บทที่ 65 - ออกเดินทา

หลังจากที่ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชา[ หยุดรั้งลมหายใจ ] เย่ชีเหวิน สามารถลบตัวตนของตนเองได้แม้ว่าจะอยู่ข้าง ๆ ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ก็ตาม หากมีความระมัดระวังมากขึ้น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ก็ยังไม่สามารถรับรู้ถึงตัวตนของเขา

นอกจากนี้ เย่ชีเหวิน ยังได้ค้นพบอีกว่าเคล็ดวิชา[ หยุดรั้งลมหายใจ ] นั้นมันสามารถเปลี่ยนแปลงลมหายใจของเขาให้กลายเป็นลมหายใจของผู้อื่นได้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นความสามารถที่หาได้ยากยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ใช้ระยะเวลาไปเป็นจำนวนมากในการฝึกฝนเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ] ศิลาวิญญาณได้ถูกเผาผลาญออกไปเป็นจำนวนมาก ฉากภาพความคิดที่น่าหวาดกลัวได้ถูกดูดซับโดยพลังอำนาจของ[ พื้นที่ลึกลับ ] ทำให้ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้สามารถฝึกฝนเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ] ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับภาพความคิดที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นจะโจมตีจิตวิญญาณของเขา

เย่ชีเหวิน ได้ใช้ระยะเวลานานในการฝึกฝนเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ] แต่อย่างไรก็ตามเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ] นั้นมีความลึกล้ำมากเกินไป ด้วยระดับการบ่มเพาะพลังของ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำความเข้าใจได้ถึงพลังอำนาจของมันอย่างเต็มที่ ตลอดระยะเวลา 1 เดือนผ่านไปเขาได้เผาผลาญศิลาวิญญาณไปเป็นจำนวนมากและสามารถเข้าใจได้เพียงแค่กระบวนท่าแรกของเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ] , [ มังกรแผลงกาย ] แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่กระบวนท่าแรก แต่ก็ไม่อาจที่จะดูถูกพลังอำนาจของมันได้

นอกจากนี้การที่จะใช่[ มังกรเร้นทะยาน ]นั้นเขาจำเป็นที่จะต้องใช้[ พลังปราณก่อเกิด ]เป็นจำนวนมาก เพียงแค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวเขาต้องเผาผลาญ[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปถึง 10%

ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในขณะเดียวกันศิลาวิญญาณก็ได้ถูกเผาผลาญไปเป็นจำนวนมากภายใน[ พื้นที่ลึกลับ ] ศิลาวิญญาณจำนวนกว่า 500,000 ก้อนได้ถูกเผาผลาญไปกว่าครึ่งหนึ่งที่มี

แม้ว่าเขาในตอนนี้จะยังมิได้ก้าวเข้าสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] แต่ เย่ชีเหวิน ก็มีความมั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 1 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด ๆ ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อหรือแม้แต่กระทั่งทำการหลบหนีได้อย่างง่ายดาย

หลังจากที่ได้ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน เย่ชีเหวิน ก็มิได้อยู่ที่ด้านหลังของ[ หุบเขาฉิงฟง ]อีกต่อไปและกลับไปยังจวนของเขา

          “ นี่เจ้าว่าเยี่ยงไรนะ! เจ้าต้องการออกเดินทางไปยังสำนัก[หลัก]แต่เพียงผู้เดียว? ” ณ จวนตระกูลเย่ ขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น เซี้ยชุนเชว่ ก็ได้ร้องอุทานขึ้น

ใบหน้าของ เย่คงหมิง กลายเป็นมึนงงและจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ประดุจราวเหมือนกับว่าเขาไม่เข้าใจความคิดของ เย่ชีเหวิน ว่าเหตุใดถึงต้องเดินทางไปยังสำนัก[หลัก]แต่เพียงผู้เดียว

          “ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานมากแค่ไหน สำหรับการเดินทางจาก[ หุบเขาฉิงฟง ]ไปยังสำนักหลัก? ” เซี้ยชุนเชว่ กล่าวถาม “ อย่างน้อยมันก็ต้องใช้ระยะเวลากว่า 2 เดือนที่เจ้าจะไปถึงที่นั่น! ”

          “ ข้าทราบดี เพียงแต่การบ่มเพาะพลังของข้าในตอนนี้มันได้มาถึงคอขวดแล้วและข้าคิดว่าสำหรับการเดินทางในครานี้มันมั่นเหมาะที่จะเป็นการฝึกฝนที่ดีสำหรับข้า! ” เย่ชีเหวิน กล่าว

โดยปกติแล้วสำนัก[หลัก]มักจะส่งนกยักษ์ปีศาจมาเพื่อใช้สำหรับเป็นยานพาหนะให้กับเหล่าศิษย์

ยานพาหนะที่สามารถบินบนฟ้าได้เหล่านี้นั้นนับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดสำหรับสำนักหลัก โดยเฉพาะเหล่าศิษย์[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ที่ไม่สามารถบินบนฟ้าได้ การที่มีนกปีศาจเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็น ยิ่งไปกว่านั้นยานพาหนะยังมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเดินทางบนฟ้า เดินทางบนพื้น หรือ เดินทางบนน้ำ

แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นนกปีศาจตนนี้ยังใช้เป็นยานพาหนะสำหรับการเดินทางจาก[หุบเขาฉิงฟง]ไปยังสำนัก[หลัก]

ฉะนั้นแล้วแม้ว่าพวกเขาจะต้องเข้าไปยังสำนักหลักภายในระยะเวลา 3 เดือน เย่ฟง และศิษย์คนอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลอันใดมากมายนัก เพียงแค่รออย่างเงียบ ๆ พอถึงเวลาคนจากสำนัก[หลัก]ก็จะมารับพวกเขาเองด้วยนกยักษ์ปีศาจ

เย่คงหมิง จับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน และหันหน้าของเขาไปยัง เซี้ยชุนเชว่ พลางกล่าวว่า “ ในเมื่อเขาต้องการที่จะไปเพียงคนเดียวก็ปล่อยให้เขาไปเถอะ ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องได้รับประสบการณ์ที่มากมายอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นการดีที่เขาจะได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเสียบ้าง ข้าเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์สำหรับเขาในภายภาคหน้า! ”

          “ แต่มันอันตรายเกินไป! ” เซี้ยชุนเชว่ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล

          “ ลูกเองก็จำเป็นที่จะต้องมีการใช้ชีวิตในแบบของตน ฉะนั้นแล้วเจ้าไม่ควรที่จะฉุดรั้งเขาเอาไว้ เขาในตอนนี้มิได้เป็นเหมือนดั่งเด็กตัวน้อย ๆ อีกแล้ว เจ้าไม่สามารถปกป้องเขาได้ไปตลอดชีวิตของเจ้า! ” เย่คงหมิง กล่าวว่า

          “ ในเมื่อท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็คงมิอาจทำเช่นไรได้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ต้องระมัดระวังตนเองให้ดีเจ้าเข้าใจหรือไม่! ” เซี้ยชุนเชว่ กล่าว

          “ ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว ” เย่ชีเหวิน พยักหน้าพลางหยิบขวดหยกลายครามออกมาจากแหวนพื้นที่ของเขาและกล่าวออกไปว่า “ นี่คือ[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]เมื่อถึงเวลาโปรดมอบมันให้กับพี่สาวของข้า ”

ในเวลาเช่นนี้ทั้ง เย่ฟง และ เย่หรูเชว่ ต่างเก็บตัวฝึกฝนตนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเข้าสำนัก[หลัก]

          “ นี่มัน[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]ของเจ้ามิใช่หรือ? แล้วเหตุใดถึงมอบมันให้กับพี่สาวของเจ้ากัน! ” เซี้ยชุนเชว่ กล่าวถามในทันที “ แล้วเจ้าจะใช้สิ่งใด! ”
          “ โปรดมั่นใจ ข้ายังมีเหลืออยู่อีก 1 เม็ด! ” เย่ชีเหวิน กล่าว เขาทราบดีว่ามันเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขาที่จะเชื่อ เย่ชีเหวิน จึงได้นำ[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]อีก 1 เม็ดยื่นออกมาในด้านหน้าของพวกเขา

          “ มันเป็นเช่นนี้! ” เซี้ยชุนเชว่ กล่าวตอบรับ

ทั้ง เซี้ยชุนเชว่ และ เย่คงหมิง ต่างรู้ดีถึงความตั้งใจของ เย่ชีเหวิน พวกเขาจึงมิได้ถามถึงที่มาของ[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]อีกเม็ดหนึ่ง

และในขณะเดียวกันพวกเขาทั้ง 2 ต่างก็รู้สึกยินดีกับ เย่หรูเชว่ เพราะด้วยความช่วยเหลือจาก[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]นี้ มันจะสามารถทำให้นางนั้นบุกฝ่าไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย

พวกเขาทั้ง 2 ต่างรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นว่าลูก ๆ ของพวกเขานั้นต่างรักใคร่กลมเกลียวและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

จึงได้แต่เพียงหวังว่า หลังจากที่ได้เข้าไปยังภายในสำนัก[หลัก] แล้วนั้น พวกลูก ๆ ของเขาทั้ง 3 คนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับ เย่คงหมิง และ เซี้ยชุนเชว่ พวกเขาไม่ต้องการที่จะขออะไรมากมายไปกว่านี้

ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่นั้น พวกเขาเพียงแค่ต้องการให้ลูก ๆ ของพวกเขามีชีวิตที่ดีและมีความสุขไปกับมัน!

ความสงบสุขของพวกเขาคือสิ่งสำคัญที่สุดมากกว่าสิ่งอื่นใด!

เมื่อ เซี้ยชุนเชว่ ตอบตกลงที่จะมอบ[เม็ดโอสถก่อเกิด]นี้ให้กับ เย่หรูเชว่ รอยยิ้มกว้างก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เย่ชีเหวิน หลังจากที่เขาได้ก้าวข้ามมายังโลกใบนี้เขาได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นคนรักมิตรสหายหรือครอบครัว ก็ได้ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังกับโลกที่เขาได้จากมา ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เกี่ยวพันธ์กับโลกเดินนั้นได้เหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำ สำหรับเขาในตอนนี้มีเพียงแค่ตระกูลเย่ เท่านั้นที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจสำหรับเขาของเพียงแค่ได้ตอบแทนบุญคุณและช่วยเหลือคนในตระกูลเพียงแค่นี้มันก็ทำให้เขามีความสุขมากแล้ว

หลังจากที่เขาได้ก้าวข้ามผ่านมายังโลกใบนี้ มันทำให้เขามีความทรงจำของคน 2 คนอยู่ภายในหัว ซึ่งในคราแรกเขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก และเพื่อจัดการกับสภาพจิตใจที่เป็นอยู่ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างบุคลิกใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับโลกใบนี้และคนในตระกูล เขาได้ถูกรับการเลี้ยงดูโดยตระกูลเย่อีกทั้งยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยสมาชิกภายในตระกูล

หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ได้ตัดสินใจอย่างฉับพลันที่จะออกเดินทางไปยังสำนักหลักแต่เพียงผู้เดียว ทำให้เหล่าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ รู้สึกแตกตื่นเป็นอย่างมาก หากเขาเป็นเพียงแค่ศิษย์ธรรมดาสามัญมันก็คงมิได้เป็นปัญหาอะไร หากแต่หลังจากที่เขาได้เป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักยี่หยวน อีกทั้งยังมีความสามารถที่หาได้ยากยิ่ง อัจฉริยะที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]

และได้กลายเป็นศิษย์ชั้นนำของ[สำนักย่อยยี่หยวนหุบเขาฉิงฟง] หากเขาเลือกที่จะออกเดินทางไปยังสำนักหลักแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนเกรงว่าเขาจะได้รับอันตราย หลังจากที่ภายนอกสำนักยี่หยวนนั้นต่างเต็มไปด้วยศัตรูจำนวนมากโดยเฉพาะพวกตระกูลจางและภัยคุมคามต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

แต่ถึงอย่างนั้นนั่นก็คือความเป็นจริงของโลกใบนี้ มันไม่เคยมีที่ยืนให้สำหรับบุคคลอ่อนแอ!

แม้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงจะไม่เห็นด้วย แต่ เย่ชีเหวิน ก็ได้ตัดสินใจแล้วที่จะออกเดินทางจาก[หุบเขาฉิงฟง]ในเช้าวันรุ่งขึ้น!

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เริ่มต้นสู่การผจญภัยครั้งใหม่

B2 : งานนี้มีเงิน

B4 : [ ก. ]ว่าตัวร้ายก็คงตายเยี่ยงหมาเหมือนเดิม

B3 : จริง ๆ แล้วพ่อแม่มันสมควรถามบ้างก็ได้นะว่ามันไปได้เม็ดโอสถก่อเกิดมาจากไหน

B1 : ได้มาจากไหนไม่สำคัญหรอกครับแค่เพียงช่วยเหลือคนในครอบครัวแค่นี้ก็หล่อแล้ว

B3 : ไอ้[ ส. ]รับของโจรเนี่ยนะหล่อ

B1,B2 : สุด ๆ !!

B3 : ...........

B4 : ก็ตามนั้นแหละ B3

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม