บทที่ 20 - เผชิญหน้า

เย่ชีเหวิน และ หวังเหลี่ย ได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดการแข่งขันโดย หวังเหลี่ย ได้กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ อาเหวิน ในเวลานี้เจ้าจะต้องได้อันดับที่ดีได้อย่างแน่นอน! ”
         
หวังเหลี่ย นั้นไม่ได้เข้าร่วมการประลองจัดอันดับด้วย เพราะผู้คนที่จะสามารถไต่อันดับไปอยู่ที่ร้อยคนแรกได้นั้นจะต้องมีระดับพลังลมปราณที่ไม่น้อยกว่า[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]ซึ่งตัวเขาเองนั้นพึ่งจะพัฒนามาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉะนั้นแล้วเขาจึงรู้ดีว่าเขานั้นไม่มีโอกาสในการที่จะติดอันดับได้เลย เขาเป็นจริงเสมอไม่ได้มีความตั้งใจหรือมีความทะเยอทะยานอะไรมากนัก
         
          “ อ่า! ” เย่ชีเหวิน พยักหน้า
         
          “ ว่าแต่เจ้าต้องระมัดระวังตัวเองเอาไว้ด้วยล่ะ ข้าได้ยินข่าวมาว่า หย่า หญิง ได้กำลังวางแผนที่จะจัดการเจ้า! ” หวังเหลี่ย กล่าวอย่างจริงจัง “ นางต้องการที่จะล้างแค้นเจ้าเพราะเจ้าไปทำร้ายน้องชายของนางด้วยการที่จะทำให้เจ้าเป็นคนพิการ! ”
         
          “ จะทำให้ข้าพิการ? อ่างั้นขอดูหน่อยว่ามันจะมีความสามารถถึงขนาดนั้นไหม! ” เย่ชีเหวิน กล่าวยิ้มเยาะ
         
สถานที่จัดงานอัดแน่นไปด้วยผู้คน เย่ชีเหวิน แรกมุ่งหน้าไปยังที่สถานที่จัดงานและได้รับกลุ่มหมายเลขที่ 127 หมายเลขเหล่านี้จะมีอยู่ด้วยกันจำนวนสองหมายเลข ซึ่งผู้ที่จับได้หมายเลขเดียวกัน พวกเขาก็จะถูกเลือกให้เป็นคู่ต่อสู้กันในงานประลอง และ 1 ชั่วโมงต่อมา จำนวนบุคคลสำคัญของสำนักยี่หยวนก็ได้มาถึง พวกเขาได้ใช้เคล็ดวิชา [ เหยียบท้องฟ้า ] และขึ้นไปยังสถานที่มุมสูงด้านบน
         
ในสายตาของพวกเหล่าศิษย์ได้เปล่งประกายไปด้วยความรู้สึกอิจฉา แม้ว่าเคล็ดวิชา [ เหยียบท้องฟ้า ] นั้นจะบินไม่ได้ หากแต่มันก็ไม่ใช่เคล็ดวิชาที่พวกเขาจะสามารถบรรลุได้โดยง่าย
         
เหล่าฝูงชนได้กลั้นลมหายใจของพวกเขา เพราะผู้อาวุโสที่ได้ปรากฏตัวในครั้งนี้นั้นเป็นถึงเสาหลักของสำนักยี่หยวน พวกเขาเป็นผู้ค้ำจุนสำนักยี่หยวนให้มีอิทธิพลภายใน[ หุบเขาฉิงฟง ]และภูมิภาคใกล้เคียงเทียบเท่ากับตระกูลจาง พวกเขามีความแข็งแกร่งและผลงานทีดี พวกเขาจึงได้รับรางวัลจากผู้อาวุโสบางคนภายในนิกาย จึงทำให้บรรยากาศของพวกเขานั้นเปลี่ยนไปไม่เหมือนดั่งอดีตที่เคยผ่านมา!
         
เย่ชีเหวิน เห็นพ่อของเขาในหมู่กลุ่มผู้อาวุโสเหล่านั้น หากแต่สำหรับผู้อาวุโสคนอื่น ๆ แล้วนั้นมันค่อนข้างที่จะไม่ชัดเจน
         
สถานที่จัดงานนั้นได้ครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวางและมันได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้ถึง 200 ลานประลอง
         
เย่ชีเหวิน และ หวังเหลี่ย ได้เดินไปยังสนามพื้นที่ประลองที่ 127
         
          “ เจ้าคือผู้เข้าร่วมประลองในสนามที่ 127 อย่างนั้นรึ ” เย่ชีเหวิน เพียงเดินเข้าไปเขาก็ได้พบเข้ากับชายร่างใหญ่ที่กำลังหัวเราะเยาะมาทางเขาแล้วกล่าว “ เจ้านี่ช่างโชคร้ายเสียจริงที่ดันมาเจอ ชิ ฟง ข้าขอแนะนำให้เจ้ารีบยอมแพ้ซะ! ”
         
          “ ชิ ฟง ชายผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับขั้นที่ 5 แม้ว่าเขาจะสามารถไต่ไปถึงอันดับที่ 50 ได้ก็ต้องทำใจยอมรับว่านั้นคือความสามารถของเขา! ” ศิษย์รูปร่างสูงใหญ่กล่าวอย่างต่อเนื่อง “ ถ้าหากเจ้ายังไม่รีบขึ้นไปขอยอมแพ้ในตอนนี้ เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไป เมื่อเวลานั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่เจ้าจะได้เอยปาก บางทีเจ้าอาจต้องเสียแขนหรือเสียขาสักข้าง! ”
         
ผิวของ หวังเหลี่ย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง “ ข้าไม่ได้คาดหวังเลยจริง ๆ ว่ามันจะเป็น ชิ ฟง! ”
         
          “ เฮ่เหวิน ดูเหมือนว่าศัตรูของเจ้าในรอบแรกนี้มันจะร้ายกาจเกินไปหน่อยไหม ข้าเคยได้ยินมาว่า ชิ ฟง นั้นอันตรายเป็นอย่างมากทั้งมันยังไร้ความปราณีเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาในการประลอง ได้มีศิษย์ผู้หนึ่งขอยอมแพ้กระดูกของเขาหักถึงกับต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลากว่า 6 เดือน! ”
         
          “ โอ้ค่อนข้างเอาแต่ใจ! ” เย่ชีเหวิน กล่าว
         
          “ เอาแต่ใจ ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นเวลานานที่ไม่เคยมีใครเรียกข้าว่า เอาแต่ใจ เช่นนี้! ” ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ได้ดังสนั่นออกมาจากลานประลอง “ เจ้านับว่าโชคดีมาก เพราะส่วนใหญ่คนที่ได้เอยปากพูดคำนี้ขึ้นมาข้าจะหักขามันซะ! ”
         
เย่ชีเหวิน เงยหน้ามอง เขาเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้มฉีกที่ปานจะกินเลือดกินเนื้อมองลงมายัง เย่ชีเหวิน
         
มันสมควรที่จะเป็น ชิ ฟง
         
          “ เฮ่ไอ้หนู เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้หรอก! ” ชิ ฟงยิ้ม “ ตราบใดที่เจ้ายอมหมอบคลานสัก 100 ครั้งข้าสัญญาว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป! ”
         
          “ นั้นมันขึ้นอยู่กับเจ้า! ” เย่ชีเหวิน ยิ้มเยาะและยังกล่าวเพิ่ม “ ตั้งแต่ผู้คนเชื่อมั่นว่าเจ้าจะสามารถหักขาของข้าได้ ข้าจะทำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขานั้นคิดผิด! ”
         
          “ หึไอ้น้องชายเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้ เพียงแค่กระบวนท่าด้วยมันก็เกินพอแล้วที่จะทำให้เจ้าพบกับความพ่ายแพ้! ” ชิ ฟง หัวเราะดังลั่น
         
          “ ลานประลองที่ 127 เริ่มต้น! ” ผู้ตัดสินเห็นว่าทั้งสองคนนั้นกำลังยืนอยู่จึงได้ป่าวประกาศออกไปในทันที สำหรับคำพูดที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ก่อนหน้านี้นั้นเขาก็ทำลาวกับว่าตนนั้นหูหนวกและไม่ได้ยินอะไร
         
ขณะที่เสียงของผู้ตัดสินได้จบลง ชิ ฟง ก็พุ่งตัวออกไปในทันทีราวกับว่าเขาเป็นหอยที่อยู่ในเปลือกที่พร้อมจะพุ่งออกมาตลอดเวลา ความเร็วของเขานั้นช่างเร็วมากจนไม่น่าเชื่อเพียงแค่พริบตาเขาก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของ เย่ชีเหวิน
         
แม้ว่าเขาจะเป็นคนอวดดี แต่ความแข็งแรงของเขานั้นคือของจริง แม้ว่าความคล่องตัวของเขาจะไม่ได้สูงมากนักก็ตาม แต่ด้วยแรงระเบิดเพียงพริบตาเดียวเขาก็ได้พุ่งตรงไปยังด้านหน้าของ เย่ชีเหวิน
         
ชิ ฟง ฉีกยิ้มราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาได้พุ่งตรงไปยัง เย่ชีเหวิน
         
          “ ผู้อาวุโส เย่ นั้นใช่บุตรชายของท่านหรือไม่ ที่กำลังต่อสู่อยู่ในลานประลองที่ 127! ” ผู้ อาวุโส ที่ได้นั่งอยู่ข้าง ๆ เย่ คงหมิง กล่าว
         
          “ ใช่เขาคือบุตรของข้า! ” เย่ คงหมิง พยักหน้าพลางกล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม
         
          “ จำได้ว่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาข้ายังเห็นเขาเป็นเพียงแค่เด็กเล็ก ๆ อยู่เลยแต่นั้นก็คือครั้งเดียวที่ข้าได้เห็นเขา ไม่หน้าเชื่อเลยว่าหลังจากผ่านมา 10 กว่าปี เขาจะเติบใหญ่ได้ถึงเพียงนี้! ” ผู้อาวุโสด้านข้าง กล่าวด้วยอารมณ์ร่วม
         
          “ คู่ประลองของเขาดูเหมือนว่าจะมีความสามารถที่ร้ายกาจเอาเรื่อง! ” ผู้อาวุโสขณะนี้ได้จ้องมองลงไปยังลานประลองแล้วกล่าว “ พลังเฉพาะตัวที่มีมาตั้งแต่เกิด ดูเหมือนว่านั้นจะทำให้เขาดูน่ากลัวกว่าคนปกติโดยเฉลี่ย! ”
         
          “ มันไม่สำคัญหลอกเพราะนี่มันจะทำให้เขาได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง! ” เย่คงหมิง ยิ้มกล่าวราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ทว่าดวงตาของเขานั้นกลับจับจ้องแน่นที่ลานประลองด้วยท่าทีที่กังวล
         
          “ ปัง! ” เย่ชีเหวิน ได้ยื่นฝ่ามืออกไปเพื่อรับหมัดที่รุ่นแรงของ ชิ ฟง มือของพวกเขาทั้งสองฝ่ายได้เกิดการปะทะกันโดยตรงจนทำให้เกิดเสียงระเบิดของอากาศขนาดใหญ่
         
เย่ชีเหวิน ยังคงยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง พลังอำนาจเฉพาะตัวที่ ชิ ฟง มีมาตั้งแต่เกิดมันทำให้พลังหมัดของเขานั้นรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียง[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] หากแต่ความแข็งที่เขาปล่อยหมัดออกไปนั้นสามารถเทียบเท่าได้กับผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถบังคับให้ เย่ชีเหวิน ขยับถอยหลังไปได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว
         
          “ ไม่…เป็นไปไม่ได้! ” ชิ ฟง ประหนึ่งเหมือนคู่ดวงตาของวัวที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเมื่อมองไปยัง เย่ชีเหวิน มันยากที่จะเชื่อเพราะต่อให้เป็นผู้เชียวชาญระดับขั้นที่ 6 ความแข็งแรงของเขาก็สมควรที่จะไม่เป็นลองเลยแม้แต่น้อย ทว่ามันกลับไม่คาดคิด เย่ชีเหวิน จริงไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
         
          “ ตึม เปรี้ยง เปรี้ยง ! ”
         
เสียงพายุลมฟ้าคะนองหมุนวนรอบฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน เขาได้เหวี่ยงฝ่ามือของเขาออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด พลังอำนาจอันมหาศาลของฝ่ามือได้กระแทกเข้าไปโดยตรงหน้าอกของ ชิ ฟง
         
          “ ปัง! ” ร่างกายของ ชิ ฟง พุ่งบินออกไปราวกับลูกศรด้วยฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน เลือดของเขาได้ซาดกระเซ็นไปทั่ว กระดูกภายในร่างกายของเขาทั้งหมดถูกทำลายไปกว่าครึ่งและเขาได้ล่วงลงไปนอกลานประลอง
         
          “ นี่มันอะไร…มันเกิดอะไรขึ้น! ”
         
ฝูงชนตกอยู่ในความโกลาหล พวกเขาทุกคนที่ให้ความสนใจกับการต่อสู้ของพวกเขาก่อนหน้านี้แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตน พวกเขาได้ยอมรับความสามารถของ ชิ ฟง ว่าเขาเป็นบุคคลที่แข็งแกร่ง แต่ความจริงคือเขาไม่สามารถทำให้ เย่ชีเหวิน ขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำเขายังถูกสวนจนกระเด็นกลับออกไปด้วยเพียงแค่ 1 กระบวนท่า ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเขาในตอนนี้นั้นเป็นอยู่หรือตาย
         
          “ โกงมันจะต้องใช้กลโกงเป็นแน่! ” ศิษย์หลายคนที่ได้ใกล้ชิดกับ ชิ ฟง พวกเขาไม่อาจทำใจให้เชื่อได้และมันยากที่จะยอมรับพวกเขาจึงตะโกนออกมา “ มันจะต้องใช่กลโกงกับศิษย์พี่ ชิ ฟง เป็นแน่! ”
         
สามารถชัดการ ชิ ฟง ด้วยระยะเวลาอันสั้นแถมยังส่งบินออกไปราวกับลูกศรด้วยกระโจมตีเพียง 1 กระบวนท่า วิธีการใดกันที่จะสามารถทำเช่นนี้ได้
         
          “ หุบปาก! ” ผู้ตัดสินกล่าวด้วยเสียงเย็น ซึ่งถูกหรือผิดนั้นเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เด็กเมื่อวานซืนมาสอนเขาว่าจะต้องทำเช่นไร
         
          “ ประลองในครั้งนี้ เย่ชีเหวิน ชนะเข้าสู่รอบสอง! ”
         
          “ ไอ้พวกโง่เง่า! ” เย่ชีเหวิน เหลือบมองไปยังจำนวนศิษย์เหล่านั้น
         
ชิ ฟง เป็นเพียงแค่เบี้ยตัวเล็ก ๆ เท่านั้น เขาสันนิษฐานว่า หม่า หญิง จะต้องเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังในการประลองครั้งนี้ ซึ่งเขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเพราะว่าเขาเชื่อมั่นว่า หม่า หญิง จะต้องชนะในการประลอง ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาทั้งสองคนจะต้องได้เจอกันอย่างแน่นอน
         
          “ ไม่เลว ไม่เลว คิดไม่ถึงเลยว่าเขาเกือบจะทำให้ข้าต้องผิดหวัง! ” ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างของ เย่ คงหมิง กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
         
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 3B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B2 : นั้นระครับท่านผู้ชม อ่อนแอก็แพ้ไป ดีแต่ปากก็มักจะลงเอยแบบนี้เสมอ
B1 : เหอะอีกไม่กี่ตอนผู้หญิงก็จะได้มีบทเสียที
B3 : เหอะมีมาก็เป็นตัวร้ายจะลำพึงไปทำไม
B1 : เอาน่าเพื่อมีลุ้น
B3 : ว่าแต่ B4 ไปไหนว่ะเนี่ย
B2 : เห็นว่าฉายา 4B หัวดอมันไม่เท่ น่ะมันก็เลยถอนตัวออกไป ให้กลายเป็น 3B หัวดอดูจะเท่กว่า
B3 : เอ้าแล้วใครจะอยู่ข้าง [ ก. ]
B1 : [ ม. ] มีข้างด้วยหรอ [ ก. ] เห็น [ ม. ] อยู่ตัวคนเดียวมาตลอดอยู่แล้วนะ
B3 : ……….
B2 : ก็ตามนั้นแหละครับ B4 ออกไปแล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็น เดอะแก๊ง 3B หัวดอดั่งเดิม
B3 : เอาดีดี
B2 : จริง!! เห็นมันบอกว่า บทก็น้อย ค่าตัวก็ถูก ก็เลยขอถอนตัวไปแสวงธรรม
B3 : แสวงธรรม WTF ??
B2 : เอาน่าเห็นบอกว่าจะมีแวะมาเยี่ยมเยียนบ้างท่ามีโอกาส

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม