บทที่ 38 - ช่วงสุดท้าย

          “ รายการต่อไปจะเป็นการประมูล เม็ดโอสถก่อเกิด ที่ทุกท่านต่างเฝ้ารอคอย ข้าน้อยถือว่าพวกท่านทุกคนในที่นี้คงจะทราบดีถึงความสำคัญของ เม็ดโอสถก่อเกิด นี้เป็นอย่างดี ในทันทีที่พวกท่านกลื่น เม็ดโอสถก่อเกิด นี้ลงไป มันจะทำให้พวกท่านมีโอกาสทะลวงผ่านไปยังดินแดนดินแดนลมปราณก่อเกิดเพิ่มขึ้นถึง 50% ราคาเริ่มต้นของมันอยู่ที่ 20,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ! ” ชายเฒ่าชุดคลุมสีขาวกล่าว

ในที่สุดช่วงสุดท้ายของการประมูล ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

          “ 40,000 ! ” จ้าวชี่เหยียน เสนอราคาเป็นคนแรก เขาต้องการที่จะใช้อำนาจของเงิน สยบทุกคนที่นี่

          “ 45,000 ! ” แต่ทว่าทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงแทรกขึ้นมา จนทำให้ทุกคนในห้องโถงนั้นต่างตกตะลึง

          “ 50,000 !! ”

          “ 53,000 ! ”

……………………..

ผู้คนที่อยู่ในห้องกระจกชั้นสูงต่างเริ่มทยอยเสนอราคา หลังจากที่ เม็ดโอสถก่อเกิด นั้นเป็นเป้าหมายหลักของพวกเขา เมื่อมี เม็ดโอสถก่อเกิด นี้มันสามารถทำให้พวกเขากลายเป็นผู้เชียวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ซึ่งมากไปด้วยชื่อเสียง มีหรือที่พวกเขาจะยอมพลาดโอกาสนี้

แต่ทว่าในช่วงเวลานี้ นอกเหนือไปจากผู้ที่นั่งอยู่ในห้องกระจกชั้นสูงแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดที่นั่งอยู่เบื้องล่างจะสามารถเข้าร่วมการประมูลได้เลย พวกเขาทำได้เพียงแค่นั่งดูสถานการณ์การแข่งขันประมูลต่อไปเพียงเท่านั้น เพราะราคาประมูลมันได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเขาไม่อาจที่จะมีส่วนร่วมในการประมูลได้

          “ 70,000 ! ” จ้าวชี่เหยียน ตะโกนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราวเหมือนกับว่าตนเองนั้นได้รับชัยชนะ

ณ เวลานั้นทุกคนต่างเงียบและหยุดการเสนอราคาในทันที เพราะราคาที่ จ้าวชี่เหยียน กล่าวออกไปนั้นมันเป็นจำนวนที่มากเกินไปและมันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะกระทำการแข่งขันต่อ

          “ 85,000 ! ” นายน้อยหนุ่มจากสำนักฝ่ามือโลหิตนามว่า ยวิ๋นเผิง กล่าวเสนอราคาออกมา อาจนับได้ว่าเขาเป็นคนแรกนอกจาก จ้าวชี่เหยียน ที่กล้าเสนอราคาได้สูงถึงเพียงนี้

          “ 150,000 ! พวกข้ากองกำลังรัฐบาลเหล่าจือยินดีประมูลในราคา 150,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ข้าหวังว่าพวกท่านทุกคนในที่นี้จะเห็นแก่ใบหน้าของข้า ! ” ในเวลานั้นเองเสียงของชายวัยกลางคนได้ตะโกนดังขึ้น เสียงของมันได้แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งห้องโถง เขาคือผู้บังคับผู้บัญชาของกองกำลังรัฐบาลเหล่าจือ ด้วยความไม่ลงลอยกันระหว่างเจ้าเมืองพระราชวังและกองกำลังรัฐบาล พวกเขาจึงไม่ได้คาดคิดว่ากองกำลังรัฐบาล ยินดีจะมีส่วนร่วมในการประมูล เม็ดโอสถก่อเกิด ครั้งนี้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังยอมจ่ายถึง 150,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ] ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลยทีเดียว

เหล่าผู้มีอิทธิพลทั้งหลายต่างเงียบไปชั่วครู่และยังคงมิได้เสนอราคาเพิ่ม มันไม่ใช่ว่าพวกเขาเกรงกลัวต่อกองกำลังรัฐเหล่าจือ แต่มันเป็นเพราะพวกเขาเกรงกลัวต่อกองกำลังรัฐของจักรวรรดิที่เป็นผู้หนุนหลังให้แก่กองกำลังรัฐของเมืองเทียนหยวน กองกำลังเหล่านี้สามารถทำสิ่งใดก็ได้โดยไม่ต้องสนหัวผู้ใด เพราะพื้นที่แทบหุบเขาชิงฟงนั้นเป็นพื้นที่เขตชายแดนซึ่งห่างไกลจากเมืองหลวงของจักรวรรดิ จึงไม่มีผู้ใดมาคอยสอดส่องหรือให้ความสนใจว่าพวกเขาว่าจะทำอะไร แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังรัฐของจักรวรรดิ แม้ว่าเจ้าเมืองเทียนหยวนจะถูกสังหารภายในเมืองของตนก็ยังมิใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่ถ้าหากเป็นเหล่ากองกำลังรัฐถูกสังหารภายในเมืองของตน กองกำลังรัฐของจักรวรรดิย่อมมิอาจยอมได้ มันเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ากองกำลังรัฐของจักรวรรดินั้นเป็นขุมพลังอำนาจที่ใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ แม้แต่จักรวรรดิข้างเคียงก็ยังต้องหวั่นเกรง พวกเขามีหน้าที่ในการกำจัดภัยคุมคามต่อจักรวรรดิ นอกเหนือไปจากนี้ยังได้จัดตั้งกองกำลังพิเศษที่มีไว้เพื่อกำจัดเหล่าสำนักที่คิดชั่วและพวกพรรคมารทั้งหลายโดยเฉพาะ แม้ว่านั่นจะเป็นสำนักยี่หยวนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น มีเพียงแค่ไม่กี่ขุมพลังอำนาจเท่านั้นที่ไม่หวั่นเกรงต่อกองกำลังรัฐของจักรวรรดิ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ค่อนข้างที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าขุมพลังอำนาจของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครกล้าพอที่จะดูหมิ่นเหล่ากองกำลังรัฐในแต่ล่ะเมือง

กองกำลังรัฐได้ข่มขวัญผู้คนในที่นี้ด้วยการซื้อ เม็ดโอสถก่อเกิด ไปในราคา 150,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]

1 ใน 2 เม็ดโอสถก่อเกิด ได้ถูกขายออกไป ในตอนนี้จึงเหลืออยู่อีกเพียงแค่ 1 เม็ดและมันยิ่งทำให้การแข่งขันประมูลนั้นดูดุเดือดมากยิ่งขึ้น

ด้วยทรัพย์ยาการที่ล้นหลามของท่านเจ้าเมืองชิงเฉิน หุบเขามนต์ดำและสำนักฝ่ามือโลหิต มันเลยทำให้พวกเขานั้นไร้คู่แข่ง การแข่งขันประมูลเริ่มเป็นไปอย่างดุเดือด ราคายิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนในตอนนี้มันได้เกิน 100,000 [ ศิลาวิญญาณระดับต่ำ ]ไปแล้ว

          “ 130,000 ! ” ครานี้นายน้อยหนุ่มจากหุบเขามนต์ดำกล่าวเสนอราคา “ ข้าหวังว่าท่านจะเห็นแก่ใบหน้าของข้า ซึ่งแน่นอนว่าในภายภาคหน้าข้าก็จะเห็นแก่ใบหน้าของท่านเช่นกัน! ”

          “ งี่เง่า เจ้าคิดว่าใบหน้าของเจ้ามันจะเอาไปทำเป็นกองเงินกองทองได้หรืออย่างไร เจ้าไม่ได้มีค่ามากมายถึงขนาดนั้นอย่าประเมินตนให้มันสูงมากนัก ! ” นายน้อยหนุ่มจากเมืองชิงเฉิน กล่าวด้วยท่าทีรังเกียจ แม้ว่าเขาจะมีความหวั่นเกรงต่อกองกำลังรัฐเหล่าจือของเมืองเทียนหยวนอยู่บ้าง แต่สำหรับหุบเขามนต์ดำนั้นเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไว้หน้าใด ๆ

          “ 150,000 ! ” จ้าวชี่เหยียน กล่าวในลักษณะที่ราวเหมือนกับว่าตนได้รับชัยชนะ

          “ จ้าวชี่เหยียน นี่ท่านคิดที่จะแข่งขันกับข้า ! ” นายน้อยหนุ่มจากหุบเขามนต์ดำกล่าว โดยธรรมชาติแล้ว เหวินชิงซิน เป็นชายหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลา แต่ทว่าครานี้หน้าตาที่หล่อเหลาของเขากับบูดบึ่งและมืดมนอย่างเห็นได้ชัด

          “ แล้วมันจะทำใมอย่างนั้นหรือ ” จ้าวชี่เหยียน กล่าวอย่างไม่แยแส

          “ 160,000 ” ฉับพลันเสียงแพร่กระจายดังก้อง ผู้ที่เสนอราคาคือนายน้อยหนุ่มจากสำนักฝ่ามือโลหิต ยวิ๋นเผิง รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าพร้อมฝ่ามือที่เป็นสีโลหิตท้าวคางและกล่าว “ ข้าต้องขอโทษพวกท่านทั้งสองด้วย สำหรับ เม็ดโอสถก่อเกิด นี้มันจะต้องเป็นของข้า ! ”

ในขณะที่ราคา เม็ดโอสถก่อเกิด เพิ่มสูงขึ้น เย่ชีเหวิน ก็รู้สึกว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไปเสียเล็กน้อย ทั้งที่นายน้อยหนุ่มทั้งสามต่างเพิ่มราคาประมูลกันอย่างเมามัน เหล่าผู้อาวุโสที่อยู่เคียงข้างพวกเขากับไม่ห้ามปรามเลยแม้แต่น้อย ราวเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น

เย่ชีเหวิน สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้างกายของนายน้อยหนุ่มทั้งสามนั้น มีกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกับบิดาของเขา แม้ว่า เย่คงหมิง จะเป็นผู้เชียวชาญ[ ระดับดินแดนดินแดนลมปราณก่อเกิด ] แต่มันไม่ได้ทำให้ เย่ชีเหวิน รู้สึกถึงกลิ่นอายที่ล้ำลึกออกมาจากตัวพ่อของเขา

          “ 180,000 ! ” เหวินชิงซิน กล่าวด้วยเสียงต่ำ

          “ 200,000 ! ” จ้าวชี่เหยียน เกเสียงทับราวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับเงินเหล่านั้น หากแต่ในความเป็นจริงเงินที่ถูกนำมาใช้นี่ได้พิจารณาแล้วว่าเป็นจำนวนเงินที่มากโข แต่ท่านเจ้าเมืองชิงเฉิน นั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่ง ตระกูลของเขาได้รับเงินภาษีจากประชากรภายในเมืองมากกว่า 80% นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของธุรกิจ 1 ใน 3 ธุรกิจภายในเมืองชิงเฉิน

มันนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับใครหลาย ๆ คนที่คิดจะแข่งขันกับท่านเจ้าเมืองชิงเฉิน ในเรื่องเงินทอง

จนในที่สุดมันก็ได้เป็นไปอย่างที่ เย่ชีเหวิน ได้คาดการณ์เอาไว้ ทั้ง เหวินชิงซิน และ ยวิ๋นเผิง ต่างก็มิใช่เป็นคู่แข่งในการประมูลกับ จ้าวชี่เหยียน เขาได้กลายเป็นผู้ชนะและได้รับถุงสีแดงซึ่งมี เม็ดโอสถก่อเกิด เม็ดสุดท้ายอยู่ภายใน

ในที่สุดการแข่งขันประมูล เม็ดโอสถก่อเกิด ก็ได้สิ้นสุดลง หากแต่ เย่ชีเหวิน นั้นรู้ดีว่าการแข่งขันที่แท้จริงมันพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงอยู่ภายในโรงประมูล เหล่ากองกำลังรัฐได้อพยพคนจำนวนมากออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ 1 ใน 2 เม็ดโอสถก่อเกิด ได้ตกอยู่ในมือของเมืองชิงเฉิน พวกเขายังคงอยู่ในสภาพที่เงียบสงบ

เย่ชีเหวิน ยังคงลุกขึ้นและเดินออกไปจากโรงประมูลอย่างเงียบ ๆ เขาอยู่ห่างไม่ไกลนักจากโรงประมูลและได้เห็นว่าคนจากเมืองชิงเฉิน รีบออกไปจากเมืองเทียนหยวนอย่างรวดเร็วเท่าที่พวกเขาจะทำได้

แม้แต่สำนักฝ่ามือโลหิตและหุบเขามนต์ดำก็ยังตามไล่หลังพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

เย่ชีเหวิน เข้าใจเป็นอย่างดีว่าการประมูลก่อนหน้านี้นั้นเป็นเพียงแค่การอย่างเชิง การต่อสู้ที่แท้จริงมันจะเริ่มหลังจากนี้

เห็นได้ชัดว่าทุกคนเองต่างก็ตระหนักถึงความเป็นจริงในข้อนี้ และไม่มีใครต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

เมืองเทียนหยวน ได้รับการคุ้มครองจากกองกำลังรัฐแน่นอนว่ามันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาหากเกิดความเสียหาย แต่สำหรับเมืองชิงเฉิน มันแตกต่างกันเขาไม่สามารถป้องปกเมืองจากเขาไม่สามารถที่จะปกป้องเมืองของตนจากภยันตรายนี้ได้

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาล่ะการต่อสู้ที่แท้จริงในที่สุดก็จะได้เริ่มขึ้นซะที
B2 : ใช่เลยรอมานานแล้วนี่ อวดเงินกันอยู่นั้นแหละคิดว่าตนรวยมากเลยช่ะ
B1 : เขาเรียกว่ามีความมั่นหน้าไง
B3 : รู้สึกได้ถึงพลังงานบ้างอย่างที่เกี่ยวกับการลาสของ
B2 : เป็นไปได้ว่างานนี้อาจมีการปรากฏตัวของนักลาสในตำนาน
B1 : ไม่ต้องถามเลยว่าใคร ยังไงก็รู้ ๆ กันอยู่
B2 : ช่ายยย ช่ายยย ช่ายยย 555555
B3 : เห้อออออ

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม