “ นี่ท่านบรรพชนเรียกคุณไปทำไม? ” แม่ เซี้ยชุนเชว่ ได้กล่าวถาม เย่ คงหมิง

          “ ตระกูลจางในปีจะเข้าสอบร่วมกับศิษย์หลักของสำนักเรา! ” เย่ คงหมิง ว่ากล่าว “ นอกจากนี้ตระกูลจางยังได้เสนอยังได้เสนอให้ศิษย์หลักของเราเข้าร่วมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่นี้ที่[ ดินแดนโลหิตหยวน ] ! ”

          “ อะไรกัน[ ดินแดนโลหิตหยวน ] ” เซี้ยชุนเชว่ กล่าวด้วยความรู้สึกที่ประหลาดใจ

เย่ชีเหวิน แน่นอนว่าเขาได้รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของ [ ดินแดนโลหิตหยวน ] มาบ้างเพราะนอกเหนือไปจาก ดินแดนเทพสงคราม แล้วมันยังจำนวนมากของพื้นที่ดินแดนขนาดใหญ่และมิติขนาดเล็ก พวกมันเหล่านี้ได้เกิดมาจากพลังงานธรรมชาติ บางทีก็อาจมีพื้นที่ขนาดที่กว่างใหญ่ไพรศาลเท่ากับท้องฟ้าใหญ่ บางพื้นทีก็มีขนาดเล็กเพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตร

และหลังจากเป็นระยะเวลาหลายปีที่พื้นที่พวกมีได้ถูกสร้างขึ้นมาพวกมันก็จะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากมายรวมไปถึงพืชพันธุ์และเหล่าสัตว์ปีศาจในพื้นที่ของตัวมันเอง

สภาพแวดล้อมพื้นที่ของ [ ดินแดนโลหิตหยวน ] นั้นเป็นภพขนาดเล็ก มันมีทุกชนิดของสัตว์และหญ้าวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน ประตูทางเข้าไปยังดินแดนนี้นั้นอยู่ภายใน[ หุบเขาฉิงฟง ] และมีเพียงแค่เจ้าสำนักยี่หยวนและผู้นำตระกูลจางเท่านั้นที่ถือครองกุญแจที่จะเข้าสู่ภพนี้ได้ ตามตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่าเมื่อนานมากแล้วบรรพชนของตระกูลจางและผู้ก่อตั้งสำนักยี่หยวนได้ผลประโยชน์อยากมากจากในสถานที่แห่งนี้ จนในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะสร้างสำนักยี่หยวนและสร้างรากฐานของตระกูลจางขึ้นที่นี่

และแน่นอนว่า [ ดินแดนโลหิตหยวน ] นั้นสามารถเปิดเข้าไปได้ตามที่เขาต้องการ หากแต่มันต้องคำนึงถึงความจริงที่ว่ามันเป็นภพที่มีขนาดเล็กมากเกินไป ฉะนั้นความสามารถในการกู้คืนของพวกมันจึงนับได้ว่าเป็นไปด้วยตามอัตราความเร็วที่ต่ำมาก ฉะนั้นแล้วในการจะเปิดมันในแต่ละครั้งจำเป็นที่จะต้องเว้นช่วงเอาไว้ระยะเวลาหนึ่งถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B3 : เอาว่ะตระกูลจางมีความต้องการ รอบนี้มีระดับที่ 9 ด้วยนิ 5555 พี่ขอหนัก ๆ หน่อยนะ รอบนี้
B2 : ผลไม้เลือดหยวน ?? เหมือนจะได้เวลาพัฒนาไปยังอีกระดับขั้นหนึ่งแล้วอ่ะดิเนี่ย
B1 : 55555 มีความโหดและไม่จนทรัพยากร
B3 : เหอะของที่มีเนี่ย ขโมยมาทั้งนั้น
B4 : บาปหนา
B3 : ช่ะทั้ง ฆ่า ทั้งปล้น
B1,B2 : จงยอมรับความจริงซะนี่แหละพระเอกในนิยายกำลังภายใน
B3 : พระเอก [ ม. ] มันชั่ว !!!!
B4 : แต่หยุ่นเชอชั่วยิ่งกว่า เมียนี่จะเป็นโหล่และ ผิดศีลข้อ 3 ประพฤติผิดในกามไปเต็ม ๆ มันหน้าจะเอาอย่างบักเหวินมั่งนะดูดิตอนนี้ยังไม่มีเมียเลย
B1 : อย่าว่าแต่เมียเลย วี่แววนางเอกนี่ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยเพ่

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

  1. การแข่งขันจะมีขึ้นในอีกสามเดือน แต่ขึ้นเขาฝึกเกือบเดือน เหลือเวลาสองวันแข่งขัน อิอิอิ

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม