บทที่ 28 - ลงเขา

เย่ชีเหวิน ออกจากด้านหลังของหุบเขา ฉิงฟง แล้วกลับไปยังสำนักยี่หยวน เขาเดินตรงไปที่ วิหารแสวงบุญ สถานที่ที่สามารถนำดวงจิตอสูร สมุนไพร ฯลฯ มาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นเงินตราของสำนักได้ และในขณะเดียวกัน วิหารแสวงบุญ ก็ยังเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมภารกิจต่าง ๆ เอาไว้มากมาย
         
บางภารกิจก็มาโดยจากบุคคลภายนอก บางภารกิจก็มาโดยตรงจากภายในสำนักซึ่งเหล่าผู้อาวุโสจะเป็นผู้มอบค่าตอบแทนเหล่านั้นให้ แม้ว่าบางอันจะเป็นวัตถุแปลกประหลาด หากแต่ส่วนใหญ่แล้วค่าตอบแทนมักจะเป็น[ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ซึ่งในตอนนี้ เย่ชีเหวิน จำเป็นที่จะต้องหาศิลาวิญญาณให้เร็วที่สุดฉะนั้นแล้วนอกจากการล่าสัตว์ปีศาจเขาจึงจำเป็นที่จะต้องมาทำภารกิจเหล่านี้ด้วยและแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นภารกิจที่ให้ค่าตอบแทนที่สูง
         
ด้วยความยากลำบากที่แตกต่างกันผลของค่าตอบแทนก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย
         
ภารกิจเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็น A B C และ D ซึ่งในแต่ละระดับก็จะสอดคล้องกับ ผู้อาวุโส ศิษย์หลัก ศิษย์ฝ่ายในและศิษย์ฝ่ายนอก ตามลำดับ ยิ่งระดับของภารกิจสูงมากเท่าไหร่ความยากของมันก็จะสูงมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าผลของค่าตอบแทนก็ต้องมีขนาดที่ใหญ่เช่นกัน
         
ในตอนนี้ เย่ชีเหวิน ได้กลายเป็นศิษย์หลักแล้วซึ่งเขาสามารถทำภารกิจระดับ B หรือ สูงกว่านั้นได้
         
ผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะทำภารกิจระดับ C และ D มีเพียงแค่ศิษย์ฝ่ายในไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเลือกทำภารกิจระดับ B เพราะว่าส่วนใหญ่ภารกิจระดับนี้จะมีเพียงแต่ศิษย์หลักเท่านั้นที่เลือกทำ
         
เย่ชีเหวิน ชำเรืองมองไปยังป้ายภารกิจและเปรียบเทียบภารกิจระดับ B กับภารกิจระดับ C และ D เขาสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภารกิจระดับ B นั้นมีอยู่ไม่มากเพราะค่าตอบแทนที่สูงมันจึงอยู่ที่บอร์ดป้ายได้ไม่นานนัก
         
          “ ตามหาหญ้าฟ้าเย็นในส่วนลึกของหุบเขา ฉิงฟง … ค่าตอบแทน 300 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ! ”
         
          “ ตามหาแกนกลางผลึกโลหิตราชันย์หม่าป่า … ค่าตอบแทน 500 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ! ”
         
เย่ชีเหวิน กวาดสายตามองผ่านไปยังภารกิจที่มีความยากในระดับที่สูงขึ้นและมีค่าตอบแทนตั้งแต่ 100 จนไปถึง 1,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] สำหรับศิษย์ฝ่ายในและศิษย์หลักแล้วนั้นตัวเลขพวกนี้ถือได้ว่าไม่ใช่จำนวนที่น้อย ๆ ในขณะที่พวกเขานั้นสามารถรับ[ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]ได้เพียงแค่ 300 ก้อนต่อเดือน
         
หากแต่ความยากในภารกิจนั้น ๆ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เช่น ราชันย์หมาป่าโลหิต สัตว์ปีศาจที่มีนิสัยดุร้ายและน่ากลัว การบ่มเพาะพลังของมันนั้นอยู่ใน [ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 8 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] แม้แต่ศิษย์หลักส่วนใหญ่ยังไม่อาจทำภารกิจนี้สำเร็จได้ภายในครั้งเดียว
         
เย่ชีเหวิน ได้กวาดสายตามองออกไป เขาได้เหลือบไปเห็นป้ายภารกิจที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในวันนี้
         
          “ คุ้มกันสมาคมการค้า ฉิงฟง ในการขนส่งสมุนไพรไปยังเมือง เทียนหยวน … ค่าตอบแทน 3,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ! เงื่อนไข จำเป็นจะต้องมีระดับการบ่มเพาะพลังอยู่ใน [ ระดับขั้นที่ 7 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] หรือสูงกว่านั้น ! ”
         
จู่ ๆ ดวงตาของ เย่ชีเหวิน ก็สว่างจ้าขึ้น ค่าตอบแทน 3,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]สำหรับภารกิจนี้ ถ้าเกิดว่าเขาได้รับ 3,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]เหล่านี้มา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปัญหาในการขาดแคลนศิลาวิญญาณของเขานั้นจะหายไปในทันที ยิ่งไปกว่านั้น [ ตัดจันทร์หาย ] อาจฝึกฝนไปจนถึงใน [ ดินแดนที่ 4 สูงสุด ] หรือแม้แต่กระทั่งระดับการบ่มเพาะพลังของเขานั้นก็อาจเพิ่มมากขึ้น
         
เพียงแค่หน้าที่คุ้มกัน แต่กับได้ค่าตอบแทนถึง 3,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] นับได้ว่าเป็นการโอ้อวดอย่างแท้จริง แม้แต่เหล่าศิษย์หลักเองก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาเกือบปีถึงจะมีจำนวน[ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]ได้มากมายถึงเพียงนี้
         
ยิ่งไปกว่านั้นเงื่อนไขภารกิจนี้ก็ยังนับได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง ผู้เชียวชาญ [ ระดับขั้นที่ 7 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] หรือ สูงกว่านั้น มันเทียบเท่าได้กับระดับการบ่มเพาะพลังของศิษย์หลัก
                   
สำนักยี่หยวนนั้นตั้งอยู่บนยอดหุบเขาฉิงฟง และสมาคมการค้าฉิงฟงก็ตั้งอยู่ภายในเมืองฉิงฟง ซึ่งสมาคมการค้าฉิงฟงนั้นเป็นสมาคมการค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดภายในเมืองฉิงฟงและมักจะทำการค้าที่เกี่ยวข้องกับส่วนผสมในการทำโอสถ และเมือง เทียนหยวน นั้นก็เป็นเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกับหุบเขาฉิงฟง ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณครึ่งวัน หากออกจากที่นี่ในตอนเช้าก็จะไปถึงยังที่นี่นั่นในช่วงเย็น
         
ภารกิจคุ้มกันส่วนมากนั้นจะจัดอยู่ในภารกิจระดับ C และ D หากแต่ค่าตอบแทนถึง 3,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถพบเจอได้โดยง่าย
         
และในขณะเดียวกันเขาในตอนนี้ได้ตกอยู่ในสถานะขาดแคลนศิลาวิญญาณเป็นอย่างมาก มีหรือที่เขาจะไม่สนใจภารกิจนี้
         
เขาหยิบภารกิจนี้ขึ้นมาพลางนำมันไปให้แก่ผู้ดูแลพร้อมกล่าวว่า เขาจะไปยังสมาคมการค้าฉิงฟง ในเช้าวันพรุ่งนี้
         
หลังจากเขาได้เลือกภารกิจของเขาเรียบร้อยแล้วนั้น เขาก็ไม่ได้คิดที่จะอยู่ภายในวิหารแสวงบุญนานนัก เขาได้เดินตรงกลับไปยังจวนเล็ก ๆ ของเขา และเริ่มทำการปิดประตูเพื่อฝึกฝน
         
ภายในพื้นที่ลึกลับ เย่ชีเหวิน ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาวิชาอย่างไม่รู้จบ เพียงแค่ก้าวเท้าออกไปไม่กี่ก้าวเขาก็ได้ไปปรากฏอยู่ในสถานที่อันห่างไกล เคล็ดวิชา [ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] ในตอนนี้สมควรที่จะเป็น [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นสูง ] และเพียงสิ่งที่ เย่ชีเหวิน ได้แสดงออกมาในตอนนี้นั้นมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาได้ฝึกฝนมันจนมาถึงแล้วใน [ ดินแดนที่ 4 สูงสุด ]
         
เย่ชีเหวิน มีความรู้สึกว่ามันยังคงห่างไกลที่เขาจะสามารถเข้าถึงขีดจำกัดของมันได้ เช่นราวกับว่าเขาได้มาถึงคอขวดแล้ว แต่ปลายทางของมันนั้นกับไม่มีจุดที่สิ้นสุด
         
เย่ชีเหวิน นั้นรู้ดีว่า [ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] นั้นเป็น [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] หากแต่มันเป็นฉบับที่ไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นแล้วเขาจึงสามารถสำแดงพลังอำนาจของมันออกมาได้เพียงเทียบเท่ากับ [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นสูง ] ซึ่งภายใต้สถานการณ์ปกติที่แล้วนั้น เขาจำเป็นที่จะต้องมีอีกครึ่งหนึ่งของเคล็ดวิชา [ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] เขาจึงจะสามารถฝึกฝนมันไปจนถึงในระดับแก่นแท้ของมันได้
         
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่เขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาวิชาอยู่ภายในพื้นที่ลึกลับเขาก็ได้ค้นพบเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งหลังจากที่เขาได้ประสบความสำเร็จในการฝึกฝนมาจนถึงใน [ ดินแดนที่ 4 สูงสุด ] จู่ ๆ เขาก็ได้ค้นพบว่ามันยังสามารถฝึกฝนไปยังระดับขั้นต่อไปได้ สาระสำคัญที่ขาดหายไปของเคล็ดวิชา [ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] ได้เริ่มเติมเต็มเข้ามาภายในหัวของเขาซึ่งมันรวมไปถึงสาระที่มีเนื้อหาสำคัญและความล้ำลึกบางอย่าง
         
เย่ชีเหวิน รู้สึกอดไม่ได้ที่จะต้องตกตะลึง หลังจากที่ได้ค้นพบว่าพื้นที่ลึกลับของเขานั้นไม่เพียงแต่จะเร่งความเร็วในการฝึกฝนเคล็ดวิชาการต่อสู้ แต่มันยังสามารถช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของเคล็ดวิชาการต่อสู้ได้อีกเช่นนั้นหรือ ?
         
หากนี่คือเรื่องจริงมันอาจกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เขาได้รับ [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] มาแบบฟรี ๆ ซึ่งมันยังรวมไปถึงเคล็ดวิชา [ ตัดจันทร์หนาว ] และเคล็ดวิชา [ อำนาจหยกพิสุทธิ์ ] ซึ่งเคล็ดวิชาเหล่านี้นั้นล้วนแล้วเป็น [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] หากเขาสามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาทั้ง 3 เหล่านี้ให้ไปถึงใน [ ดินแดนที่ 4 สูงสุด ] ได้แล้วล่ะก็มันจะนับได้ว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว
         
แม้แต่ผู้เชียวชาญ [ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] หลายคนก็ยังไม่สามารถฝึกฝน [ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] ได้ถึง 3 เคล็ดวิชา
         
ในขณะที่ เย่ชีเหวิน นั้นกลับสามารถบรรลุไปยังระดับที่สูงขึ้นของพลังอำนาจ!
         
แต่อย่างไรก็ตามมันเห็นได้ชัดเจนว่าการที่เขาจะสามารถบรรลุไปได้ถึงระดับนั้น เขาจำเป็นที่จะต้องใช้ศิลาวิญญาณในระดับที่สูงมากขั้นซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้
         
และในภารกิจนี้มันก็ได้เติมเต็มความต้องการของเขา
         
เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้ายามเช้าแสงแห่งรุ่งอรุณได้สาดส่องไปทั่วหล้า เย่ชีเหวิน ได้ออกมาจากสำนักและเดินลงจากหุบเขาฉิงฟงไปตามเส้นทาง นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงมาจากหุบเขา ก่อนหน้าเขานั้นเต็มไปด้วยความสบสนวุ่นวายและหวาดหวั่นทุกครั้งที่นึกถึงการลงจากหุบเขา หากแต่ในบัดนี้ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มสูงขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดซึ่งมันได้ลบความกังวลใจเหล่านั้นออกไปจนหมดและนี่ก็จะเป็นโอกาศที่เขาจะได้ลงจากเขา
         
เมืองฉิงฟงนั้นตั้งอยู่เบื้องล่างของหุบเขาฉิงฟง มันเป็นเมืองที่มีประชากรมากกว่า 10,000 คน จอมยุทธ์หลายคนได้ลงมาและขั้นไปยังบนหุบเขาเพื่อไปเยี่ยมชมแก่สำนักยี่หยวนที่ตั้งอยู่บนยอดของหุบเขา เหตุผลที่จอมยุทธ์จากต่างแดนได้มาเยี่ยมชมสำนักยี่หยวนเป็นจำนวนมากนั้นก็เพราะว่าหุบเขาฉิงฟงนั้นมีสัตว์ปีศาจมากมายซึ่งมันเหมาะแก่การล่าสำหรับพวกเขา
         
เมืองค่อย ๆ ก่อตัวและเจริญรุ่งเรื่องมากขึ้น
         
เย่ชีเหวิน นั้นได้สืบค้นข่าวอยู่หลายครั้งก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่า สมาคมการค้าฉิงฟงนั้นเป็นสถานที่ที่มีขนาดใหญ่มากและยังเป็นเรื่องที่ง่ายมากเกินไปที่จะหามัน
         
ผู้เข้าร่วมการเดินทางได้ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าของสมาคมการค้าฉิงฟง ในทันทีที่เขาได้เห็น เย่ชีเหวิน เขาก็ได้เดินมายังเบื้องหน้าพลางกล่าวถามว่า “ ท่านเป็นศิษย์ที่โดดเด่นจากสำนักยี่หยวนที่จะมาใช้เวลาในการคุ้มกันสมาคมการค้าฉิงฟงของเรา ! ”
         
สำนักยี่หยวนนั้นมีชื่อเสียงที่ค่อนข้างจะสูงส่งภายในละแวกแถวนี้
         
          “ ใช่! ” เย่ชีเหวิน พยักหน้า
         
          “ เช่นนั้นโปรดตามข้าน้อยมา ! ” ผู้ดูแลกล่าวว่า
         
#########################################################
         
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
         
B3 : เหอะ เหอะ ๆ เหอะ ๆ ๆ ๆ เหอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ [ ม. ] โดน !!!!! คุ้มกันบ้าอะไรตั้ง 3000 ศิลา เรื่องนี้มันมีกลิ่นคราว ๆ ครับมันมีกลิ่นคราว ฮ่า ๆ ๆ ๆ อย่างนี้มันต้องมีเรื่องโว้ยยยยย !!!!! ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ [ ม. ] โดนแน่ไอ้เหวิน
B2 : แลดูเหมือนยังไม่เข็ด คือก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วป่ะว่า พี่เหวิน คือพระเอก !!! และตัวร้ายเรื่องนี้อ่ะ มันก็เป็นเพียงแค่ตัวประกอบ 2 บทเพ้อ ๆ ก็แค่ 2 ย่อหน้า เท่านั้นแหละ ต่อให้ระดับขั้นก่อเกิดมาเลยมะ ก็เป็นเพียงแค่ตัวประกอบเท่านั้นแหละ
B3 : เหอะรู้ !!!!!!! เดะรู้เลย !!!!! ตราบใดที่เรื่องนี้ยังมีตัวร้ายความเชื่อมั่นของ [ ก. ] ก็ยังอรงกล้าโว้ย !!!!! มันต้องมีสักบท สักฉากอยู่แล้วที่พระเอกจะลงไปนอนกองจมตีนน่ะมันต้องมี !!!!!!
B2 : ได้แค่ฝันว่ะ กลับไปนอนไป น้ำลายน่ะหกหมดและ
B4 : เหอะอย่าให้มีใครตายก็พอ ที่สำคัญนี่ก็เริ่มจะขี้เกียจมานั่งแหกปากกับพวกบาปหนาแถวนี้และ มีความตรงการอยากไปแสวงธรรม ศึกษาทุกชีวิตและทุกสรรพสิ่ง
B2,B3 : บาปหนาอย่างนั้นหรือ ท่ามันน่าอึดใจนัก [ ม. ] ก็ไปเส่ !!!
B4 : ไปได้ที่ไหนสัญญายังไม่หมดแล้วนี้จะต้องอยู่อีกกี่บทก็ไม่รู้…..
B3 : ไอ้ B4 [ ม. ] …… @(^@*@*^@$()$*$&&@^@@(%73%
B2 : B1 ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน…..
B4 : ปากบอกคิดถึง แต่ได้ข่าวว่าในตอนนั้นผลักไสไล่ส่งมันไปเองไม่ใช่หรอ
B2 : ……….
B2,B3 : ^@#^@$*&@&*#%*&^@($$@&#@*%%&(&@^

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม