บทที่ 63 - ฝ่ามือมังกรขด

แม้ว่า[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]นั้นจะถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่า!

แต่ว่า เย่ชีเหวิน นั้นมี[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]อยู่แล้ว 1 เม็ด ต่อให้เขาได้รับเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เม็ดผลลัพธ์มันก็ยังคงเป็นเช่นเดิม!

ณ เวลานี้ เย่ชีเหวิน เย่ฟง และ จางหยาง สามารถเข้า[ ตำหนักตำราวิชายุทธ์ ]ได้อย่างอิสระอีกทั้งยังมีโอกาสได้ฝึกฝน[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] ซึ่งมันนับได้ว่าเป็นโอกาสอันมีค่าสำหรับพวกเขา มันจำเป็นที่จะต้องบอกว่า[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] นั้นมีค่าเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขาสามารถฝึกฝน[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] ได้ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นมากอย่างมาก

หลังจากที่พวกเขาทั้ง 3 ได้เป็นผู้ชนะเลิศในกาแข่งขัน หลินเจิ่นเทียน ก็ได้หันไปทางพวกเขาพลางกล่าวว่า “ พวกเจ้าทั้ง 3 คนมากับข้า ข้าจะพาพวกเจ้าไปยัง[ ตำหนักตำราวิชายุทธ์ ]เพื่อเลือก[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ]สำหรับพวกเจ้า! ”

เย่ชีเหวิน และอีก 2 คนได้ตาม หลินเจิ่นเทียน ไปยัง[ ตำหนักตำราวิชายุทธ์ ] พวกเขาทั้ง 3 ได้เดินตามไปตลอดทางจนในที่สุดก็มาถึงชั้นบนสุดของ[ ตำหนักตำราวิชายุทธ์ ] เมื่อเทียบกับจำนวนตำราที่อยู่ชั้นด้านล่างแล้ว ชั้นนี้มีตำราอยู่เพียงแค่ 20 เล่มเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เย่ชีเหวิน นั้นทราบดีว่าถึงแม้จะมันจะมีเพียงแค่ 20 เล่มแต่มูลค่าของมันนั้นได้อยู่ในระดับที่ห่างไกลจนตำราชั้นด้านล่างไม่อาจเทียบได้

          “ พวกเจ้าทั้ง 3 ต่างเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของสำนักยี่หยวนภายในปีนี้! ” หลินเจิ่นเทียน กล่าวว่า “ พวกเจ้าคือ 3 ศิษย์แถวหน้าของ[สำนักย่อยยี่หยวนหุบเขาฉิงฟง] แต่ทว่าเขตพื้นที่ของ[หุบเขาฉิงฟง]นั้น มันช่างอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองของจักรวรรดิยิ่งนักและพวกเจ้าจำต้องรู้ว่าเหล่าอัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนต่างร่วมตัวกันเพื่อที่จะเข้าไปยังภายในสำนัก[หลัก]ยี่หยวน เช่นเดี่ยวกับพวกเจ้าที่กำลังจะไปที่นั่นในอีก 3 เดือนหลังจากนี้! ”

ทั้ง 3 คนต่างนิ่งเงียบและรับฟังคำอธิบายของ หลินเจิ่นเทียน โดยมิได้มีการซักถามใด ๆ ซึ่งความเป็นจริงภายใน[สำนักหลักยี่หยวน]แล้วนั้นแม้ว่าจะเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ก็ยังเป็นเพียงได้แค่ศิษย์ฝ่ายนอกเท่านั้น และผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่า[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] พวกเขาจะถูกพิจารณาให้เป็นศิษย์ที่ใช้แรงงาน

[ 4B //:// สถานะก็น่าจะคลาย ๆ ภารโรง นั่นแหละมั้ง ]

เกณฑ์ในการเข้าสู่สำนักยี่หยวนนั้นถือได้ว่าผ่อนปรนเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 7 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]ก็ยังสามารถเข้าสู่สำนัก[หลัก]ยี่หยวนได้ เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขานั้นมักเลือกที่จะเข้าสู่สำนัก[หลัก]ก็ต่อเมื่อระดับการบ่มเพาะพลังของตนถึง[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]แล้วเท่านั้น แม้ว่าสถานะของศิษย์ฝ่ายนอกจะมิได้สูงมากนัก แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะต้องไปเป็นศิษย์ใช้แรงงานและที่สำคัญที่สุดคือทรัพยากรที่อยู่ภายในสำนัก มันล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติล้ำค่าและมีอยู่หลากหลายชนิด มันอาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับศิษย์ฝ่ายนอกที่จะก้าวเข้าสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และก้าวของเขาสำนักฝ่ายใน นี่ก็คือเหตุผลที่แท้จริงสำหรับสำนักสาขาย่อยต่าง ๆ ว่าเหตุใดพวกเขาถึงได้ส่งศิษย์จากสำนักของตนเป็นจำนวนมากเข้าสู่สำนักหลัก

หลายปีผ่านไปสำนัก[หลัก]ยี่หยวน ได้กลายเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าบุคคลอัจฉริยะจากสำนักสาขาย่อยต่าง ๆ ที่ส่งมาเพื่อทำการบ่มเพาะพลังและฝึกฝนวิชา

และ[สำนักย่อยยี่หยวนหุบเขาฉิงฟง] ก็เป็น 1 ในหลายสำนักสาขาย่อยที่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป และอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้เหล่าบุคคลอัจฉริยะจากสำนักสาขาย่อยต่าง ๆ จะไปรวมตัวกัน ณ สถานที่เดียวกัน แม้แต่ เย่ชีเหวิน เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน

          “ และตามข่าวที่ข้าได้รับมา เหล่าสำนักยี่หยวนสาขาย่อยต่าง ๆ จะส่งผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] จำนวนมากเข้าสู่สำนัก[หลัก] ! ” หลินเจิ่นเทียน ว่ากล่าว “ ในช่วงเวลาเช่นนี้เหล่าสำนักต่าง ๆ คงจะกำลังฝึกฝนเหล่าเด็กอัจฉริยะของพวกมันอยู่และภายในปีนี้[สำนักหลักยี่หยวน]คงจะเต็มไปด้วยเหล่าบุคคลอัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนเป็นแน่และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ข้าตอบตกลงพวกตระกูลจางให้มีการจัดการแข่งขันการประลองขึ้นภายใน [ ดินแดนโลหิตหยวน ] เพื่อให้พวกเจ้าได้เรียนรู้วิธีการเอาชีวิตรอด ด้วยประสบการณ์และสภาพแวดล้อมภายใน มันทำให้ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจักต้องได้รับประโยชน์จากมัน! ”

ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] !

ฉับพลันพวกเขาทั้ง 3 คนต่างตกใจขึ้นมาในทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น โดยเฉพาะ จางหยาง ที่อยู่[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ลมปราณก่อตั้ง ]และ เย่ฟง ที่อยู่ใน[ ระดับครึ่งขั้นลมปราณก่อเกิด ] พวกเขาทั้ง 2 ต่างรู้ดีถึงความยากลำบากในการก้าวไปสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] หรือแม้กระทั่งการจะบุกฝ่าไปยัง[ ระดับครึ่งขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เช่นเดียวกับ เย่ฟง ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องยาก ในเวลานี้พวกเขาทุกคนต่างต้องการที่จะฝึกฝนการบ่มเพาะพลังของตนให้เร็วที่สุท่าที่จะทำได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความแข็งแกร่งพอที่จะสามารถต่อสู้กับพวกเหล่าอัจฉริยะภายในสำนัก[หลัก]

แม้ว่าการเข้าไปยังภายในสำนัก[หลัก] จะสามารถทำให้เขาสามารถบ่มเพาะพลังไปจนถึงใน[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่หากพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]อยู่ก่อนแล้วความเร็วในการบ่มเพาะพลังของพวกเขานั้นอาจกล่าวได้ว่าแตกต่างกันมากเกินไป

แม้ว่า เย่ชีเหวิน จะมิได้อยู่ใน[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นสามารถเทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 1 ลมปราณก่อเกิด ] หลังจากผ่านการต่อสู้มามากมายและยังกลายเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันการประลอง หากเขาสามารถก้าวขึ้นไปสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้แล้วละก็ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมมากอย่างแน่นอน

มิน่าแปลกใจที่ หลินเจิ่นเทียน ได้มอบของรางวัลและสมบัติมากมายให้กับพวกเขาถึงเพียงนี้!

          “ พวกเจ้าทั้ง 3 คนมีโอกาสมากที่สุดที่จะสามารถบุกฝ่าไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้ภายในระยะเวลาอันสั่น ฉะนั้นแล้วข้าจึงได้มอบ[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]ให้แก่เจ้าทุกคน อีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ข้ามีความมั่นใจว่าพวกเจ้าจะต้องสามารถก้าวไปสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้เป็นแน่ และเมื่อถึงเวลานั้นก็จงใช้[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]เหล่านี้เสีย เพื่อประโยชน์แก่ตัวพวกเจ้าเองในการบุกฝ่าไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ! ” หลินเจิ่นเทียน กล่าวออกไปโดยมิได้ปิดบังใด ๆ

ในเวลานี้การแข่งขันของสำนักยี่หยวนและตระกูลจางนั้นได้จบลงแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น นั่นก็เป็นเพียงแค่การแข่งขันกันของศิษย์สำนักสาขาย่อยธรรมดาเพียงเท่านั้น!

[สำนักย่อยยี่หยวนหุบเขาฉิงฟง]นั้นเป็นเพียงแค่ 1 ในหลายสำนักย่อยจำนวนนับไม่ถ้วน และในจำนวนนับไม่ถ้วนนี้นั้นก็เต็มไปด้วยทั้งมิตรและศัตรู เหล่าบรรดาศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันต่างรวมตัวเพื่อก้าวเข้าสู่สำนัก[หลัก]

          “ เอาละเชิญพวกเจ้าเลือก[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ]ตามที่พวกเจ้าต้องการได้เลย! ” หลินเจิ่นเทียน ว่ากล่าว ซึ่งมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลินเจิ่นเทียน นั้นต้องการที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพวกเขาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระยะเวลาอันสั้น

          “ ขอรับ! ”

พวกเขาทั้ง 3 ต่างพยักหน้าพร้อมกัน มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการเข้าสู่สำนัก[หลัก]นั้นมันมิใช่สถานที่อันสุขสบายและเรียบง่ายอย่างที่พวกเขาคิด

          “ ดีงั้นข้าจะไม่พูดมากเชิญพวกเจ้าเลือก[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ]ได้ตามสบาย! ” หลินเจิ่นเทียน ว่ากล่าว การเข้าสู่สำนัก[หลัก]นั้นย่อมต้องมีการทดสอบ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับเหล่าบุคคลอัจฉริยะพวกนั้น ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกมันนับว่าไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเชื่อมั่นว่าศิษย์สำนักยี่หยวนของเขานั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน นอกเหนือไปจาก เย่ฟง และ จางหยาง แล้วเขาเชื่อมั่นว่าศิษย์ภายในสำนักคนอื่น ๆ พวกเขาจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ได้ภายในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นเขาเชื่อมั่นว่า เย่ชีเหวิน มิใช่บุคคลที่ผู้ใดจะสามารถจัดการเขาได้โดยง่าย

เย่ชีเหวิน เย่ฟง และ จางหยาง มิได้รอช้าและเริ่มเลือก[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] บางส่วนก็เป็นเคล็ดวิชาที่มีความแข็งแกร่ง และบางส่วนก็เป็นเคล็ดวิชามีความอ่อนแอ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่อาจตัดสินได้เพราะพลังอำนาจของ[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ] นั้นมันมิใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถเข้าใจ

[ บ่วงอสนีบาตร ] !

[ ใบมีดล่องลอย ] !

...........................................

เย่ชีเหวิน จับจ้องไปที่[ เคล็ดวิชาการต่อสู้ระดับขั้นก่อเกิด ]เหล่านั้น แต่ก็ไม่พบเคล็ดวิชาที่เหมาะสมสำหรับเขา

ฉับพลัน เย่ชีเหวิน เหลือบไปเห็นเคล็ดวิชาลับเล่มหนึ่ง อยู่ในสภาพที่เก่าคร่ำครึวางหงายหน้าอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง

[ ฝ่ามือมังกรขด ] 3 ตัวอักษรได้ตราตรึงเข้าไปภายในดวงตาของ เย่ชีเหวิน

เย่ชีเหวิน เดินไปที่มุมพลางหยิบมันขึ้นมาและพยายามที่จะเปิดหน้าแรกของมัน เพียงแต่ในเวลานั้นเสียงตะโกนดังลั่นของ หลินเจิ่นเทียน ก็ได้เจาะไปที่หูของ เย่ชีเหวิน “ อย่าเปิดมัน! ”

แต่ทว่าในเวลานั้นเอง เย่ชีเหวิน ก็ได้เปิดหน้าแรกของมันแล้ว [ 4D //:// ตูม!!! ระเบิดเป็นโกโก้ครั้น ]

          “ ตูม! ” ฉับพลัน เย่ชีเหวิน รู้สึกได้ถึงเสียงคำรามของมังกรขนาดใหญ่ภาพความคิดที่น่าหวาดกลัวได้หลั่งไหลเข้ามาภายในจิตใจของ เย่ชีเหวิน

ภายจิตใจของ เย่ชีเหวิน ปรากฏรูปเงาชายร่างใหญ่ในลักษณ์ที่เบลอและไม่อาจมองเห็นได้ชัด ฉับพลันเขาได้เหวี่ยงฝ่ามือของเขาออกไปพลางปรากฏมังกรขนาดใหญ่สีฟ้าพุ่งออกมาจากฝ่ามือและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงคำรามดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ กรงเล็บของมันช่างดูยิ่งใหญ่และทรงพลังราวเหมือนกับว่ามันสามารถขยี้ชั้นฟ้าสวรรค์ได้ด้วยเพียงฝ่ามือของมัน

ภายในจิตใจของ เย่ชีเหวิน เขารู้สึกราวเหมือนกับว่าจิตวิญญาณของเขานั้นได้ถูกทำลายโดยการปรากฏตัวของมังกร

ฝ่ามือยังคงเหวี่ยงออกไปอย่างต่อเนื่อง มังกรจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อมองไปยังฝูงมังกรเหล่านี้มันยิ่งทำให้จิตวิญญาณของ เย่ชีเหวิน นั้นทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว

แต่ทว่าในขณะเดียวกัน[ พื้นที่ลึกลับ ]ที่อยู่ภายในจิตใจของ เย่ชีเหวิน ก็ได้ปรากฏแสงสีสายรุ้งขึ้นและดูดซับพลังอำนาจที่น่าหวั่นเกรงเหล่านี้ไปจนหมด

ดวงตาของ เย่ชีเหวิน ได้เปิดกว้างขึ้นอีกครั้งและอยู่ในลักษณะที่หอบหายใจลึกและหยดเหงื่อที่ชุ่มไปทั่วทั้งตัว

          “ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? ” หลินเจิ่นเทียน ได้ก้าวมายังเบื้องหน้าของ เย่ชีเหวิน เพียงพริบตาและซักถามในทันทีด้วยท่าทีที่กังวล

          “ ไม่เป็นอะไรท่าน ข้าสบายดี! ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
B3 : เอาตรง ๆ เลยนะ[ ก. ]ยังตะลึงกับทักษะ[ ม. ]ไม่เท่ากับพื้นที่ลึกลับของ[ ม. ]เลย คือบางทีมันก็โกงไปนะอี[ ด. ]เอ้ย

B2 : 555555555 ดูดซับ~~~~~

B3 : ซับ[ พ. ][ ม. ]สิ ก็ได้ในเมื่อฝ่าย[ ก. ]ทำอะไรไอ้เหวินของพวก[ ม. ]ไม่ได้ [ ก. ]จะไปทำคนในครอบครัวและก็คนรอบข้างของมันแทน เหอะเก่งมากนักได้เดี้ยวเจอกัน!!!!

B1 : ให้ 100 คนเลย

B2 : เล่นครอบครัวระวังจะจบไม่สวยนะเว้ย

B4 : ไอ้ 1 ไอ้ 2 พูดเล่นครอบครัวระวังจบไม่สวยนะเว้ย

B1,B2 : ใช่ใช่ ใช่ใช่ใช่

B3 : อืม~~ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะพวก[ ม. ]อย่าให้ถึงที[ ก. ]และกัน

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

  1. ฝ่ามือมังกรพิโรธ ฝ่ามือมังกรล่องนภา ฝ่ามือมังกรสะท้านฟ้า เยอะแยะไม่ใช้ เสือกใช้ชื่อฝ่ามือมังกรขด������จะบ้าแทน เหมือนมังกรเป็นง่อยเลย

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม