บทที่ 57 - ไอ้พวกบัดซบตระกูลจางมันต้องตาย!

มีจำนวนมากของต้นไม้โลหิตหยวนขนาดใหญ่สีแดงตั้งอยู่บน[ยอดเขาฟงเย้] และอีกทั้งมันยังเห็น[ ผลไม้โลหิตหยวน ]ที่ห้อยลงมาจากต้นได้อย่างชัดเจน กลิ่นหอมอันน่าเย้ายวนของมันได้แพร่กระจายออกไปยังบริเวณโดยรอบ

นี่คือผลไม้ที่มีค่ามากที่สุดภายใน[ ดินแดนโลหิตหยวน ]

และภายใต้ต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ต่างเต็มไปด้วยซากศพของพวกสัตว์ปีศาจ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนปราณก่อตั้ง ] และ [ ระดับครึ่งขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]

และถัดจากกองซากศพเหล่านี้ไปไม่ไกลนัก ก็ได้มีกลุ่มคนสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากัน

กลุ่มศิษย์จากสำนักยี่หยวนนั้นถูกนำโดย เย่ฟง และ จางหยาง ในขณะที่กลุ่มของตระกูลจางนั้นถูกนำโดยชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิว

          “ มันหมายความว่ายังไงกัน นี่พวกเจ้าว่างแผนที่จะครอบครอง[ ผลไม้โลหิตหยวน ]ไว้เพียงผู้เดียวอย่างนั้นรึ! ” จางหยาง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

          “ ถ้าพวกข้าบอกว่าใช่แล้วมันจะทำไม? ต่อให้ท่านผู้อาวุโสมาตัดสิน เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะเป็นฝ่ายชนะอย่างนั้นรึ? ”

          “ หนอย…ไอ้พวกตระกูลจาง! ”

เหล่าศิษย์จากสำนักยี่หยวนเริ่มตะโกนสบถคำด่าใส่ด้วยความโกรธ

เย่ฟง หรี่ตาเล็กน้อย แต่ยังคงมิได้กล่าวอะไร หลังจากที่เขาได้นำศิษย์จากสำนัดยี่หยวนทั้งหมดขึ้นมายังที่นี่และได้พบเข้ากับการซุ่มโจมตีของพวกเหล่าสัตว์ปีศาจอย่างกะทันหัน ซึ่งมันทำให้พวกเขาต้องพบเข้ากับความยากลำบากเป็นอย่างมากกว่าที่พวกเขาจะสามารถฆ่าพวกมันได้เสียทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ได้ผ่านศึกหนักมาตระกูลจางก็ได้ปรากฏขึ้นตัวพร้อมกับเปิดเผยความปรารถนาของตนอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะครอบครอง[ ผลไม้โลหิตหยวน ]ทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว

การกระทำเช่นนี้มันแลดูรู้สึกโจ่งแจ้งมากเกินไป

          “ หากพวกเจ้าไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้งั้นก็จงตายเสีย! ” จางจิ่งชิน หรี่ตาพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

          “ นี่พวกเจ้าคิดที่จะฆ่าพวกข้าทั้งหมด ? เหอะพวกเจ้ามิได้เกรงกลัวต่อการลงทัณฑ์ของผู้อาวุโสเลยหรืออย่างไร! ” เหล่าศิษย์จากสำนักยี่หยวนต่างตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น


          “ ฮ่า ๆ ๆ ลงทัณฑ์พวกข้า ? ด้วยเหตุผลอันใดเล่า ? พวกเจ้าศิษย์จากสำนักยี่หยวนได้ต่อสู้กับสัตว์ปีศาจและได้รับความพ่ายแพ้จนโดนพวกมันจับกิน ด้วยเหตุนี้ทำไมพวกข้าถึงจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบการตายของพวกเจ้ากัน ”

ผิวศิษย์ของสำนักยี่หยวนซีดลงอย่างฉับพลัน มันเป็นไปได้ว่าเหล่าศิษย์ตระกูลจางได้ว่างแผนที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดอยู่ก่อนแล้วและโยนความผิดทั้งหมดไปให้พวกเหล่าสัตว์ปีศาจ ?

หากเป็นเช่นนี้สำนักยี่หยวนจะหาหลักฐานที่ไหนที่แข็งแกร่งพอมาเอาผิดพวกมันได้กัน ?

          “ นับตั้งแต่ที่สำนักยี่หยวนทำท่าทีปากแข็งเช่นนี้ แล้วพวกเจ้าจะมัวชักช้าอยู่ทำไมกันเล่า ไป…ไปฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว! ” ชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิวกล่าว

ศิษย์ตระกูลจางมิได้มีความลังเลเลยแม้แต่น้อยพร้อมทั้งระเบิดกลิ่นอายเจตนาฆ่าออกมาอย่างชัดเจน เย่ฟง ได้กระโดดไปยังเบื้องหน้าของสนามรบ ด้วยระยะเวลาเพียง 1 เดือนความแข็งแกร่งของพวกตระกูลจางนั้นได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก   

ซึ่งความก้าวหน้าของพวกเขานั้นเทียบอะไรไม่ได้เลยกับมัน

แต่ถึงอย่างนั้น เย่ฟง ก็ยังคงรู้สึกโล่งใจหลังจากที่เขาเห็นว่า 3 ใน 7 ศิษย์แถวหน้าของพวกตระกูลจางมิได้อยู่ที่นี่ ที่เขาเห็นมีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นด้วยการบ่มเพาะพลัง[ ระดับครึ่งขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เขาสามารถจัดการผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่เขามิได้รู้เลยคือ 3 ศิษย์แถวหน้าของพวกตระกูลจางได้ถูก เย่ชีเหวิน จัดการไปหมดแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นสัญชาตญาณของเขามันก็ได้เตือนเขาเกี่ยวกับชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิวผู้นั้น มันดูมีความลึกลับและความรู้สึกที่อันตรายมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นสัญชาตญาณของเขามันก็ได้ช่วยชีวิตของเขามานับครั้งไม่ถ้วนในอดีตที่ผ่านมา

ฉับพลัน ชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิวได้ก้าวเท้าออกมาและทุก ๆ ย่างก้าวของมันได้สร้างรอยแตกขนาดใหญ่ไว้บนพื้นดิน

กลิ่นอายอันน่าหวั่นเกรงได้ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิว แรงกดดันทั้งหมดได้ล็อคแน่นไปที่ร่างกายของ เย่ฟง

          “ ขั้นลมปราณก่อเกิด นี่มันเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ! ” เย่ฟง ถึงกับต้องสะดุ้งเฮือก หลังจากที่เขาได้ก้าวขึ้นมายัง[ ระดับครึ่งขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] มันก็ได้ทำให้เขาเข้าใจถึงความน่ากลัวของผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่ได้ฝึกฝน[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ]พวกเขาจะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ขั้นแรกไล่ขึ้นไป ซึ่งเมื่อพวกเขาได้ก้าวข้ามไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]พลังอำนาจของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปและทำให้ประสิทธิภาพของ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] ทวีคูณเพิ่มมากขึ้นนับหลายเท่า

แรงดันและกลิ่นอายที่น่าหวั่นเกรงได้แพร่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ มันได้ทำลายขวัญกำลังใจศิษย์ของสำนักยี่หยวนไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขาทุกคนต่างรูสึกได้แรงกดดันที่หนักราวกับภูเขาได้หล่นทับใส่ร่างกายของพวกเขา ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้มันคือการข่มขู่จากผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] พวกเขาไม่อาจต่อต้านพลังอำนาจที่เด็ดขาดและไร้ข้อกังขาเช่นนี้ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่นั่งรอความตายเพียงเท่านั้น

          “ เร็วพวกเจ้ารีบหนีออกไปเสีย แล้วรอจนกว่าท่านผู้อาวุโสทั้งสองจะมา เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกมันจักต้องได้ชดใช้หนี้แค้นสำหรับในวันนี้! ” เย่ฟง ตะโกนพลางดึงกระบี่ออกมาจากด้านหลังของเขาและยืนอยู่ในแนวหน้าของทุกคนเพื่อที่จะถ่วงเวลาและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้หลบหนี

          “ ฮะฮ่า ๆ ๆ พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาจะสามารถเข้ามาได้ ? ” ชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิวหัวเราะขึ้นมาอย่างฉับพลันพลางกล่าวและมองไปยัง เย่ฟง และศิษย์สำนักยี่หยวนคนอื่น ๆ “ ในดินแดนแห่งนี้ได้ถูกปิดผนึกจากด้านในเป็นเรียบร้อย แล้วที่นี้พวกเจ้าคิดว่ามันจะมีผู้ใดกันที่จักสามารถมาช่วยชีวิตของพวกเจ้าได้อีก? ฮะฮ่า! ”

          “ ว่ายังไงนะ! ” เหล่าศิษย์จากสำนักยี่หยวนต่างตกอยู่ในอาการช็อก ในทันทีที่ได้รับรู้ว่าดินแดนแห่งนี้ได้ถูกปิดผนึกจากภายใน ซึ่งนั่นหมายความจะไม่มีใครสามารถเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาได้และพวกเขาจะต้องตายอยู่ภายในนี้

          “ บัดซับ…พวกมันจะมากเกินไปแล้ว ข้าจะอยู่ที่นี่ข้าจะต่อสู้กับพวกมัน! ” 1 ในศิษย์สำนักยี่หยวน คำราม

          “ ใช่แล้ว พวกข้าก็จะอยู่และขอสู้ตายที่นี่ พวกข้าจะไม่ยอมตายไปโดยเปล่าประโยชน์ หากจะตายก็ต้องลากคอพวกมันไปด้วย! ”

          “ อย่าได้ใจให้มันมากเกินไปนัก ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้พวกมันมีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียว! ” ชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิว กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น แต่ทว่าสายตาของเขานั้นกับจับจ้องไปที่[ ผลไม้โลหิตหยวน ]

และมันเผยให้เห็นถึงความโลภที่อยู่ภายในสายตาของเขา

ชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิว ได้คว้ามีดยาวออกมาอย่างฉับพลันและสับตรงออกไป ใบมีดประกายแสงแพรวพราวอัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่น่าหวาดกลัวพุ่งตรงไปยัง เย่ฟง

กลิ่นอายที่แพร่ออกมาโดยรอบ[ พลังปราณใบมีด ]นั้น เป็นกลิ่นอายที่น่าเกรงขามอีกทั้งมันยังมีเสียงคำรามของมังกรดังออกมาเป็นช่วง ๆ

เย่ฟง ได้คว้าจับกระบี่และฟาดฟัน[ พลังปราณกระบี่ ]ออกไปในทันที พลังอำนาจที่ถูกปล่อยออกไปนั้นมันมีมากเสียยิ่งกว่า[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]

          “ บูม! ”

[ พลังปราณใบมีด ] และ [ พลังปราณกระบี่ ] ต่างเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง จนทำให้ชั้นบรรยากาศโดยรอบเกิดการระเบิดและขยายออกไปเป็นวงกว้าง พลังอำนาจที่น่ากลัวได้แพร่ขยายออกไปทั่วทุกสารทิศ เพียงแต่พลังอำนาจ[ ใบมีดลมปราณ ]ของชายหนุ่มลึกลับแซ่หลิว ยังคงมิได้หมดลงเพียงเท่านั้น มันได้ทลาย[ พลังปราณกระบี่ ]ของ เย่ฟง และพุ่งชนเข้ากับร่างกายของเขาโดยตรงอย่างรุนแรง

          “ อ็อค! ” เย่ฟง กระอักโลหิตออกมา 1 คำ ก่อนที่ร่างกายของจะปลิวกระเด็นออกไปและคว่ำหน้าลงกับพื้น

          “ อย่าได้ใจให้มันมากนัก! ” ชายหนุ่มแซหลิวกล่าวด้วยน้ำเสียงดูหมิ่น

          “ พี่ใหญ่! ” เย่หรูเชว่ วิ่งออกมาจากฝูงชนและไปยังด้านหน้าของ เย่ฟง

          “ ฆ่าพวกมันให้หมดอย่าปล่อยให้ใครมีชีวิตรอด ” จางจิ่งชิน กล่าวด้วยน้ำเสียงอันโหดเหี้ยม

เหล่าศิษย์ตระกูลจางต่างตะโกนร้องเรียกตอบรับและวิ่งเข้าใส่ศิษย์ของสำนักยี่หยวน

แต่ทว่าทันใดนั้นสุ่มเสียงแหลมเจาะหูก็ได้ดังมาจากท้องฟ้าอันห่างไกล [ พลังปราณใบมีด ]ขนาดใหญ่ได้สับลงต่อกลุ่มศิษย์ตระกูลจาง

          “ ไอ้พวกบัดซบตระกูลจางมันต้องตาย! ” เสียงตะโกนดังมาจากท้องฟ้าไกล

หลายศิษย์ตระกูลจางพยายามจะหลบหนี[ พลังปราณใบมีด ]ที่กำลังพุ่งเข้ามา หากแต่มันช้าเกินไปร่างกายของพวกมันได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

          “ นั่นใคร? ” ชายหนุ่มแซ่หลิวตะโกนถามเป็นคนแรก

          “ ข้าเอง! ” เงาจากสถานที่อันห่างไกลเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และในสายตาของพวกมันค่อย ๆ เริ่มเติมเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเพราะเขาผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น เย่ชีเหวิน

          “ ทำไมมันเป็นเจ้า ? มันจักเป็นไปได้ยังไง ? เจ้าไม่ควรที่จะ… ” จางจิ่งชิน กล่าวด้วยรูปลักษณ์ที่มิอยากจะเชื่อสายตาตนเอง

          “ ไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่ ? ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ เหอะ…ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิดเพราะไอ้พวกสุนัขตระกูลจางที่เจ้าส่งมาข้าได้ฆ่าพวกมันไปหมดแล้ว! ”

          “ นี่เจ้ากล้า! ” จางจิ่งชิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตกใจเพราะคนที่เขาได้ส่งออกไปนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิษย์หลักธรรมดา แต่เป็นศิษย์แถวหน้าถึง 3 คน พวกเขาทุกคนต่างเป็นศิษย์ชั้นยอดแต่ทั้งหมดกับถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของ เย่ชีเหวิน

จางจิ่งชิน รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาอย่างฉับพลัน

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : 55555 ไอ้น้อง เอ็งเล่นผิดคนแล้ว!!!

B2 : ไอ้พวกไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา

B3 : อะไรกันเปิดมาก็เจออะไรแบบนี้เลยหรอ แล้วยังงี้{ ก. }จะไปพักสมองเพื่อ{ ห. }ไรเนี่ย ในเมื่อกลับมาแล้วต้องมาเพลียอะไรกับตัวร้ายเช่นนี้

B4 : แต่เห็นบอกว่าฝั่งนู้นมีผู้เชี่ยวชาญ{ ก่อเกิด } อยู่นิก็คงน่าจะเป็นการต่อสู้ที่สนุกอยู่หรอกมั้ง

B1 : อ่าว B4 ยังอยู่อีกหรอเห็นว่า B3 กลับมาแล้วก็จะไปไม่ใช่ไง

B4 : { ก. }จะไปตอนไหนมันก็เรื่องของ{ ก. }เสือก{ ค. }ไร

B1 : ………….

B3 : เอาน่า B3 ใจเย็นเรื่องนี่เราค่อย ๆ พูดกันก็ได้

B4 : ก็มันถาม หมา ๆ

B2 : ทำใมช่วงนี้ดูโหด ……

B4 : เรื่องของ{ ก. }

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม