บทที่ 31 - สังหาร เฉินฟู๋

          “ ปัง ! ”
         
เฉินฟู๋ หัวเราะพลางฟาดกระบองเขี้ยวหมาป่าลงไปยังจอมยุทธ์ของสมาคมการค้า ชิงฟง ราวกับฆ่าสัตว์
         
ในขณะนี้ หวังเต้อยิง ได้รับมืออยู่กับ เฉินหลง แม้ว่าความแข็งแกร่งของ หวังเต้อยิง จะไร้ข้อกังขา แต่ เฉินหลง นั้นเป็นถึงผู้บรรลุ [ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 8 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] และร้ายกาจยิ่งกว่า หวังเต้อยิง แม้จะเป็นเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของ หวังเต้อยิง ก็ยังไม่สามารถทำอะไร เฉินหลง ได้ เขาทำได้เพียงแค่ยืนมอง เฉินฟู๋ ฆ่าทุกคนราวกับฆ่าสัตว์อย่างช่วยไม่ได้
         
          “ เฉินฟู๋ จงตายซะ! ” เย่ชีเหวิน ตะโกนเสียงดัง ประกายแสงใบมีดยาวดุจดวงจันทร์ ฟาดฟันออกไปหมายเอาชีวิต
         
เย่ชีเหวิน ได้รับมอบหมายจากสมาคมการค้า ชิงฟง ว่าให้ปกป้องทุกคนที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจคุ้มกันในครั้งนี้ และยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาส่วนใหญ่นั้นเป็นสมาชิกภายในตระกูลของ หวัง เหลี่ย ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ เย่ชีเหวิน จะต้องยืมมือช่วย
         
          “ ปัง ! ” ใบมีดยาวและกระบองเขี้ยวหมาป่าได้ปะทะกันอย่างรุนแรง เสียงระเบิดดังก้องไปทั่ว
         
          “ อะไรกันเป็นไปได้ยังไง! ” ประกายตาของ เฉินฟู๋ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ ระดับขั้นที่ 7 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง! ”
         
          “ เป็นเพียงแค่คมดาบของ [ ระดับขั้นที่ 7 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] แต่กลับมีพลังอำนาจถึงเพียงนี้! ” ดวงตาของ เฉินฟู๋ เบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ ไม่ว่าเจ้าจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ในวันนี้เจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้า! ”
         
เฉินฟู๋ ยิ้มกว้างและกล่าว “ ข้าละชื่นชอบจริง ๆ ที่จะได้ฆ่าบุคคลอัจฉริยะเช่นเจ้า! ”
         
เฉินฟู๋ คว้ากระบองเขี้ยวหมาป่าฟาดฟันไปยังเบื้องหน้าของ เย่ชีเหวิน ราวกับว่าเขาจะทุบหัวสมองนั้นให้แหลกภายในการโจมตีเดียว
         
          “ ตัดเดือนหนาว! ” เย่ชีเหวิน สับใบมีดยาวออกไปจนก่อให้เกิดระเบิดพายุหมุน
         
          “ ตูม! ” คลื่นปราณทั้งสองต่างเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ผลกระทบจากคลื่นกระแทกก่อให้เกิดเศษดินเศษทรายฟุ้งกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ
         
          “ ตึบตึบตึบ! ” เย่ชีเหวิน ถอยกลับไปไม่กี่ก้าว ความแข็งแรงของเขาในตอนนี้นั้นมีน้อยกว่า เฉินฟู๋ หากระดับการบ่มเพาะพลังของเขาอยู่ใน [ ระดับขั้นที่ 8 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] แล้วล่ะก็ มันเป็นที่มั่นเหมาะว่าเขานั้นจะสามารถเอาชนะ เฉินฟู๋ ได้อย่างง่ายดาย
         
          “ เก่งดีนี่เจ้าหนู! ” เฉินฟู๋ ถอยกลับออกไป 2 ก้าว เจตนาฆ่าได้ขยายตัวมากขึ้นและฝังรากลึกลงไปภายในดวงตาของเขา แม้ว่าใบหน้าของเขานั้นจะหยาบกร้าน แต่เขานั้นไม่ได้โง่เหมือนโจรคนอื่น ๆ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นแล้วเขาคงมาสามารถเป็นผู้นำของกองโจรสายลมได้
         
การโจมตีด้วยกระบองเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง พลังอำนาจของมันได้แบ่งชั้นบรรยากาศออกเป็นสอง เศษเสี้ยวพลังอำนาจของมันได้พลัดหลงไปโดยชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง ในทันทีที่สัมผัสร่างกายของเขาถูกทำลายในทันทีราวกับขนมพายเนื้อ
         
เฉินฟู๋ ถอยกลับออกมาไม่กี่ก้าว ร่างกายที่ใหญ่โตของเขาถูกทุบลงมาอย่างรุนแรงจากกลางอากาศ
         
เสียงร้องโหยหวนเจาะหูก้องรอบตัว เย่ชีเหวิน แรงลมที่ได้เกิดจากการปะทะกันอย่างรุนแรงกับกระบองเขี้ยวหมาป่าก่อให้เกิดเสียงแหลมเจาะหูพวกเขาทุกคน เย่ชีเหวิน ตะโกน ใบมีดยาวฟาดฟันออกไป แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะน้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ เฉินฟู๋ หากแต่เมื่อดูการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองแล้ว มันราวเหมือนกับว่าเขามีความแข็งแกร่งที่เท่าเทียมกัน
         
          “ ตัดเดือนเสี้ยว! ” เย่ชีเหวิน ตะโกนพร้อมฟาดฟันใบมีดยาวออกไปอย่างรุนแรง
         
          “ ตึม! ” เฉินฟู๋ เข้าปะทะกับใบมีดยาวของ เย่ชีเหวิน จนต้องถอยกลับไปหลายก้าว นี่เป็นใบมีดที่สองของ [ ตัดเดือนเสี้ยว ]
         
เฉินฟู๋ ถึงกับแขนชาเพราะการโจมตีใบมีดที่คาดไม่ถึงของ เย่ชีเหวิน
         
          “ ปัง ! ”
         
ใบมีดที่ 3
         
เฉินฟู๋ ไม่มีเวลามากพอที่จะตั้งรับในการโจมตีครั้งที่ 3 ใบมีดได้สับลงมา ทำให้ต้นขาของเขานั้นเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
         
          “ ปัง ! ”
         
ใบมีดที่ 4
         
          "แกร๊ก"
         
แรงขา เฉินฟู๋ ถูกทำลาย ร่างกายสั่นเท่าจนไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ และล้มลงไปที่พื้น
         
          “ อะไรกันนี่มันเคล็ดวิชาใบมีดอะไรกัน ? ” เฉินฟู๋ กล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว
         
เคล็ดวิชาใบมีดของ เย่ชีเหวิน นั้นเป็นพลังอำนาจที่น่ากลัว ด้วยใบมีดที่ทับซ้อนกันหลายชั้นก่อให้เกิดพลังอำนาจเพิ่มขึ้นนับหลายเท่าตัว แม้แต่ในการโจมตีแต่ล่ะครั้งก็ยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งและความรวดเร็วที่เพิ่มมากขึ้นก่อให้เกิดเป็นพลังอำนาจที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
         
          “ ตัดเดือนเสี้ยว! ” เย่ชีเหวิน ตะโกนพร้อมสับใบมีดที่ 5 ออกไป และดูเหมือนว่าพลังโจมตีของใบมีดก่อนหน้านี้นั้นจะมารวมอยู่ที่ใบมีดสุดท้ายนี้ จนทำให้การโจมตีครั้งสุดท้ายนี้นั้นเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่ทวีคูณมากยิ่งขึ้นจนหน้าหวาดกลัว
         
          “ ฉึบ! ” ใบมีดของ เย่ชีเหวิน ได้ตัด เฉินฟู๋ ขาดออกเป็นสองส่วน
         
ทุกสายตาต่างตกตะลึง ขณะที่มองไปยังฉากเบื่องหน้า พวกเขาทุกคนต่างเห็นว่าคนที่ถูกแบ่งครึ่งออกมาอย่างน่าสังเวชนั้นคือ 1 ในผู้นำของกองโจรสายลม เฉินฟู๋ เมื่อเทียบกับ เย่ชีเหวิน ที่เป็นเพียงแค่ศิษย์ของสำนักยี่หยวนแล้วนั้น มันทำให้ เฉินฟู๋ ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างมาก หลายปีที่เขาได้กลายเป็นผู้นำของกองโจรสายลม และมีชื่อเสียงโด่งดังในเขตนี้
         
แต่ทว่าในตอนนี้เขาได้ถูกสังหารลงด้วยน้ำมือของ เย่ชีเหวิน และนี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจ
         
เมื่อได้เห็นความเกรี้ยวกราดของ เย่ชีเหวิน มันทำให้จอมยุทธ์ทุกคนถึงกับต้องอ้าปากค้าง และอดไม่ได้ที่จะต้องกลืนน้ำลายของพวกเขา
         
          “ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะร้ายกาจถึงเพียงนี้! ”
         
เหล่าจอมยุทธ์ทุกคนต่างบรรยายถึงความรู้สึกของพวกเขาออกมา
         
เฉินฟู๋ ที่มีชื่อเสียงมานานนับหลายปี กับต้องมาสิ้นชื่อด้วยน้ำมือของ เย่ชีเหวิน ชายหนุ่มที่มีอายุยังไม่ถึง 20 ปี อย่างน่าสังเวช ผู้เชียวชาญ [ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 8 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] กับถูกสังหารลงได้อย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของเขา แน่นอนเขาจะต้องเติบใหญ่แล้วกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงในอนาคตอย่างแน่นอน
         
          “ น้องสอง! ” เฉินหลง ตะโกน “ สมาคมการค้าชิงฟง พวกเจ้ากล้าฆ่าพี่น้องข้า แม้พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตายก็ยังมิสามารถชดใช้! ”
         
เฉินหลง แผดเสียงดังไปยัง หวังเต้อยิง ด้วยไฟแค้นที่เผาผลาญภายในร่างมันทำให้เขาเหวี่ยงกระบองเขี้ยวหมาป่าออกไปอย่างไร้ความปราณี
         
          “ แม้พวกข้าทั้งหมดจะต้องตายก็ยังไม่สามารถชดใช้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถทำเช่นนั้นได้อย่างนั้นรึ ? ” เมื่อเห็นว่า เฉินฟู๋ ถูกสังหารโดย เย่ชีเหวิน มันก็ทำให้เขารู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับลมกรดและใบมีดของเขาได้โจมตีออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งมันเกือบจะเทียบเท่าได้กับเคล็ดวิชา [ ดันเดือนดับ ] ของ เย่ชีเหวิน จนก่อเกิดการเป็นพายุลมใบมีด
         
ความแข็งแกร่งของ หวังเต้อยิง นั้นเป็นด้อยกว่า เฉินหลง เล็กน้อย แต่หลังจากที่เขาได้เห็นการตายของน้องชาย มันทำให้ความแข็งแกร่งของเขานั้นทวีคูณมากยิ่งขึ้น หากแต่ด้วยประสบการณ์และกลยุทธ์ของ หวังเต้อยิง มันทำให้เขาสามารถจัดการคนที่โจมตีเข้ามาอย่างขาดสติเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย
         
หลังจากที่ได้ใช้เวลาไปน้อยกว่า 10 ลมหายใจ เฉินหลง ก็ได้ถูกสังหารลงด้วยน้ำมือของ หวังเต้อยิง
         
เมื่อ เฉินหลง และ เฉินฟู๋ สองผู้นำกองโจรสายลมถูกสังหารลง เหล่าสมาชิกคนอื่น ๆ ก็กระจัดกระจายกันออกไปราวกับมดแตกลัง
         
แต่ทว่า หวังเต้อยิง ที่ยังคงมีความโกรธแค้นอยู่นั้นได้ตะโกนกล่าว “ ฆ่าไอ้พวกเปรตให้หมดอย่าให้พวกมันเล็ดรอดหนีออกไปได้! ”
         
เหล่าโจรพวกนี้เมื่อไม่มีผู้นำก็ไม่ต่างอะไรไปจากฝูง แค่เพียงจอมยุทธ์รับจ้างของสมาคมการค้าชิงฟง ก็มากเกินพอแล้วที่จะจัดการพวกมัน เพียงแค่ใช้เวลาไม่นานมากนักพวกมันก็ได้ถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น
         
หลังจากที่พวกจอมยุทธ์ได้สังหารกลุ่มโจรจนหมดสิ้น พวกเขก็ได้ตระหนักแล้ว่าภารกิจคุ้มกันในครั้งนี้นั้นมันไม่ได้เป็นภารกิจที่ง่ายดายอย่างที่พวกเขาคิด
         
          “ เจ้าหนูข้าขอบคุณเจ้ามาก ที่ช่วยให้สมาคมการค้าชิงฟงของพวกเรารอดพ้นจากอันตรายมาได้ ! ” หวังเต้อยิง ได้เดินเข้าหา เย่ชีเหวิน พลางกล่าวขอบคุณ ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่สามารถสังหาร เฉินฟู๋ ลงได้
         
แม้แต่ตัวเขาเองที่มั่นใจในฝีมือของตน เมื่อต้องเผชิญหน้าอยู่กับสองพี่น้องตระกูลเฉิน เขาก็ต้องพบเจอกับความยากลำบากอยู่ไม่น้อย หากแต่เขาไม่ได้คิดจริง ๆ เลยว่าชายหนุ่มเช่น เย่ชีเหวิน นั้นจะมีประโยชน์อย่างมากภายใต้สถานการณ์ที่แสนสำคัญเช่นนี้
         
          “ ข้าได้รับความไว้วางใจโดยผู้คนในตระกูลหวัง ว่าให้เป็นผู้คุ้มครองทุกคนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจคุ้มกันในครั้งนี้ และ หวัง เหลี่ย ก็ยังเป็นสหายในวัยเด็กของข้า นั้นจึงเป็นเหตุอันสมควรที่ข้าจะต้องยื่นมือเข้าช่วย! ” เย่ชีเหวิน กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
         
          “ โอ้วงั้นแสดงท่านเป็นสหายของ [นายน้อยสี่] แห่งตระกูลของพวกข้า! ” หวังเต้อยิง คิดไม่ถึงเลยว่า หวัง เหลี่ย จะมีความสนิทสนมกับผู้เชียวชาญที่มีประสิทธิภาพแข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนว่าการว่าจ้างคนจากสำนักยี่หยวนนั้นจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง “ อย่างไรก็ตามในเวลานี้ท่านได้ช่วยเหลือสมาคมการค้าของพวกข้าเอาไว้เป็นอย่างมาก เมื่อเดินทางไปถึงเมืองเทียนหยวนแล้ว ท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นอย่างแน่นอน! ”
         
เย่ชีเหวิน พยักหน้าโดยไม่มีท่าทีเสแสร้ง เพราะการที่เขาได้ช่วยเหลือทุกคนเอาไว้นั้น มันเป็นที่มั่นเหมาะว่าเขานั้นทำเพื่อให้ได้รับศิลาวิญญาณ
         
#########################################################
         
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
         
B4 : ใครเขาคิดชื่อตอนเนี่ย เอาซะหิ้วเลย
B2 : มีความพยายามแต่ก็ยังอ่อนหัด
B3 : เกือบดีและ [ ก. ] เกือบจะดีใจไปแว๊บหนึ่งและ ไอ้ที่บอกว่า เย่ชีเหวิน อ่อนแอกว่านิดหนึ่ง แต่พออ่านลงมาสัก 2 – 3 ย่อหน้าเท่านั้นแหละ เขียนเพื่อสุดท้ายมันก็ตาย และเคล็ดวิชา ตัดเดือนเสี้ยว เนี่ยบางทีก็โกงไปนะมีเก็บโบนัสตีติดคริซะด้วย แหม่ นี่แค่ 5 ใบมีดนะ ถ้าฝึกไปถึง 9 นี่ไม่ขี้แตกเลยหรอไง
B2 : ก็นะพระเอกก็เงี้ยมันก็ต้องเก่งเป็นธรรมดา
B3 : นั้นเพราะว่ายังไม่ได้เจอของจริงหรอก เดะพอเจอเข้าจริง ๆ ล่ะเดี้ยวรู้เลย !!! เดี้ยวรู้เลย !!!!!!
B2 : ก็เห็นพูดมาตั้งแต่บทที่แล้วและ และเป็นไงล่ะกองโจรสายลม ห่ะรู้เลย !!!!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

  1. หลังจากอ่านB3 พาวายบ่อยๆเข้ารู้สึกว่าชื่อนายกระทิข้นมันดูจิ้นแปลกๆ

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม