บทที่ 52 - หากเจ้ายอมตาย ข้าจะเก็บศพเจ้าไว้

ทันใดนั้น ยูหยิ่งเป้า ก็ได้แผดเสียงคำรามโหยหวนออกมาพลางกระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อซึ่งไม่อาจเทียบได้กับก่อนหน้านี้ ความเร็วของมันได้ทำให้ร่างกายเป็นเหมือนประดุจดั่งแสงเงาสีม่วงเข้ม

แต่ถึงอย่างนั้น เย่ชีเหวิน ก็ยังคงเห็นคมเขี้ยวที่แหลมคม เปิดกว้างออกมาพลางพุ่งตรงมายังเขาหมายจะขย้ำคอ

เย่ชีเหวิน ไม่มีเวลาพอที่จะให้คิด เขาจึงได้ส่งพลังปราณไปที่มีดยาวและกวัดแกว่งมันออกไป ยูหยิ่งเป้า ที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงได้รีบกระโดดหลบหนีหากแต่มันช้าเกินไป มีดยาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยลมปราณได้กวาดผ่านร่างกายร่างกายของมันจนก่อให้เกิดเป็นแผลลึกยาว

โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมิได้ยอมแพ้ มันได้กระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน อีกครั้งด้วยกรงเล็บอันแหลมคม แม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่าง เย่ชีเหวิน เองก็ตามหากโดนกรงเล็บของมันเข้าไปร่างกายของเขาคงต้องถูกเจาะทะลวงจนกลายเป็นรูโบ๋เป็นแน่

เย่ชีเหวิน ได้ก้มลงเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของ ยูหยิ่งเป้า ซึ่งในขณะเดียวกันเขาก็ได้คว้าจับมีดยาวแทงสวนขึ้นไปที่หน้าท้องของมันอย่างรุนแรง

เย่ชีเหวิน รู้สึกเพียงเหนื่อยเล็กน้อยหลังจากที่ปลายมีดของเขาได้ฝังลึกอยู่ภายในร่างของ ยูหยิ่งเป้า โลหิตของมันได้หลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

          “ โฮก! ” ยูหยิ่งเป้า แผดเสียงร้องโหยหวน

โดยมิได้ลังเล เย่ชีเหวิน ได้รีบเค้นพลังปราณของพวกเขาส่งไปยังมีดยาวที่ฝังอยู่ภายในร่างกายของ ยูหยิ่งเป้า จนอวัยวะภายในและโลหิตของมันทั้งหมดถูกทำลายไปจนหมดสิ้น

ยูหยิ่งเป้า ร้องคำรามพลางดิ้นรนอย่างทรมานก่อนจะสิ้นใจในทีสุด เย่ชีเหวิน ได้เดะเรือนร่างที่ไร้วิญญาณของมันจนปลิวกระเด็นลอยออกไปเพื่อชักมีดยาวออกมาจากร่างกายของมัน

ณ ดินแดนโลหิตหยวนนั้นไม่ได้คล้ายคลึงเลยกับโลกภายนอก แม้แต่พวกสัตว์ปีศาจเหล่านี้เองก็ตามพวกมันยังถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่ามากสำหรับสัตว์ปีศาจที่อยู่ในระดับเดียวกันเมื่อเทียบกับโลกภายนอก

ยูหยิ่งเป้า ถือได้ว่าเป็นสัตว์ปีศาจที่พบเจอได้ยากในโลกภายนอก แต่มันกลับสามารถพบเจอได้ง่ายภายในพื้นที่มิติเล็ก ๆ อย่างดินแดนโลหิตหยวน ซึ่งตามตำนานที่ได้มีการกล่าวถึงเอาไว้ว่าจำนวนมิติเล็ก ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากผลกระทบจากการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญในสมัยโบราณกาล ซึ่งความสามารถของผู้เชี่ยวชาญในสมัยโบราณกาลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ เย่ชีเหวิน จะสามารถเข้าใจได้

นอกเหนือไปจากนี้ภายในพื้นที่มิติเล็ก ๆ เหล่านี้ต่างเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศที่แตกต่างกัน บางก็เป็นมิติที่มีสภาพแวดล้อมผิดปกติและบิดเบี้ยว บางก็เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง บางก็มีสภาพแวดล้อมที่เป็นเหมือนราวกับปล่องภูเขาไฟ ซึ่งในแต่ละมิตินั้นมันก็ล้วนแล้วแต่มีสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ตามตำนานของพวกมันในแต่ล่ะดินแดนนั้นต่างกล่าวได้อย่างไม่รู้จบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อาจหาต้นต่อที่แน่ชัดของพวกมันได้ ว่ามิติดินแดนเหล่านี้มันเกิดมาจากสิ่งใดกันแน่

เพียงพริบตาวันเวลาได้ผ่านล่วงเลยไปกว่า 3 วัน เย่ชีเหวิน ได้เดินทางมาถึงแล้วครึ่งทางที่จะไปยังหุบเขา ฟงเย้ สถานที่ที่เป็นใจกลางของดินแดนโลหิตหยวน

หุบเขา ฟงเย้ เป็นสถานที่ที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย เพราะทั้งหุบเขาจะเต็มไปด้วยเหล่าต้นไม้สีแดงทั้งภูเขาเองก็ยังมีความสูงที่เสียดฟ้า หากมองจากเบื่องล่างแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถมองเห็นจุดสูงสุดของบนยอดหุบเขาและจุดสูงสุดของบนยอดหุบเขานั้นก็คือเป้าหมายของ เย่ชีเหวิน เพราะมันเป็นสถานที่ที่จะทำให้เขาพบกับ ผลไม้โลหิตหยวน

ตราบใดที่ เย่ชีเหวิน ยังคงเดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าเขาจะไม่หลง แต่ถึงอย่างนั้นในช่วงเวลา 3 วันที่ผ่านมา เย่ชีเหวิน ไม่อาจพักผ่อนอย่างเป็นสุขได้ สัตว์ปีศาจในดินแดนโลหิตหยวนแห่งนี้ตัวที่อ่อนแอที่สุดก็ยังมีระดับการบ่มพลังอยู่ที่[ ระดับขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ซึ่งถ้านับตามหลักแล้วด้วยระดับการบ่มเพาะพลังเท่านี้ถือได้ว่าพวกมันเป็นสัตว์ปีศาจที่มิได้อ่อนแอใด ๆ พวกมันต่างก่อกวนเขาทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งมันทำให้ เย่ชีเหวิน รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก

เย่ชีเหวิน พยายามที่จะปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของที่นี่อย่างช้า ๆ หลังจากที่เขาได้เคยฝึกฝนอยู่ด้านหลังของ หุบเขาชิงฟง มาเป็นเวลานานและยังมากไปด้วยเหล่าสัตว์ปีศาจเช่นนี้

ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เย่ชีเหวิน สามารถเก็บเกี่ยวดวงจิตอสูร[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ไปได้กว่า 1 โหล ทั้งยังได้สมุนไพรต่าง ๆ ที่มีค่ามากมายมาอีกเป็นจำนวนมาก

และด้วยสิ่งของเหล่านี้ที่ได้ถูกจัดเก็บเอาไว้ภายใน[กระเป๋าพื้นที่] จึงทำให้ เย่ชีเหวิน มีคะแนนแล้วกว่า 1,000 จุดอย่างรวดเร็ว หากแต่ เย่ชีเหวิน คิดว่าด้วยคะแนนเพียงเท่านี้มันยังไม่มากพอ ซึ่งมันยังกล่าวได้ว่าห่างไกลจากกับคำว่าพอ เพราะสิ่งที่ เย่ชีเหวิน นั้นต้องการคือ[ ผลไม้โลหิตหยวน ] ของล้ำค่าชั้นสูงที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ยังใฝ่ฝันหา หากเขาสามารถกลายเป็นผู้ชนะเลิศในการประลองแล้วได้รับ[ ผลไม้โลหิตหยวน ] นี้มาเป็นของตนละก็ แน่นอนว่าในภายภาคหน้ามันจะก่อเกิดผลประโยชน์ให้กับตัวเขาเองเป็นอย่างมาก

          “ ฮะฮ่าฮ่า ผ่านไปกว่า 3 วันในที่สุดข้าก็ได้เจอเจ้า เย่ชีเหวิน! ในวันนี้เจ้าจะต้องตาย แล้วข้าจะฉีกศพเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ ! ” ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ได้ก้องกังวานมาจากท้องฟ้า

และได้มีรูปร่างผู้หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นยังเบื่องหน้าของ เย่ชีเหวิน

และแน่นอนว่ามันคือ จางยวิ๋นเทียน อย่างมิต้องสงสัย ใบหน้าของมันนั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าพลางจับจ้องแน่นมาที่ เย่ชีเหวิน ราวกับว่าเขาอยากจะฉีกร่างกายของ เย่ชีเหวิน ออกเป็นชิ้น ๆ ในบัดนี้ การที่มันเป็นถึงศิษย์แถวหน้าของตระกูลจางแต่กลับต้องมาพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชแน่นอนว่าไม่ว่าเจตนาฆ่าของมันนั้นได้เดือดดาลเต็มที่ แม้ว่า เย่ชีเหวิน จะแสดงถึงความเมตรตาให้แก่มันนับหลายครั้ง หากแต่ในสายตาของมันคือความอับอายขายหน้าและความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของมันและวิธีเดียวที่จะชำระล้างความอัปยศเช่นนี้ไปได้มีเพียงแค่มันต้องฆ่า เย่ชีเหวิน ให้ได้เพียงเท่านั้น

          “ อืมมันเป็นเจ้านี่เอง! ” เย่ชีเหวิน กล่าวพลางคว้าจับมีดยาวของเขาออกมา

          “ เย่ชีเหวิน ไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้ากล้าบังอาจทำให้ข้าต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าฝูงชน แน่นอนว่านั่นไม่อาจเป็นเรื่องที่ข้าจะยอมอภัยให้แก่เจ้าได้และในวันนี้เจ้าจะต้องตาย แต่ถ้าหากเจ้ายอมฆ่าตัวตายข้ารับปากว่าจะไว้ศพเจ้า! ” จางยวิ๋นเทียน กล่าวพลางหัวเราะลั่น

          “ นี่มีดยาวของข้ามันทำให้สมองของเจ้าเลอะเลือนไปได้ถึงเพียงนี้เชี่ยวหรือ หากวันนั้นเจ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าฝูงชนขนาดใหญ่และหากข้ามิได้เมตตาเจ้า เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะมายืนแหกปากทำเสียงโวยวายอยู่ตรงนี้ได้! ” เย่ชีเหวิน กล่าวเย้ยหยันและกล่าวเพิ่มอีกครั้ง “ และแน่นอนว่าวันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าโดยไม่มีความเมตตาใด ๆ ”

จู่ ๆ ใบหน้าของ จางยวิ๋นเทียน ก็ค่อย ๆ แดงกล่ำขึ้นราวกับตูดลิง คำพูดของ เย่ชีเหวิน ก่อนหน้านี้มันได้ทำลายความภาคภูมิใจของเขาออกไปจนหมดสิ้น

          “ เจ้าคิดว่าในวันนี้ข้ามาคนเดียว? ดีในเมื่อเจ้าปฏิเสธที่จะฆ่าตัวตายงั้นก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นดั่งสัตว์เดรัจฉานที่น่าสมเพช! ” จางยวิ๋นเทียน ตะโกนกล่าวพลางกัดฟัน

มิห่างไกลจาก จางยวิ๋นเทียน มากนักก็ได้ปรากฏ 5 – 6 รูปเงาออกมา อย่างรวดเร็วแล้วมายืนยังเบื่องหน้าของ เย่ชีเหวิน

เย่ชีเหวิน ได้รับการยืนยันแล้วว่าภายในกลุ่มนอกจาก จางยวิ๋นเทียน แล้วยังมีน้องชายของมัน จางยวิ๋นเฟย มาด้วยซึ่งนอกจากนี้ จางหวู่ และ จางจือฉิว ก็ยังมากับพวกมัน ในตอนนี้ 3 ใน 7 ศิษย์แถวหน้าของตระกูลจางได้กำลังเผชิญหน้าอยู่กับ เย่ชีเหวิน อยู่ในขณะนี้

และนอกจากนี้จอมยุทธ์ที่เหลือแม้จะไม่ได้เป็นศิษย์แถวหน้า หากแต่พวกมันก็ยังมีระดับการบ่มเพาะพลังอยู่ที่[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] และยังคงนับได้ว่าพวกมันมีความแข็งแกร่งอยู่พอตัว

เพื่อการที่จะได้ฆ่า เย่ชีเหวิน จางยวิ๋นเทียน ถึงกลับต้องลงทุนพาผู้เชี่ยวชาญมาในจำนวนที่มากมายถึงเพียงนี้

          “ เย่ชีเหวิน เจ้าจะต้องตายในวันนี้ และก่อนที่เจ้าจะตายข้าจะให้เจ้ากินอาหารอย่างสุนัขและมองดูเจ้าตายไปอย่างช้า ๆ ! ” จางยวิ๋นเฟย กล่าวด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม หลังจากที่พวกเขาสองพี่น้องต่างได้พ่ายแพ้ให้กับ เย่ชีเหวิน จึงทำให้พวกเขาไม่มีหน้าที่พอจะสบตากับผู้ใดในตระกูลจางได้อีก

ในใจของพวกมันต่างเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังต่อ เย่ชีเหวิน พวกมันทั้ง 2 ต่างต้องการที่จะทรมาน เย่ชีเหวิน ด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ก่อนที่จะฆ่าเขาให้ตายไปอย่างช้า ๆ และฉีกกระฉากร่างกายของเขาออกเป็นชิ้น ๆ หากทำเช่นนี้พวกมันเชื่อว่าจะสามารถล้างความอัปยศและความอับอายเกี่ยวกับ เย่ชีเหวิน ไปจากพวกมันทั้ง 2 ได้

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : อือหือ!!!! หึหื๊ย!!!! ฮะฮ่าฮ่าฮ่า…..หากเจ้ายอมตายข้าจะไว้ศพเจ้า แค่ชื่อตอน{ ก. }ก็ฮ่าแล้ว 55555555

B2 : 55555555 พวก{ ม. }เข้าใจอะไรกันผิดไปหรือป่าว ใครกันแน่ที่จะตาย 555555

B1 : อยู่ดีดีไม่ชอบ ชอบหาที่ตาย

B2 : มันก็ต้องอย่างนี้แหละ B1 ตัวคนเดียวสู้ไม่ได้เลยจะใช่พวกเข้าช่วย แต่ที่ไหนได้ พาเพื่อนมาตาย 555555

B3 : อยู่ดี ๆ { ม. }ก็รอดอยู่แล้วแต่ยังเสือกรนหาที่กันเองอีกซะงั้นเห้อ ยิ่งอ่านยิ่งหนักใจ

B1 : ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ ช้าจะทรมานเจ้าเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน 55555 สงสัยยังไม่เคยมีประสบการณ์ร่างกายสองส่วนถึงได้กล่าพูดเช่นนี้ 5555555

B2 : งานนี้มีได้เยี้ยวเล็ดขี้ราดกันไปข้างหนึ่งอะอ่ะ

B3 : แหม่ ไอ้สอง แบบนั้นมันก็แลดูทุเลศไป…..

B1 : หื๊ย!!!! ทุลงทุเลศที่ไหน คิดไปเองหรือป่าว!!!!!!

B3 : แลดูพวก{ ม. }นี่ชอบใจกันจังนะ

B1,B2 : หื๊ยแน่นอน มีตัวประกอบโง่ ๆ อย่างนี้มีหรือที่จะไม่สะใจ[เสียงสูง]

B3 : { ส. } ทำใม { ก. } ต้องมาอยู่กับนิยายเรื่องนี้ { ก. } ไม่เข้าใจจริง ๆ

B1,B2 : อยู่ไหนก็อยู่ลำบากอะ { ม. } อะไม่ต้องไปโทษนิยายหรอก

B3 : เออ { ก. } ผิดเองพอใจยัง

B1,B2 : ที่สุด….

B3 : สุดหน้า { ม. } ดิ!!!!!

########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

  1. งง คือเก็บศิลาระดับ9ได้โหล1. =12 x500 =6000เต้มน่ะ ทำไมได้คะเเนนเเค่1000 แล้วนี้ยังไม่รวมของที่เก็บได้อีกน่ะ

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม