บทที่ 30 - กองโจรสายลม

          “ หวังเหลี่ย เจ้ากล้าที่จะทำร้ายจอมยุทธ์ที่ตระกูลของเรารับเชิญมา! ” จู่ ๆ หวังดิ้ง ก็ตะโตนออกไปด้วยความโกรธแค้น
         
          “ หวัง ดิ้ง ข้ามีศักดิ์เป็น อา ของเจ้า พ่อของเจ้าไม่เคยได้สั่งสอนเลยหรืออย่างไร ว่าให้เคารพผู้ที่เป็นอาวุโสกว่า! ” เมื่อเขาได้เห็นความแข็งแกร่งที่เด็ดขาดของ เย่ชีเหวิน ในหัวใจของ หวังเหลี่ย ก็ได้กลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง และตอกหน้าดุด่า หวัง ดิ้ง กลับไปโดยที่ไม่มีความลังเลใด ๆ “ เจ้าจะปกป้องไอ้พวกขี้แพ้พวกนี้ไปเพื่ออะไร เจ้าไม่ได้ยินเช่นนั้นหรือว่าพวกมันได้กล่าวว่าดูถูกสำนักยี่หยวนไว้อย่างไร และหากเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลหวังของพวกเรา เจ้าจะทำเช่นไร เจ้าจะรับผิดชอบมันได้หรือไม่? ”
         
หวัง ดิ้ง รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่เขาถูกดุโดย หวังเหลี่ย ว่าจอมยุทธ์ของเขานั้นเป็นพวกที่ไร้ค่า พวกเขาทุกคนต่างพ่ายแพ้ย่อยยับให้กับ เย่ชีเหวิน
         
          “ ฝากไว้ก่อนเถอะ หวังเหลี่ย ! ” หวัง ดิ้ง เดินจากไปด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว เขาได้กล่าวคำพูดออกไปในลักษณะที่ขมขื่นและไร้ความหวั่นเกรงใด ๆ
         
          “ ไร้ซึ่งความสำนึก ไอ้เด็กเวรนี่มันไม่เคยให้ความเคารพต่อข้าเลยแม้แต่น้อย! ” หวังเหลี่ย กล่าวด้วยลักษณะที่หัวเราะ
         
เมื่อมองไปยังเหล่าจอมยุทธ์ที่นอนกองอยู่กับพื้น ในสายตาของ หวังเหลี่ย เย่ชีเหวิน นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด ในตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะหยอกล้อ เย่ชีเหวิน เหมือนอย่างที่เคยเป็นได้อีกแล้ว
         
          “ เมื่อไหร่ที่พวกเราจะได้เริ่มเดินทาง ? ” เย่ชีเหวิน กล่าวถาม
         
          “ เราจะเดินทางกันในช่วงบ่ายของวันนี้และไปถึงที่เมืองในช่วงเวลากลางคืน ! ” หวังเหลี่ย กล่าวตอบ
         
เข้าเมืองในช่วงเวลากลางคืน ? นี่พวกเขาต้องการที่จะหลบซ่อนจากใคร ?
         
เย่ชีเหวิน รู้ว่า หวังเหลี่ย นั้นอาจไม่ได้รู้มากนัก มิเช่นนั้นโดยมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของพวกเขา มันไม่มีเหตุผลอันใดเลยที่ หวังเหลี่ย จะต้องปิดบัง
         
หลังจากที่ หวังเหลี่ย ได้เดินออกไปจัดการทำธุระส่วนตัว เย่ชีเหวิน ก็ได้ค้นพบกับสถานที่นั่งพัก เขาได้นั่งลงและปิดตาของเขา ในช่วงเช้าได้มีเหล่าจอมยุทธ์หลั่งไหลเข้ามามากมาย ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาต่างเป็นผู้บรรลุ [ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง] และบางคนก็สูงกว่านั้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาจัดอยู่ในระดับเกณฑ์ที่ดี
         
          “ ข้าขอขอบคุณพวกท่านทุกคนที่สมัครใจในการมาทำภารกิจในครั้งนี้! ” ณ ช่วงเวลาเที่ยงวันได้มีชายชราผู้หนึ่ง มีลักษณะหลังค่อมเล็กน้อยกำลังพูดคุยกับพวกเขา “ ข้าคือผู้ดูแลทรัพย์สินและนำมันไปส่งยังพระราชวังในภารกิจนี้ ”
         
          “ เช่นนั้นท่านคือผู้อาวุโส ขว้ายเตา หวัง ใช่หรือไม่ ข้านั้นแอบชื่นชอบท่านมานาน นับว่าเป็นเกียรติจริง ๆ ที่ได้พบท่าน! ” จอมยุทธ์ผู้หนึ่งก้าวเท้าออกมาและเดินตรงไปทางเขาพลางป้องมือขึ้นระหว่างหน้าอกพร้อมกล่าว
         
          “ ผ่านมาแล้ว 20 ปีที่ชื่อเสียงของ ขว้ายเตา หวัง ได้กลายเป็นที่รู้จักและดังกระฉ่อนไปทั่ว ขุนเขาฉิงฟง ด้วยความสามารถที่เก่งกาจและไหวพริบที่ยอดเยี่ยม เขาจึงได้รับเลือกให้กลายเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของตระกูลหวัง ”
         
          “ ขอบคุณพวกท่านสำหรับความร่วมมือ โปรดเตรียมตัวกันให้พร้อม เราจะออกเดินทางในเร็ว ๆ นี้! ” ขว้ายเตา หวัง กล่าวด้วยเสียงลึก
         
หลังจากที่ทุกคนได้เตรียมความพร้อมเสร็จสิ้น เย่ชีเหวิน ก็เดินทางไปพร้อมกลุ่มคนที่คอยทำหน้าที่คุ้มกันสมุนไพร แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ เย่ชีเหวิน นั้นรู้สึกแปลกใจ คือในกลุ่มผู้ที่ร่วมเดินทางและคอยทำหน้าที่คุ้มกัน เหตุใดถึงได้ไม่มีนายน้อยหวังตระกูลหวังอยู่เลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงผู้ดูแลทรัพย์สินของตระกูลหวังเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ทำหน้าที่ในการส่งมอบมันไปยังพระราชวัง แม้แต่ หวังเหลี่ย เองก็ไม่ได้เข้าร่วมการเดินในครั้งนี้
         
เย่ชีเหวิน นั้นไม่สามารถที่จะนิ่งนอนใจได้ เพราะเขารู้สึกได้ว่าการคุ้มกันในครั้งนี้มันมีบางสิ่งบางอย่างแอบแฝง เพียงแค่สมุนไพร แต่กลับได้ค่าตอบแทนถึง 3,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] มันได้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าภารกิจในครั้งนี้มันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และความยากลำบากของมันก็สมควรที่จะจัดอยู่ในระดับเกณฑ์ที่สูงเพื่อให้สอดคล้องกับค่าตอบแทน หากแต่ในภารกิจนี้ตระกูลหวังกับส่งผู้ดูแลทรัพย์สินของตระกูลมาเพียงแค่ไม่กี่คน มันนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกมากเกินไป
         
ในเวลาเช่นนี้เหล่าจอมยุทธ์หลายคนต่างเริ่มรู้สึกได้แล้วว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างแปลกออกไป ชีวิตของพวกเขาต่างแขวนอยู่บนเส้นด้ายมาเป็นเวลานานประสบการณ์ที่มากมายของพวกเขาได้เตือนพวกเขาว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล พวกเขาต่างเริ่มปิดปากของตน
         
กลุ่มคนค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ และหลังจากผ่านไปกว่า 1 ชัวโมง พวกเขาต่างก็รู้สึกได้ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างขวางทางของพวกเขาอยู่
         
          “ นั่นมัน เฉินหลง , เฉินฟู๋ สองผู้นำกองโจรสายลม ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาพบเจ้าที่นี่ นี่เป็นเพียงแค่การขนส่งสมุนไพรธรรมดาเพียงเท่านั้น เหตุใดสองผู้นำอย่างพวกเจ้าถึงได้มายังที่นี่กัน! ” เสียงของ หวังเต้อยิง กระจายเสียงออกไปยังด้านหน้า
         
กองโจรสายลม!
         
กลุ่มเหล่าจอมยุทธ์ได้ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เพราะกองโจรสายลมนั้นมีชื่อเสียงเป็นที่โด่งดังอย่างมากในแถบนี้ ในสถานที่ที่ใกล้เคียงกับ[ หุบเขาฉิงฟง ] ได้มีค่ายกองโจรขนาดใหญ่และแข็งแกร่งตั้งหลักปักฐานอยู่ ซึ่งค่ายกองโจรสายลมนั้นเป็น 1 ในกลุ่มกองโจรที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เฉินหลง , เฉินฟู๋ สองผู้นำฉาวโฉ่ที่ความแข็งแกร่งและระดับการบ่มเพาะพลังที่สูง พวกเขาสองพี่น้องต่างเป็นผู้ที่สามารถบรรลุ [ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 8 ลมปราณก่อตั้ง ] หากพวกเขาร่วมมือแม้แต่ผู้เชียวชาญ [ ระดับขั้นที่ 9 ] ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
         
เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายนั้นต่างตกอยู่ในความกังวล เพราะสองผู้นำกองโจรสายลมนั้นถือเป็นอุปสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา
         
          “ สมุนไพรธรรมดาอย่างนั้นหรือ หวังเต้อยิง เจ้าเองก็เป็นถึงผู้ที่มากไปด้วยฝีมือ อย่าคิดที่จะหลอกล่วงพวกข้าเลยจะดีกว่า หากมันเป็นเพียงแค่สมุนไพรธรรมดา เจ้าพอที่จะให้พวกข้าเปิดดูมันได้หรือไม่ ? ” ในด้านหน้าของพวกเขา ได้มีจอมยุทธ์นับ 100 คนปิดกั้นเส้นทางอยู่ เสียงที่ตอบพวกเขากลับมาในลักษณะที่หยาบคายนั้นมั่นเหมาะสองผู้นำของกองโจรสายลม เฉินหลง , เฉินฟู๋
         
          “ แน่นอนว่าไม่ได้ หากแต่ระหว่างสมาคมการค้าฉิงฟง และ กองโจรสายลม หาได้มีความบาดหมางต่อกันไม่ พวกเจ้าพอจะให้พวกข้าผ่านทางไปได้หรือไม่ แน่นอนว่าทางเราจะตอบแทนให้พวกเจ้าในภายหลังอย่างแน่นอน หากแต่ในตอนนี้โปรดอย่างได้สร้างความลำบากใจให้แก่พวกเราทั้งคู่เลยจะได้หรือไม่ ? ” หวังเต้อยิง ยังคงกล่าวออกไปด้วยความใจเย็นและซุ่มเสียงที่ลึก
         
          “ พวกข้าเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำให้เรื่องมันยุ่งยาก ตราบใดที่เจ้ามอบสมุนไพรนั่นมา พวกเราเหล่าพี่น้องสัญญาว่าจะปล่อยพวกเจ้าไปเสียทั้งหมด ” เฉินหลง ว่ากล่าว
         
          “ เฮอะ ดูเหมือนว่าพวกเจ้าต้องการที่จะสร้างความบาดหมางให้แก่สมาคมการค้าของพวกเรา ถึงแม้ว่าสมาคมการค้าของพวกเราจะทำธุรกิจทำมาค้าขาย หากแต่นั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเรานั้นอ่อนแออย่าได้ประเมินตนสูงเกินไปนัก! ” หวังเต้อยิง กล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง
         
          “ ไร้สาระ เจ้าคิดว่าพวกข้าจะไม่ได้เตรียมการถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยหรืออย่างไร ? เหอะ ตายเพื่อเงินแต่กลับไม่ยอมรักษาชีวิต เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าเหตุใดทำใมพวกข้าสองพี่น้องถึงได้มาอยู่ที่นี่ ? ” เฉินฟู๋ กล่าวออกมาพลางหัวเราะ
         
          “ เลิกพูดเรื่องไรสาระได้แล้ว ในเมื่อพวกมันกล้าที่จะปฏิเสธและยังบังอาจด่าทอถึงพี่น้องของเรา โทษของพวกมันทุกคนคือความตาย! ”
         
ทันในนั้นกลุ่มโจรสายลมต่างก็ตระโกนกันออกมา พร้อมวิ่งออกไปยังเบื้องตามคำสั่งของผู้นำทั้งสอง ในขณะที่ผู้นำของพวกมันต่างหัวเราะกันอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่ได้ตระโกนคำสั่งฆ่าออกไป
         
          “ พวกเจ้าทั้งหมดฆ่ามัน! ” หวังเต้อยิง ตะโกนพร้อมก้าวเท้าพุ่งตัวออกไปยังเบื้องหน้า และชักใบมีดยาวของตนออกมาประกายแสงเย็นสว่างวาบได้ถูกส่งออกมาจากใบมีด การเป็นระเบิดรูปแบบดาบลมปราณพุ่งตัวสับออกไปยัง เฉินหลง และ เฉินฟู๋
         
ผู้นำทั้งสองของกองโจรสายลม ได้นำคทาหมาป่าของตนออกมาเพื่อป้องกันการโจมตีจากใบมีดที่กำลังพุ่งเข้ามา
         
          “ ตูม! ” ใบมีดยาวและคทาหมาป่าได้ปะทะเข้ากันอย่างรุนแรง ชั้นบรรยากาศโดยรอบเกิดการบิดเบี้ยว กลิ่นอายที่น่ากลัวถูกแพร่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ
         
          “ ฮ่า ๆ ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าไอ้สิ่งที่เรียกว่าใบมีดของ หวังเต้อยิง นั้นจะอ่อนแอมากถึงเพียงนี้! ” เฉินหลง กล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดังในขณะที่มองลงไปยัง หวังเต้อยิง
         
          “ ฮ่า ๆ ที่พลังใบมีดมันอ่อนแอขนาดนั้นนั่นก็เพราะว่าผู้ที่ใช้มันแก่ชรามากเกินไปยังไงล่ะ! ” เฉินฟู๋ ก็ยังหัวเราะพลางกล่าวว่า
         
เฉินฟู๋ ได้กวาดพลังอำนาจของคทาหมาป่าออกไปยังจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าฉิงฟง ด้วยพลังอำนาจของมัน มันสามารถทำให้กระดูกของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ด้วยการโจมตีนี้
         
          “ พวกเราจะทำอย่างไรดี สองพี่น้องนั้นมีความแข็งแกร่งมากเกินไป พวกเราไม่มีทางที่จะหยุดการโจมตีนั่นของ เฉินฟู๋ ได้เลย หากมันยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเราคงจะต้องถูกฆ่าโดยมันเป็นแน่ ” เหล่าจอมยุทธ์คนอื่น ๆ ต่างกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดขาว
         
จอมยุทธ์ที่เหลือต่างหวาดกลัว มันเป็นที่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คาดหวังที่จะต้องมาเจอกับสองผู้นำกองโจรสายลม กำแพงที่เป็นอุปสรรค์ขวางกันในภารกิจคุ้มกันครั้งนี้ มันเป็นที่มั่นเหมาะแล้วว่าไม่ง่าย
         
แต่ทว่าทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียงบางอย่างพุ่งตรงออกไปยัง เฉินฟู๋
         
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
         
B4 : 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 … มันเล่นตัดกันอย่างนี้เลยหรอ 5555 ค้างล่ะสิ คาง คาง คาง คาง ค่าง ค้างล่ะสิ
B2 : ชะตากรรม เฉินฟู๋ นี่ดูทรงแล้วท่าทางจะไม่รอด
B3 : จริง ๆ คือก็อย่างเชียร์นะ แต่มันบอกพลังมาแล้วนี่สิ จุดสูงสุดขั้นที่ 8 อย่างนั้นหรอ เหอะ !!! เป็นกองโจรทั้งทีทำใมมันไม่อยู่ขั้นก่อเกิดฟ่ะ จะขั้นที่ 8 ทำแปะอะไร จะ 9 ก็ไม่ 9 หืยยยย !!!! ตายตายไปเถอะ
B2 : เหมือนจะยอมรับชะตากรรมแล้วซินะ B3
B3 : ก็แค่ตอนนี้ ….. มันต้องมีวันของ [ ก. ] [ ก. ] บอกเลย มัน จะ ต้อง มี วัน ของ ตัว ร้าย !!!!!!!
B2 : ได้แค่ฝันอ่ะ 3 อย่าละเมอให้มันมากนัก
B4 : รู้สึกเริ่มเบื่อ เมื่อไหร่ B1 จะมานี่ครบ 10 ตอนที่มันโดนเนรเทศไปหรือยังเนี่ย
B2 : ใช่คิดถึง B1
B3 : ไม่อ่ะ [ ก. ] อย่าให้มันมาเลย [ ก. ] ไม่อยากโดนตอกย้ำไปมากกว่านี้เลยจริง ๆ นะ แค่ไอ้สองคนเดียวนี่ก็ยับและ
B4 : ก็นี่ ขก. จะอยู่แล้วไง รู้สึกอย่างไปจำวัด อย่างไปนั่งแสวงธรรม
B3 : [ ม. ] ก็ไปสิแต่ไม่ต้องเอาไอ้ B1 มา … ม่ายยยยยยยยย !!!!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม