บทที่ 36 - ความแข็งแกร่งระดับขั้น 90 พยัคฆ์

          “ ฟึบ ! ”

          “ ฟึบ ! ”

          “ ฟึบ ! ”

มีดยาวในฝ่ามือ เย่ชีเหวิน ได้ฟาดฟันออกไป กลายเป็น[ พลังปราณใบมีด ]ที่คมกริบ 3 ใบมีดได้สับลงไปที่เหล่าองครักษ์ทั้ง 3 คนอย่างรวดเร็ว

ทั้ง 3 คนแน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่คู่มือของ เย่ชีเหวิน แต่ถึงอย่างนั้นท่าโจมตีประสานของพวกเขาล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพวกเขาร่วมมือร่วมใจกันมันทำให้พลังโจมตีท่าประสานของพวกเขานั้นมีพลังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

          “ ฆ่ามัน! ” ทั้ง 3 ตะโกนพร้อมกัน คมมีดของพวกเขาได้รับการประสานกันและฟาดฟันตรงไปที่ เย่ชีเหวิน

          “ ข้าเกรงว่าพวกเจ้าจะไม่มีโอกาศ! ” เย่ชีเหวิน กล่าวอย่างไม่แยแส

ประกายแสงสว่างจ้าออกมาจากมีดยาวของเขา

          “ [ ตัดจันทร์หาย ] ใบมีดที่ 1 ! ”

คมมีดยาวของ เย่ชีเหวิน กวาดผ่านออกไป

          “ ปัง ! ”

ใบมีดที่ 2 !

พลังอำนาจของใบมีดที่ 2 นั้นเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับใบมีดแรก

          “ ปัง ! ”

และใบมีดที่ 3 เป็นเช่นการดำรงอยู่ของพลังอำนาจที่หน้าหวาดกลัว มันได้ตัด องครักษ์ผู้หนึ่งและคมมีดของเขาแบ่งออกเป็นสองส่วน

          “ พี่สี่ ! ” องครักษ์ที่เหลืออยู่อีก 2 คนต่างตะโกนออกมาด้วยความโศกเศร้า

          “ พี่สอง ท่านรีบแจ้งข่าวให้นายน้อยหนุ่มทราบโดยเร็วเขาสามารถแก้แค้นให้แก่พวกเราได้ ! ” หัวหน้าองครักษ์กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

องครักษ์ทั้ง 2 ต่างมองไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยสายตาอันขมขื่น หัวหน้าองครักษ์พยายามที่จะถ่วงเวลา เย่ชีเหวิน เอาไว้เพื่อให้องครักษ์อีกคนสามารถหนีรอดออกไปได้และกลับมาแก้แค้นใหม่ในภายหลัง

องครักษ์อีกคนนั้นไม่มีความลังเลใด ๆ เขาได้กระโดดขึ้นไปบนผนังกำแพงในทันทีและพยายามที่จะหลบหนี

          “ เจ้าต้องการที่จะไปแล้วอย่างนั้นหรือ ! ” เย่ชีเหวิน ยิ้มเยาะ สมน้ำหน้าเหล่าองครักษ์ทั้ง 4 ที่ไล่ตามมาเพื่อต้องการที่จะฆ่าเขา แต่ 2 ใน 4 พวกมันกับถูกเขาฆ่าตายไปอย่างน่าสังเวช เขาได้เตรียมใจเอาไว้แล้วในสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้และเขาไม่มีความเมตตาใด ๆ การที่ผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ถึง 4 คนถูกสังหารนั้นย่อมเป็นความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่แม้ว่านั้นจะเป็นเมืองมหาอำนาจอย่างเมืองชิงเฉิน ก็ตาม

เย่ชีเหวิน สับใบมีดลง แสงประกายเต็มทั่วท้องฟ้าไม่มีแม้แต่เวลาได้ตั้งตัว [ พลังปราณใบมีด ]ได้พุ่งตรงไปยังองครักษ์คนที่สองที่กำลังพยายามจะหลบหนี

          “ ชึบ ! ” ในขณะที่องครักษ์คนที่สองได้ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาไม่มีโอกาศที่จะหลบหลีกใด ๆ [ พลังปราณใบมีด ]ได้ตัดและแบ่งเขาออกเป็น 2 ส่วน ร่างกายของเขาได้ตกล่วงหล่นลงสู่พื้น

          “ พี่สอง ! ” หัวหน้าองครักษ์ได้ตกอยู่ในความสิ้นหวังและมองไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยความเกลียดชังและเจตนาฆ่า “ หนอยไอ้เจ้าสัตว์เดรัจฉาน เจ้ากล้าฆ่าพี่ชายของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า ! ”

          “ นับตั้งแต่ที่พวกเจ้าต้องการที่จะฆ่าข้า ข้าก็ได้ตัดสินใจแล้วที่จะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด แม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นศัตรูกับพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับไล่ตามและพยายามที่จะฆ่าข้าอย่างไม่มีเหตุผล ถึงสวรรค์จะให้อภัยพวกเจ้า แต่ข้าไม่ ! ” เย่ชีเหวิน ยิ้มเยาะและทะยานเข้าใส่หัวหน้าองครักษ์

หัวหน้าองครักษ์ไม่ได้คิดว่าเรื่องทั้งหมดมันจะลงเอยเช่นนี้ ประกายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและพุ่งโจมตีเข้าใส่ เย่ชีเหวิน

การโจมตีของพวกเขาทั้งสอง ต่างปะทะกันอย่างรุนแรง

          “ ชึบ ! ” พลังอำนาจใบมีดของ เย่ชีเหวิน ได้ทลายพลังอำนาจใบมีดของหัวหน้าองครักษ์และตัดศีรษะของเขากระเด็นหลุดออกจากบ่า

เย่ชีเหวิน ยึดศิลาวิญญาณระดับต่ำจำนวนกว่า 2,000 ก้อน จากร่างของเหล่า 4 องครักษ์ ด้วยจำนวนศิลาวิญญาณเหล่านี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการที่เขาได้สูญเสียมันไปในการเสนอราคาประมูลกับ จ้าวชี่เหยียน เขาในตอนนี้ได้ครอบครองศิลาวิญญาณจำนวนกว่า 6,000 ก่อนในมือ

เย่ชีเหวิน กลับไปที่โรงเตี๊ยมและเริ่มต้นการบ่มเพาะพลังของเขา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประมูลในอีก 3 วันที่จะถึง

เย่ชีเหวิน ได้เริ่มการฝึกฝนเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ในทันที ตามที่เนื้อหาในตำราได้ระบุไว้ เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] นั้นเป็นเคล็ดวิชาที่มุ่งเน้นในการฝึกฝนร่างกายให้เข้าใจในพลังอำนาจรูปแบบใหม่ เมื่อฝึกฝนจนแตกฉานและพัฒนาไปจนถึงในระดับจุดสูงสุดความสามารถทางร่างกายของมันผู้นั้นจะสามารถทัดเทียมได้กับเหล่าเทพอสูร มันมีความเชื่อที่ว่าเคล็ดวิชานี้เป็นเคล็ดวิชาที่ถูกสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณและยังได้รับการยอมรับอีกว่าเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาที่ฝึกฝนยากมากที่สุด แต่เนื่องจากว่ามันได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก มันจึงสามารถฝึกฝนได้เพียงแค่ขั้นตอนเดียวเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะมีเพียงแค่ขั้นเดียว พลังอำนาจของมันก็ยังสามารถเทียบเท่าได้กับ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ]

เช่นเดียวกับชื่อที่ดูยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] นี้แล้วนั้นเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไปฝึกฝนเคล็ดวิชาประเภทร่างกายอื่นใด ๆ อีก นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจจะเอามันมาจากโรงประมูล[เทียนหยิน] หากมันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] นั้นจะเป็นเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการฝึกฝนอำนาจร่างกาย หากแต่นี่มันมีเพียงแค่ขั้นแรกเพียงเท่านั้น ทุกคนจึงไม่คาดหวังอะไรจากมันมากนัก มันอาจเหมาะสมสำหรับจอมยุทธ์บางคนที่ต้องการจะฝึกฝนเคล็ดวิชาการต่อสู้ประเภทร่างกายระดับกลาง หากแต่มันไม่เหมาะสมที่โรงประมูลยักษ์ใหญ่อย่างโรงประมูล[เทียนหยิน] จะนำเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์นี้มาประมูล สำหรับพวกเขาแล้วมันก็เป็นเพียงแค่เคล็ดวิชาที่ไร้ค่า มันยังมีเคล็ดวิชาประเภทฝึกฝนร่างกายอื่น ๆ อีกมากมายที่พวกเขาต้องการ

เพียงแต่สำหรับ เย่ชีเหวิน นั้นต่างออกไป เพราะว่านี่เป็นเคล็ดวิชาการต่อสู้ประเภทการฝึกฝนร่างกายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา แม้ว่ามันจะมีเพียงแค่ขั้นแรกก็ตาม แต่มันก็ยังมีพลังอำนาจที่เทียบเท่าได้กับ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ] เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] สำหรับคนอื่น ๆ แล้วนั้นมันก็ไม่เป็นอะไรไปมากกว่าเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ และเป็นเพียงแค่[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นกลาง ] แต่ทว่าด้วยความสามารถพื้นที่ลึกลับของ เย่ชีเหวิน มันสามารถอนุมานส่วนที่ขาดหายไปของเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ได้ ตราบใดที่เขามีศิลาวิญญาณที่มากพอแม้ว่าจะต้องฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ไปยังระดับจุดสูงสุดก็ยังไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

สำหรับเขา เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] นี้นั้นเป็นเคล็ดวิชาที่เหมาะสมที่สุด

ด้วยการเผาผลาญศิลาวิญญาณอย่างต่อเนื่อง เย่ชีเหวิน ได้เข้ามายังภายใน พื้นที่ลึกลับ และเริ่มทำการบ่มเพาะ เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ทุกความลับของมันได้เริ่มหลั่งไหลเข้าไปภายในหัวของ เย่ชีเหวิน เขารู้สึกราวเหมือนกับว่าร่างกายของเขาถูกฉีกออกและปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด ทั้งเนื้อเยื้อและเซลล์ภายในร่างกายของเขาถูกฉีกออกและสร้างขึ้นมาใหม่ ซ้ำไปซ้ำมา

ใบหน้าของ เย่ชีเหวิน กลายเป็นสีฟ้าสลับขาว หยดเหงื่อปรากฏขึ้นทั่วใบหน้าของเขา การฝึกฝนเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] นั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดที่ทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเลย ๆ เกินกว่าที่เขาได้คาดคิดเอาไว้ มันราวเหมือนกับว่าร่างกายของเขาถูกฉีกออกทั้งเป็น มันรู้สึกได้ถึงโครงสร้างภายในร่างกายของทั้งหมดถูกสับเปลี่ยนไปมา ความเจ็บปวดระดับนี้สำหรับผู้เชียวชาญทั่วไปแล้วนั้นมันไม่อาจที่จะทานทนได้และพวกเขาคงจะต้องสลบเหมือดไปอย่างแน่นอนในขณะนี้

แต่ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดมากแค่ไหน มันก็ไม่อาจทำให้เขาหยุดกลางคันลงได้ เพราะเขาในตอนนี้นั้นสามารถรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกนี้มันแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาได้ดื่นสุราวานรเสียอีก

แต่ทว่าด้วยความเจ็บปวดที่ยากเกินจะต้านทาน มันทำให้เขานั้นเห็นภาพลวงตา ว่าตนอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและเปลวเพลิง

ช่วงเวลาได้ผ่านไปอย่างช้า ๆ นาทีต่อนาทีที่ เย่ชีเหวิน ได้ตกทุกอยู่ในความทรมาน แต่ทว่าในเวลานั้นเองมันก็ได้ทำให้เขารู้สึกมีความสุข

          “ ตูม ! ” ในที่สุด เย่ชีเหวิน ก็ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ เสียงประทุดังออกมาจากร่างกายและความแข็งแกร่งของเขานั้นได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด

แต่เดิม เย่ชีเหวิน มีความแข็งแกร่งระดับขั้น[ 70 พยัคฆ์ ] และมันได้เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดถึงระดับขั้น[ 20 พยัคฆ์ ] ทำให้ความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้รุดหน้าไปกว่าระดับขั้น[ 90 พยัคฆ์ ] แม้แต่ความแข็งแกร่งของผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ก็ยังไม่สามารถทัดเทียมกับเขาได้ และนี่ก็ยังเป็นเพียงแค่ขั้นแรกของเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] เท่านั้น

ตามที่ เย่ชีเหวิน ได้คาดการณ์เอาไว้ หากเขาสามารถฝึกฝนขั้นแรกของเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ไปจนถึงขั้นระดับ[ เชี่ยวชาญ ] ได้แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าเขาจะสามารถทลายความแข็งแกร่งก้าวผ่านไปยังระดับขั้น[ มังกร ] และเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะสามารถต่อสู้กับผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ได้

มังกรเป็นเผ่าพันธุ์ที่หน้าเกรงขามและหน้าหวาดกลัวที่สุดโลก แต่ถึงอย่างนั้นตระกูลมังกรสายเลือดแท้ก็ได้จางหายไปจากโลกนี้แล้วนับตั้งแต่สมัยโบราณกาล เหลือเพียงแค่มังกรไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่เป็นสายเลือดผสมและมีความแข็งแกร่งด้อยกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังนับว่าเป็นสัตว์ที่หายากอยู่ดี เมื่อใดก็ตามที่ความแข็งแกร่งของเหล่าจอมยุทธ์สามารถทลายผ่านระดับความแข็งแกร่ง[ 99 พยัคฆ์ ] ไปได้ พวกเขาก็จะสามารถบรรลุความแข็งแกร่งระดับ[ มังกร ]

ผู้เชียวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] นั้นจะครอบครองความแข็งแกร่งระดับ[ 99 พยัคฆ์ ] แต่ตามที่ เย่ชีเหวิน ได้คาดการณ์เอาไว้นั้น ในทันทีที่เขาสามารถบรรลุขั้นแรกของเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ให้อยู่ในขั้นระดับ[ เชี่ยวชาญ ] ได้เมื่อไหร่ เขาจะสามารถทลายความแข็งแกร่งเข้าสู่ระดับ[ มังกร ] ได้โดยตรง

เป็นไปอย่างที่คิดเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] เป็นเคล็ดวิชาที่ไม่อาจดูถูกได้ เย่ชีเหวิน รู้สึกได้เลยว่าการซื้อมันมานั้นไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด แม้ว่าจะมันทำให้เขาต้องสร้างปัญหากับ จ้าวชี่เหยียน ก็ตาม มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B3 : นั้นแหละ[ ม. ] หาความฉลาดไม่ได้ ตามจริงทำบุญด้วยอะไร โชคมันขนาดนั้นเลยนะ…โครตจะเข้าข้าง
B2 : พระเอกก็คือตัวดูดโชคดีดีนี่แหละจำไว้
B3 : ตัวดูดโชคดีดีหรอ งั้นแบ่งไปให้พระเอกเรื่องหนึ่งให้หน่อยได้ไหม ไอ้เรื่องที่มันฟาร์มทั้งเรื่องอะฟาร์มจนบ้านแตกอ่ะ ถ้า [ ก. ] ไปเป็นเครดิตเรื่องนั้นนะ เหอะ! พวก[ ม. ]คงไม่มีโอกาศมาเยาะเย้ย[ ก. ]แบบนี้หรอก
B1 : ก็ไปเส่มีใครหามที่ไหน อยากไปก็ไปเลย!!!!
B2 : ใช่ไปเลย เรื่องนี้เขาไม่ต้อนรับตัวร้ายครับ เมื่อเป็นพระเอกโชคมันก็ต้องเข้าข้างสิ ถ้าไม่เข้าข้างแล้วมันจะเป็นพระเอกได้ยังใงใช่ไหม B1
B1 : ใช่ที่สุด B2
B3 : [ -_-* ]
B1,B2 :ทำใม..?? ทำหน้าแบบนั้นมีปัญหารึไงห่ะ ไอ้ขี้แพ้ ว๊าย ๆ ตัวร้ายกาก ว๊าย ๆ โครตกาก ต่อให้มาเป็น 100 พี่เหวิน[ ก. ]ก็ไม่หวั่นโว้ย !!!!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

2 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม