บทที่ 59 - สังหารผู้เชี่ยวชาญ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด

พลังอำนาจใบมีดของ เย่ชีเหวิน ยิ่งกลายเป็นน่ากลัวมากขึ้น หลังจากที่เขาได้ใช้[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปกับเคล็ดวิชาใบมีดของเขา ชายหนุ่มแซ่หลิวที่พึ่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และเห็นว่า เย่ชีเหวิน ที่ยังไม่ได้เป็นแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] แต่กลับสามารถใช่[ พลังปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย มันทำให้เขารู้สึกตกใจและรับไม่ได้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขามีประสบการในการใช้[ พลังปราณก่อเกิด ]มากกว่าเมื่อเทียบกับ เย่ชีเหวิน

แต่ถึงอย่างนั้นตัวของ เย่ชีเหวิน เองก็ทราบดีเช่นกันว่าตัวเขานั้นมิได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เช่นเดียวกับชายหนุ่มแซ่หลิว ความสามารถในการกู้คืน[ พลังปราณก่อเกิด ]ของเขานั้นอยู่ในระดับที่ช้ามากเมื่อเทียบกับชายหนุ่มแซ่หลิว แม้ว่าเขาจะผันแปรพลังปราณภายในร่างให้กลายเป็น[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปแล้วกว่า 10% หากแต่ถ้าเขาใช้มันจนหมดมันก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอย่างมากในการกู้คืน ฉะนั้นแล้วเขาจึงไม่ต้องการที่จะยืดเยื้อการต่อสู้ในครั้งนี้

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มแซ่หลิวผู้นี้มีความแข็งแกร่งเป็นด้อยกว่าเมื่อเทียบกับ เย่ชีเหวิน แต่ถึงอย่างนั้นทางเลือกเดียวที่เขาสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็คือการลากการต่อสู้นี้ให้ยืดเยื้ออกไปจนกว่า เย่ชีเหวิน จะใช้[ พลังปราณก่อเกิด ]ภายในร่างกายจนหมด สำหรับเขาแล้วตระกูลจางไม่ได้เป็นอะไรมากมายไปกว่าตัวเบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง ไม่ว่าพวกมันจะอยู่หรือตายมันก็ไม่เกี่ยวกับเขา ตราบใดที่เขาสามารถบรรลุ[ ผลไม้โลหิตหยวน ]ได้ ต่อให้พวกตระกูลจางต้องตายด้วยกันทั้งหมดเขาไม่รู้สึกเสียใจ

มีดยาวของ เย่ชีเหวิน ได้ปล่อยพลังอำนาจอันเหลือล้น[ พลังปราณใบมีด ]ออกมาซึ่งมันได้ผสมผสานเข้ากับ[ พลังปราณก่อเกิด ] เขาไม่ต้องการให้การต่อสู้มันยืดเยื้อนานไปมากกว่านี้และเขาต้องการให้มันจบเร็วที่สุด

ใบมีดอันทรงพลัง เพียงแค่มองก็สามารถรับรู้ได้ในทันที ว่า เย่ชีเหวิน ไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาเพียงเท่านั้นแต่ยังมีความเข้าใจในเคล็ดวิชาใบมีดที่ห่างชั้นมากกว่าเขา หากเปรียบเทียบระหว่างเคล็ดวิชาใบมีดของพวกเขาทั้งสองคน[ พลังปราณใบมีด ]ของ เย่ชีเหวิน สามารถเปรียบได้ดั่งพายุที่รุนแรง ในขณะที่[ พลังปราณใบมีด ]ของชายหนุ่มแซ่หลิวเปรียบราวได้กับแสงเทียนอันริบหรี่ที่พร้อมจะดับได้ทุกเวลา

          “ อะไรมันทำให้เจ้าแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ ! ” ชายหนุ่มแซ่หลิวกล่าว ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถคงใบหน้าที่เยือกเย็นเอาไว้ได้ ทั้งใบหน้าและสีผิวของเขาต่างซีดขาวและตกอยู่ในอาการหวาดกลัว เขาไม่เคยพบเห็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] คนไหนที่สามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้มาก่อน ซึ่งเรื่องนี้มันได้เกินสามัญสำนึกและความนึกคิดของเขาไปแล้ว หากมิได้เห็นกับตาเขาคงไม่เชื่อแน่ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้อยู่บนโลก

เย่ชีเหวิน ไม่สนใจถึงความรู้สึกประหลาดใจของชายหนุ่มแซ่หลิว เพราะเขามิได้มีเวลามากพอที่จะมามัวชักช้าอีกต่อไป เขาต้องการที่จะจบการต่อสู้ในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด!

          “ จงตายด้วยน้ำมือของข้าเสีย! ” เย่ชีเหวิน สับใบมีดออกไป พลังอำนาจที่น่าหวั่นเกรงของ เคล็ดวิชา[ ดัดจันทร์ดับ ] ได้แบ่งขยายออกเป็น 9 ใบมีด และเข้าห้อมล้อมชายหนุ่มแซ่หลิว

          “ ไม่…มันไม่ควรที่จะเป็นเช่นนี้ ข้าคือ หลิวจื้อ บุคคลอัจฉริยะ ข้าไม่สมควรที่จะมาตายที่นี่ สักวันหนึ่งข้าจะก้าวไปสู้[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณแท้จริง ] และกลายเป็นผู้ที่ไร้เทียมทาน! ” ชายหนุ่มแซ่หลิวคำรามพลางคว้า[ ใบมีดเปลวเพลิง ]กวัดแกว่งออกไป

          “ บูม! ” เงาใบมีดได้เข้าล้อมรอบร่างกายของ หลิวจื้อ และทำให้การเคลื่อนไหวของเขาดูช้าลง ดวงตาของ เย่ชีเหวิน เป็นประกายเพราะในที่สุดเขาก็ได้ค้นพบโอกาสที่เขากำลังมองหา

เย่ชีเหวิน รอคอยโอกาสเช่นนี้มานานในที่สุดมันก็ได้มาถึง เขาได้ใช้โอกาสจากการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าของ หลิวจื้อ ในตอนนี้กวัดแกว่งใบมีดของเขาออกไป เงาใบมีดได้แพร่กระจายออกไปและปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า เงาใบมีดเหล่านี้ต่างมีทั้งของจริงและของปลอมอยู่ภายในกลุ่มเดียวกัน เขาได้รับการฝึกฝนเคล็ดวิชา[ ตัดจันทร์เสี้ยว ] มาถึงแล้วใน[ ดินแดนที่ 4 สูงสุด ] ซึ่งการโจมตีในแต่ละใบมีดนั้นล้วนแฝงไปด้วยพลังอำนาจอันมหาศาล

เงาใบมีดเหล่านี้ได้โจมตีลงมาอย่างไร้จุดหมาย ราวกับห่าฝนที่โหมกระหน่ำเขาใส่ หลิวจื้อ ซึ่งมันทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น

          “ เพล้ง ”

          “ เพล้ง ”

          “ เพล้ง ”

เสียงการปะทะกันของโลหะดังสนั่น ซึ่งการปะทะกันในแต่ละครั้งได้ส่งผลให้เกิดการระเบิดขึ้นในบริเวณพื้นที่โดยรอบ รอบตัวของพวกเขาทั้งสองนั้นได้กลายเป็นเขตพื้นที่ต้องห้าม ซึ่งไม่มีศิษย์คนไหนกล้าที่จะเข้าใกล้พวกเขา

แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าศิษย์จากทั้งสองสำนักก็มิได้ให้ความสนใจต่อการต่อสู้ของพวกเขา แม้ว่าระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขาจะอยู่ในระดับต่ำหากเทียบกับ หลิวจื้อ และ เย่ชีเหวิน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังศิษย์หลักและเป็นผู้เชียวชาญ{ ระดับขั้นที่ 8 และ ขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง } พวกเขาต่างมีการต่อสู้ของตัวเอง ซึ่งชีวิตของพวกเขาได้เดิมพันด้วยความเป็นความตายและไม่อาจที่จะประมาทได้ ภายในสนามรบพวกเขาสามารถฆ่าผู้อื่นหรือถูกผู้อื่นฆ่าได้ตลอดเวลา

เย่ชีเหวิน ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] มาถึงแล้วใน[ ดินแดนที่ 3 เชี่ยวชาญ ] เขาสามารถทลายผ่านความแข็งแกร่งระดับขั้น[ 99 พยัคฆ์ ] และครอบครองความแข็งแกร่งระดับขั้น[ มังกร ] ซึ่งมันไม่เพียงแค่มันทำให้สภาพร่างกายของเขามีความทนทานเพิ่มมากขึ้นแต่มันยังเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาให้จัดอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัว

เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] เมื่อฝึกฝนไปจนถึงในระดับแก่นแท้ของมัน มันจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ที่ใช้มันอย่างไร้ขอบเขตอีกทั้งยังเพิ่มพละกำลังในการทำลายล้างศัตรู หากเขายังคงฝึกฝนเคล็ดวิชาอย่างต่อเนื่องและรวมเป็น 1 เดียวกับเคล็ดวิชาเขาจะกลายเป็นผู้ที่ไร้เทียมทานและไม่มีผู้ใดสามารถที่จะต่อกรกับเขาได้ นอกจากนี้เคล็ดวิชาใบมีดของเขานั้นยังอยู่ในระดับที่ลึกล้ำและยังเขาครอบครองเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ด้วยการโจมตีจากเคล็ดวิชาใบมีดและมีความแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทานถือได้ว่ามันได้เติมเต็มซึ่งกันและกัน

เย่ชีเหวิน มีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับ หลิวจื้อ แม้แต่เคล็ดวิชาใบมีดของเขาเองก็ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่า หลิวจื้อ ไม่ว่าจะมองมุมไหน หลิวจื้อ ในตอนนี้ก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างแท้จริง

ทุกคนที่ได้เห็นฉากการต่อสู้ในครั้งนี้ต่างมองด้วยสายตาที่ประหลาดใจ เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใด เย่ชีเหวิน ถึงได้มีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้อีกทั้งยังปราบปรามผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] อย่าง หลิวจื้อ ให้ตกอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนั้นได้

หลิวจื้อ ผู้ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาจะถูกต้อนโดยผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] เช่นนี้

          “ ตัดจันทร์หาย ใบมีดที่ 1 ! ” เย่ชีเหวิน ใช้ลูกเล่นพร้อมปล่อยพลังปราณไปทั่วใบมีดพลางสับตรงออกไปทาง หลิวจื้อ

          “ บูม! ” [ พลังปราณก่อเกิด ]อันน่าหวั่นเกรงได้ผสานเข้ากับใบมีด กลายเป็นพลังอำนาจที่ไม่มีที่สิ้นสุดสับตรงไปยัง หลิวจื้อ

          “ ใบมีดที่ 2 ! ” เย่ชีเหวิน สับใบมีดที่ 2 ออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด เข้าได้ผสาน[ พลังปราณก่อเกิด ]เข้าไปในตัวของใบมีดและสับตรงไปทาง หลิวจื้อ

          “ บูม! ” ฝ่ามือของ หลิวจื้อ เริ่มด้านชาด้วยพลังอำนาจของ เคล็ดวิชา[ ตัดจันทร์หาย ] ทุก ๆ ครั้งที่ เย่ชีเหวิน ได้สับใบมีดออกมาพลังอำนาจของมันจะทวีคูณเพิ่มมากขึ้นจนถึงในระดับที่น่าสะพรึงกลัว

          “ ใบมีดที่ 3 ! ” เย่ชีเหวิน ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดและสับออกไปอีกครั้ง

          “ ปัง ! ” ใบมีดของ หลิวจื้อ แตกในทันทีภายใต้พลังอำนาจอันน่าหวาดกลัวของ เย่ชีเหวิน

          “ เป็นไปไม่ได้…มันไม่ควรที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้! ” หลิวจื้อ ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก ราวกับว่าเรื่องเช่นนี้มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับเขา

หลังจากที่ได้เห็น เย่ชีเหวิน กำลังจะออกใบมีดที่ 4 หลิวจื้อ ก็ได้ตะโกนกล่าวออกไปในทันที “ ไม่เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ข้าข้า… ”

แต่ทว่ายังไม่ทันที่ หลิวจื้อ จะได้กล่าวคำพูดของเขาจบ ใบมีดที่ 4 ของ เย่ชีเหวิน ก็ได้ถูกสับออกไปแล้ว เพียงพรับตา[ พลังปราณใบมีด ] ที่อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจอันน่าหวาดกลัวได้แบ่งร่างของเขาออกเป็น 2 ส่วน สายโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว

ทันทีที่ เย่ชีเหวิน ได้แบ่งร่างของ หลิวจื้อ ออกเป็นสองส่วนด้วยใบมีดของเขา [ พลังปราณก่อเกิด ]ภายในร่างก็ได้ถูกใช้ออกไปจนหมด หลังจากที่เขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เขาจึงไม่สามารถฟื้นฟู[ พลังปราณก่อเกิด ]ภายในร่างได้รวดเร็วมากพอเท่ากับ หลิวจื้อ เคล็ดวิชา[ ตัดจันทร์หาย ] นั้นมันเป็นพลังอำนาจของใบมีดที่ทับซ้อนกันซึ่งมันจะทวีคูณเพิ่มพลังอำนาจมากขึ้นตามจำนวนใบมีดที่ถูกปล่อยออกไป และจำนวนพลังปราณที่จะต้องใช้นั้นมันก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันตามลำดับ ซึ่งใบมีดแรกที่ เย่ชีเหวิน ได้สับออกไปนั้นมันมิได้เผาผลาญ[ พลังปราณก่อเกิด ]ภายในร่างกายของเขามากมายเท่าไหร่นัก แต่ทว่าทันทีที่ใบมีดที่ 4 ได้ถูกปล่อยออกไปมันได้เผาผลาญ[ พลังปราณก่อเกิด ]ภายในร่างกายของเขาไปจนหมด ทั้งทีเขายังปล่อยออกไปไม่ถึงแม้แต่ใบมีดที่ 5 ซึ่งนับได้ว่าโชคดีมากที่ หลิวจื้อ ถูกฆ่าตายในใบมีดที่ 4 แต่ถ้าหากมันไม่ตาย เย่ชีเหวิน คงไม่มีทางเลือกและต้องปล่อยใบมีดที่ 5 ออกไปซึ่งภายในร่างกายของเขาเหลือเพียงแค่[ พลังปราณก่อตั้ง ]เท่านั้นและพลังอำนาจที่ถูกปล่อยออกไปมันจะลดลงเป็นอย่างมาก

          “ นี่เจ้า…เจ้าฆ่าเขา! ” จางจิ่งชิน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว เขาตกใจกลัวและรู้สึกไม่อยากที่จะเชื่อว่า เย่ชีเหวิน สามารถเอาชนะ หลิวจื้อ ยิ่งไปกว่านั้นยังกล้าที่จะฆ่าเขา “ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร? ”

          “ ข้าไม่สนว่ามันเป็นใคร! ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ มันตั้งใจที่จะเข้าแทรกแซงการแข่งขันศิษย์หลักในครั้งนี้ นี่คือสิ่งที่มันสมควรจะได้รับ ”

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B3 : หลิวจรื้อ!!!! ไอ้ควายเอ้ย!!!!

B2 : 5555555 ตายอย่างน่าสมเพช

B1 : แม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่จบ

B4 : เหอะ หวังว่าเรื่องมันคงไม่จบแบบนี้หรอกนะ

B1 : ใช่ ๆ แค่นี้มันยังไม่จบหรอกมันต้องมีมาให้ พี่เหวิน เรากินโตะอีก

B2 : 555555 อยากเห็นหน้าผู้อาวุโสตระกูลจาง

B1 : มีน้ำตาซึม

B3 : เห้อคงไม่ต้องถามถึงชะตากรรมของไอ้พวกศิษย์ตระกูลจางล่ะ แม้งตายห่ากันหมดชัว

B2 : แหม่ก็คิดมากไปบางทีมันอาจรอดก็ได้ใครจะไปรู้ แบบผู้อาวุโสเข้ามาช่วยทันอะไรงี้

B4 : เดาไปก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดีไปดูตอนหน้าเอานู้นเดียวก็รู้เองนั่นแหละ

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม