บทที่ 34 - ประมูลสินค้า

แม้ว่าจะยังคงเหลือศิลาวิญญาณอยู่ 4,500 ก้อน แต่สำหรับ เย่ชีเหวิน มันเป็นจำนวนที่น้อยมาก ยิ่งเวลาผ่านไปเท่านานไหร่การเผาผลาญศิลาวิญญาณในการบ่มเพาะพลังของเขาก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนนากลัว

ตอนเช้าตรู เย่ชีเหวิน ออกมายังข้างนอก หลังจากที่เขาได้เก็บตัวอยู่ในห้องพักของโรงเตี๊ยมมาเป็นเวลานาน เขาในตอนนี้ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะไปยังโรงประมูลที่ใหญ่ที่สุดของเมือง โรงประมูล[เทียนหยิน]

เหตุผลที่ เย่ชีเหวิน ต้องการที่จะไปยังโรงประมูล[เทียนหยิน] นั้นเป็นเพราะหลังจากที่เจ้าเมืองวังได้กระจายข่าวออกไปว่าเขานั้นได้ประสบความสำเร็จในการกลั่นสร้างเม็ดยาโอสถก่อเกิดออกมาด้วยกัน 4 เม็ด ซึ่งเขานั้นจะเก็บไว้ใช้ 2 และอีก 2 จะปล่อยที่โรงประมูลที่ใหญ่ที่สุด[เทียนหยิน] ซึ่งจะเริ่มในการประมูลในอีก 3 วันให้หลัง

ณ ตอนนี้โรงประมูล[เทียนหยิน] จึงกลายเป็นที่ตั้งเป้าหมายตาต่อฝูงชน ถ้าเกิดว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นเพียงแค่โรงประมูลธรรมดาแล้วล่ะก็มันคงมีสภาพที่ดีอยู่ได้ไม่นานนัก หลังจากที่สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ที่จะมาเข้าร่วมในการประมูล โรงประมูล[เทียนหยิน] นั้นเป็นโรงประมูลที่มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางและมีหลายสาขาย่อยในหลาย ๆ เมือง ที่ตั้งสาขาหลักโรงประมูล[เทียนหยิน]นั้น ตั้งอยู่ภายในเมืองหลวงขนาดใหญ่ของจักรวรรดิ และภายในเมืองหลวงมันก็ยังถือว่ามีอิทธิพลอย่างมาก ฉะนั้นแล้วจอมยุทธ์เหล่านี้จึงไม่กล้าที่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ

เย่ชีเหวิน ได้ว่าแผนเอาไว้ว่าเขาจะเข้าไปยังภายในโรงประมูล[เทียนหยิน] เพื่อร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วย เพื่อดูว่าในโรงประมูลนี้นั้นจะมีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อเขาบ้าง

โรงประมูล[เทียนหยิน] นั้นมีชื่อเสียงอย่างมากภายในเมืองเทียนหยวน ฉะนั้นแล้วมันจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากนักสำหรับ เย่ชีเหวิน ที่จะมองหามัน

แต่ในทันทีที่ เย่ชีเหวิน ได้มาถึงโรงประมูล[เทียนหยิน] เขาถึงกลับตกอยู่ในภวังค์ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเลยว่าเหตุมันถึงได้ถูกเรียกว่าเป็นโรงประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

เพียงวันธรรมดาโรงประมูล[เทียนหยิน]ก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว แต่ในเวลานี้มันกับยิ่งแออัดมากยิ่งขึ้นหลังจากที่จะมีสินค้าชิ้นสำคัญในการประมูล เหล่าจอมยุทธ์จำนวนมากต่างพากันเข้ามาภายในโรงประมูล ซึ่งยังดีที่ว่าภายในนั้นมีพื้นที่ที่กว้างขวางหากมิเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ มันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะรองรับจอมยุทธ์ในจำนวนที่มากมายเช่นนี้ได้ เหล่าจอมยุทธ์ต่างเข้าไปในโรงประมูลเพราะต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการประมูล

ในขณะที่ เย่ชีเหวิน กำลังจะเข้าไปยังภายในโรงประมูล เขากลับถูกหยุดเอาไว้โดยทหารยาม มันจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม[ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]จำนวน 5 ก้อนด้วยกันก่อนที่จะเข้าไปยังภายในโรงประมูล สายตาของ เย่ชีเหวิน กลายเป็นเกรี้ยวกราดในทันที หากแต่เขาเห็นว่าบุคคลเบื้องหน้าของเขานั้นก็ยอมจ่ายเช่นกัน เขาจึงยอมจ่ายค่าธรรมเนียมแก่ทหารยามไปตามระเบียบโดยที่ไม่พูดอะไร และเข้าไปยังภายในโรงประมูล ( 3B //:// WTF เอาอย่างนั้นเลยนะ )

เย่ชีเหวิน หาที่นั่งอย่างรวดเร็ว โรงประมูล[เทียนหยิน]นั้นจะจัดการประมูลขึ้น 10 ครั้งต่อวัน และในแต่ล่ะครั้งนั้นจะใช่เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้โอกาศผู้ประมูลได้มีระยะเวลาในการเสนอราคา

เย่ชีเหวิน นั่งอยู่ชั้นล่างซึ่งเป็นที่นั่งของบุคคลธรรมดา และในที่นั่งชั้นสูงจะมีเอาไว้เพื่อบุคคลระดับสูงหรือแขกผู้มีเกียรติเท่านั้นจึงจะสามารถนั่งได้

          “ ปัง! ” ค้อนไม้ทุบลงบนโต๊ะก่อให้เกิดเสียงดังกระจายไปทั่วห้องประมูล ชายเฒ่าชุดคลุมสีขาวปรากฏตัวขึ้นพร้อมในมือข้างหนึ่งถือกระดาษสีขาวและอีกข้างหนึ่งถือค้อน

เย่ชีเหวิน มองไปยังชายเฒ่าผู้นั้นด้วยความประหลาดใจและตะลึง เพราะว่าเขานั้นเป็นถึงผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] มันอาจกลัวได้เลยว่าโรงประมูลแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมาก ถึงกลับส่งผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] มาจัดการในงานประมูล

แต่อย่างไรก็ตาม เมือไม่กี่วันที่ผ่านมาท่านเจ้าเมืองวังได้แพร่กระจายข่าวออกไปเกี่ยวกับการประมูล[ เม็ดโอสถก่อเกิด ] มันจึงได้ดึงดูดเหล่าจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งจำนวนมากเข้ามาร่วมในการประมูล หากพวกเขาไม่ส่งผู้เชียวชาญที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกันมาจัดการประมูลแล้วล่ะก็ มันมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนที่จะเกิดการนองเลือดขึ้นร่วมไปถึงการต่อสู้ภายในเมืองจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก และโรงประมูลของพวกเขาอาจถูกทำลายลง

          “ ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ เราจะจัดการประมูลตามตารางเวลาที่พวกเราได้จัดเตรียมกันเอาไว้ ซึ่งข้าเชื่อว่าการประมูลในครั้งนี้นั้นพวกท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน! ” ชายเฒ่าชุดคลุมขาวกล่าวว่าอย่างช้า ๆ

          “ ทางเราเชื่อว่าพวกท่านคงจะรู้กฎดี ฉะนั้นแล้วทางเราจะไม่พูดซ้ำและจะเริ่มการประมูลในทันที รายการแรกที่เราจะมาประมูลในวันนี้เป็นกระบี่สองคมทำจากโลหะผสมคุณภาพสูงซึ่งนับได้ว่าเป็นอาวุธชั้นสูงมากเลยทีเดียว! ” ชายเฒ่าชุดขาวกล่าว

ในเวลาเช่นนี้ ได้มีอิสตรีเดินเข้ามาพร้อมกับถือถาดเงินที่ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าแดงไว้ในมือและวางไว้บนโต๊ะ ชายเฒ่าได้หยิบผ้าแดงออกจกถาดพลางปรากฏกระบี่สองคมประกายแสงวิบวับวางยู่นิ่ง ๆ บนถาด

เย่ชีเหวิน นั้นไม่ได้มีความสนใจต่อกระบี่ประกายแสงนี้ เพราะว่าเขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาใบมีดไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นใบมีดที่เขามีอยู่มันยังมีคุณภาพที่ห่างไกลเกินกว่ากระบี่ประกายแสงนี้จะสามารถเทียบได้

หากแต่ เย่ชีเหวิน ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ผู้คนจำนวนมากต่างมองไปที่กระบี่สองคมนี้ด้วยความอิจฉา ราคาของมันเริ่มประมูลอยู่ที่ 200 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]

แน่นอน เย่ชีเหวิน รู้ว่านี่เป็นเพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้นของที่มีค่าจริง ๆ ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมา โรงประมูล[เทียนหยิน]ได้เริ่มการประมูลมาอย่างต่อเนื่องทั้งอาวุธที่น่ากลัวและสมบัติวิเศษต่าง ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่มีของชิ้นใดที่สามารถดึงดูดความสนใจต่อ เย่ชีเหวิน ได้เลย สำหรับเขานั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของที่ไร้ประโยชน์ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้เสนอราคาประมูลกับสินค้าเหล่านี้

เหล่าผู้ที่นั่งอยู่บนชั้นสูงต่างเริ่มค่อย ๆ เสนอราคา ซึ่งแน่นอนว่าการเสนอราคาในแต่ล่ะครั้งนั้นมีขนาดที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับบุคคลที่นั่งอยู่ที่ชั้นล่าง เหล่าผู้มีเกียรติทั้งหลายที่นั่งอยู่บนที่นั่งชั้นสูงนั้นต่างมีออล่าที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับเหล่าจอมยุทธ์ธรรมดาสามัญที่นั่งอยู่เบื้องล่าง

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ชายเฒ่าก็ได้อธิบายสิ้นค้าที่จะประมูลในรายการต่อไปซึ่งมันได้ดึงดูดความสนใจต่อ เย่ชีเหวิน เป็นอย่างมาก

          “ ต่อไปเราจะเริ่มประมูลตำลาเคล็ดวิชาอันล้ำค่า! ” ชายเฒ่าชุดคลุมขาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ นี่เป็นเคล็ดวิชาการต่อสู้ประเภทฝึกฝนร่างกาย หลังจากที่ประเมินดูแล้วนั้นมันสมควรที่จะเป็น[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] แต่ก็น่าเสียดายที่เคล็ดวิชาชนิดนี้นั้นเป็นเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้นพลังอำนาจของมันก็สมควรที่จะเทียบเท่าได้กับ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ]! ”

จากนั้นผ้าแดงก็ได้เปิดออก ปรากฏตำลาอันล้ำค่าที่อยู่ในสภาพที่ขาดรุ่งหริ่ง และหน้าปกของมันได้เขียนเอาไว้ว่า[ เคล็ดวิชากายาทรราช ]

          “ ราคาตำรา[ เคล็ดวิชากายาทรราช ]นี้ เริ่มประมูลอยู่ที่ 200 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]! ” ชายเฒ่าชุดคลุมขาวกล่าว

ถ้าเกิดว่ามันเป็น[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ]ฉบับสมบูรณ์แล้วล่ะก็ ราคา[ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] 200 ก้อนั้นถือได้ว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับราคาที่แท้จริงของมัน แต่ทว่านี่เป็นเพียงแค่เคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์และยังได้รับการยอมรับอีกว่ามันมีพลังอำนาจที่เทียบเท่าได้กับ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ] ฉะนั้นแล้วมันไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อยที่พวกเขาจะจ่าย[ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]ถึง 200 ก้อนเพียงแค่แลกกับ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ]

แม้ว่าสำหรับคนอื่นเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์นี้นั้นจะไม่คุ้มค่าแก่การใช้จ่ายศิลาวิญญาณ หากแต่สำหรับ เย่ชีเหวิน แล้วนั้นมันราวกับเป็นของขวัญที่สวรรค์นั้นประทานมาให้ ก่อนหน้าเขาได้พยายามในการฝึกฝน[ เคล็ดวิชาย่างก้าวทูตสวรรค์ ] จนสามารถรับรู้ได้ว่าพื้นที่ลึกลับของเขานั้นมีความสามารถเติบเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ได้ ซึ่งตราบใดที่เขามีศิลาวิญญาณที่มากพอเขาสามารถฝึกฝน[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] ที่ไม่สมบูรณ์ได้ทุกชนิด ไม่ว่ามันจะอยู่ในสภาพที่เสียหายมากแค่ไหนก็ตาม

และในตอนนี้เขาก็ขาดเพียงแค่เคล็ดวิชาที่มีไว้เพื่อเสริมสร้างร่างกายเพียงเท่านั้น

          “ 300 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]! ” เย่ชีเหวิน ตะโกนนำ

          “ 400! ” ในขณะที่เสียงของ เย่ชีเหวิน ได้สิ้นสุดก็ได้มีอีกเสียงหนึ่งดังออกมาจากที่นั่งชั้นสูง

          “ 410! ” เย่ชีเหวิน เพิ่มราคาขึ้น

          “ 500! ” แขกผู้มีเกียรติจากที่นั่งชั้นสูงก็เพิ่มจำนวนราคาตาม

500 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]ด้วยจำนวนเท่านี้มันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาสามารถซื้อ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นสูง ]ได้แล้ว นี่แขกผู้มีเกียรติพวกนั้นสามารถใช้จ่ายอย่างสุรุยสุร่ายไปกับสิ้นค้าที่ไร้ค่าพวกนี้ได้ถึงเพียงนี้เลยเชียวหรือ ?

          “ 550! ” เย่ชีเหวิน ขบฟันของเขาและกล่าวออกไป

          “ 600! ” ฝ่ายตรงข้ามเริ่มที่จะเสนอราคาอีกครั้ง

เย่ชีเหวิน และแขกผู้มีเกียรติผู้นั้นได้ทิ้งความประหลาดใจไว้ให้แก่เหล่าจอมยุทธ์จำนวนหลายคน เพียงแค่เคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์กับใช้จ่ายไปถึง 600 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] เพื่อซื้อเคล็ดวิชาที่ไร้ค่าเช่นนี้ มันทำให้เหล่าจอมยุทธ์พวกนั้นไม่สามารถเข้าใจการกระทำที่โง่เขาของพวกเขาได้เลยแม้แต่นิด!

เกี่ยวกับแขกผู้มีเกียรติคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่บนชนชั้นสูง พวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ากะอีแค่[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ] มันจะถูกเพิ่มราคาจนสูงถึงเพียงนี้ และในขณะที่พวกเขากำลังคิดอยู่นั้น เย่ชีเหวิน และแขกผู้มีเกียรติผู้นั้นก็ยังคงเสนอราคาประมูลตำรานี้อยู่อย่างต่อเนื่อง

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : 55555 [ ม. ] หาเรื่องผิดคนและ แค่ทหารยามไถตัง 5 ศิลา พี่เหวินก็นี่ก็จะล่อสังหารโหดและดีนะที่คนอื่นเขาก็จ่ายเหมือนกันลองคิดถ้าพี่เหวินไม่ได้เห็นคนอื่นจ่ายก่อดูดิ เหอะเหอะ ทหารยามแม้งคงตายตั้งแต่ตอนนั้นและ
B2 : ดูจากทรงไม่เกิน 2 บท ถ้าให้ชั่ว ๆ นี่ 5 บทเลย
B1 : B2 5 บทนั้นเยอะไปหรือป่าว มากสุดก็ 3 เท่านั้นแหละ
B3 : เห้อก็นะคือบางทีไอ้พื้นที่ [ ห. ] นี่แม้งก็โกงเกินไปนะ
B1 : คำว่าพระเอกนี่ไม่มีคำว่าโกงครับ
B3 : คือบางทีมันก็เกิดหน้าเกินตาตัวร้ายไป ดูอย่างพี่หยุดตอนแรกมาก็ต้องมีโดนรังแกบางเล็กน้อยถึงหลัง ๆ มามันจะโครตโหดกระโดดตบเลยก็เถอะ บักเฟิงนี้ก็ตอนแรก ๆ ที่เข้าสำนักหลักได้ก็ยังโดดกดอยู่บ้างจากไอ้ที่หนึ่งหัวดอนั้นถึงแม้ว่าจะจำชื่อมันไม่ได้แล้วก็เถอะคือตัวร้ายนิยายเรื่องอื่นมันก็ยังมีให้ลุ้นบ้างนะแต่ว่านี่แบบ….ตั้งแต่บทที่ 1 ยัน 34 [ ก. ] ยังไม่เห็นแม่มโดนกดเลย !! เอะอะตบเอะอะตบ โพล่มาตาย WTF และดูเคล็ดวิชามันในตอนนี้ เคล็ดวิชาเพิ่มความคล่องตัว เคล็ดวิชาที่ทำให้การบ่มเพาะพลังเร็วขึ้น เคล็ดวิชาสังหาร และท่าได้เคล็ดวิชาอึดทนนานนี่ไปอีก [ ก. ] คงไม่ต้องหวังอารายกับตัวร้ายแล้วม้าง ๆ ดีไม่ดีไอ้ตัวที่แข่งราคากับไอ้เหวินถูกฆ่า + ปล้น อีก ฉิบหาย คงไม่ต้องหวังอะไรกันพอดี
B1,B2 : ก็นะคำว่าพระเอกมันเกินลิมิตชีวิตเกิน 100 อยู่แล้ว 5555555
B3 : [ ส. ] ไม่ใช่ M150
B4 : ชีวิตเกิน 100 !!!!!!
B3 : [ ม. ] ยังไม่ไปอีกหรอ

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม