บทที่ 71 - ลงมือ

          " ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย... " ในเวลานี้ผู้นำ[ตระกูลเฉา] เฉาจินเปียว ได้ออกมาพร้อมกับป้องมือขึ้นเหนือหน้าอกพลางกล่าวว่า " ในวันนี้พวกท่านทุกคนได้มาตามคำเชิญของพวกเราซึ่งนับว่าเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้! "
       
          " ท่านผู้นำเฉาโปรดอย่ามากพิธี ที่พวกข้ามากันในวันนี้นั่นเป็นเพราะว่าพวกข้าได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง! " จอมยุทธผู้หนึ่งกล่าว

จอมยุทธทุกคนภายในคฤหาสน์[ตระกูลเฉา]ต่างพยักหน้า ถ้าพวกเขามิได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงและสมบัติล้ำค่าอย่าง[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] มีหรือที่พวกเขาจะมาตามคำเชิญของคน[ตระกูลเฉา]?

          " ดีถ้าเช่นนั้นเราจะเริ่มทำการกำจัดเจ้าปีศาจร้ายนั่นในขณะนี้ โปรดทุกคนจงทำตาม! " เฉาจินเปียว มิได้กล่าวคำใดออกมาอีกพลางเริ่มต้นดำเนินแผนการในทันที

ขบวนเหล่าจอมยุทธขนาดใหญ่ถูกนำโดยผู้คน[ตระกูลเฉา]พลางมุ่งหน้าไปยังสถานที่บ่อแมกม่าใต้ดิน

เย่ชีเหวิน และ ไต้เสี่ยวฮวา ก็ยังปะปนอยู่ภายในฝูงชนเหล่านี้ หลังจากนั้นไม่นานนักพวกเขาก็ได้ออกมาจากเขตพื้นที่ของเมือง เหล่าจอมยุทธทั้งหมดต่างเดินทางกันอย่างรวดเร็วเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงพวกเขาก็ได้มาถึงตีนเนินเขาลูกหนึ่ง ซึ่งความสูงของมันนั้นราว 56 เมตรและมีหลุมขนาดใหญ่อยู่ด้านบน บรรยากาศภายในหลุมนั้นช่างดำมืดหากมองลึกลงไปดีดีจะเห็นได้ถึงบ่อแมกม่าอยู่ข้างใต้

เย่ชีเหวิน เดินตามฝูงชนเข้าไปภายในถ้ำอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ได้ก้าวเข้าสู่ภายในถ้ำ พวกเขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงไอความร้อนที่ระเหยอยู่รอบ ๆ อีกทั้งยังได้ยินเสียงการไหลของลาวาพร้อมกับเสียงความร้อนที่เดือดดาลอยู่ภายในถ้ำ

เย่ชีเหวิน คาดคิดว่าบ่อแมกม่าเหล่านี้มิหน้าเกิดขึ้นจากการเตรียมพร้อมระเบิดของภูเขาไฟ หากแต่มันอาจมีความเป็นได้ที่แมกม่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากการระเบิดภูเขาไฟเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งมันอาจอยู่มานานถึง 1,000 ปีแล้วก็เป็นไปได้

มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นมาได้ง่าย ๆ แมกม่าเหล่านี้ถูกจัดสร้างขึ้นมาโดยภูเขาไฟและมันอาจอยู่เช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว!

เมื่อพวกเขายิ่งเดินลงไปภายในถ้ำลึกมากเท่าไหร่อุณหภูมิภายในและทางเท้าก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น เหล่าจำนวนจอมยุทธบางคนได้ใช้พลังปราณของพวกเขาห่อหุ้มปลายเท้าเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้รองเท้าของพวกเขานั้นถูกเผาไหม้จากความร้อนสูง

อุณหภูมิและไอความร้อนภายในถ้ำเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่หลังจากที่พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเพียงแค่ใช้เวลาไม่นานนักในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นแสงสาดส่องออกมาจากบ่อแมกม่าจากที่ไกล ๆ และมันก็ค่อย ๆ เริ่มสว่างจ้าขึ้นเรื่อย ๆ

เหล่าจอมยุทธบางส่วนรีบวิ่งเข้าไปยังทิศทางของแสงนั้น เพียงพริบตาก็ได้ปรากฏบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแมกม่าในสายตาของพวกเขา ฟองและไอความร้อนต่างพุดขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นช่วง ๆ

พวกเขาทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่อยู่ในใจกลางของบ่อแมกม่า เปลวเพลิงสีครามและดอกบัวที่มีสีกลมกลืนไปกับแมกม่าโดยรอบ

พวกเขาทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกตกตะลึง เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดไหนสามารถเติบโตได้ในบ่อแมกม่าเช่นนี้มาก่อน การที่มันสามารถอยู่รอดได้ภายใต้อุณหภูมิความร้อนสูงถึงเพียงนี้แน่นอนว่ามันย่อมต้องไม่ธรรมดา กลีบดอกบัวที่เป็นสีแดงเฉกเช่นเดียวกับบ่อแมกม่าและเปลวเพลิงสีครามที่ลุกโชนโดยรอบมันช่างแลดูมหัศจรรย์ยิ่งนัก อีกทั้งพวกเขายังมองเห็นถึงเมล็ดดอกบัวที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน

          " ฮะฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่า[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]นั่นจะมีอยู่จริง ๆ เสียด้วย! " จอมยุทธบางคนกล่าวออกมาพลางหัวเราะ

หลังจากที่ได้เห็น[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]จอมยุทธคนหนึ่งก็ได้คว้าหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นมาและโยนมันลงไปที่บ่อแมกม่า

          " ตูม! " ทันทีที่หินขนาดใหญ่ได้ตกลงไปยังบ่อแมกม่าจอมยุทธผู้นั้นก็ได้ก้าวขึ้นไปบนหินขนาดใหญ่และพุ่งทะยานตัวออกไปเพื่อหมายจะคว้า[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]มาเป็นของตนในทันที

เหล่าจอมยุทธคนอื่น ๆ ต่างยืนนิ่งและมองดูชายผู้นั้นพุ่งกระโจนตัวออกไป หมายจะคว้า[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] แต่ในทันทีที่มือของเขาได้สัมผัสกับเปลวเพลิงสีครามมันก็ได้ถูกเผาไหม้ในทันทีพลังปราณที่ห่อหุ้มมือของเขานั้นถูกหลอมละลายด้วยเปลวเพลิงที่รุนแรง มือของเขาแทบจะไหม้เกรียมในทันที ร่างกายของเขาได้เสียสมดุลจากความเจ็บปวดจากการเผาไหม้จนทำให้ร่างกายของเขานั้นพลัดตกบ่อแมกม่าพลางกรีดร้องออกมาอย่างน่าสงสารและตายอย่างน่าสังเวช

          " เจ้านั่นมันโง่จริง ๆ หาที่ตายโดยแท้! "จอมยุทธหลายคนต่างคิดว่าตนนั้นโชคดีที่มิได้รีบร้อนดั่งเช่นคนที่โง่เขลาก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างมองไปที่ศพของชายผู้นั้นด้วยสายตาที่รังเกียจ

เย่ชีเหวิน ขมวดคิ้วแน่นภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ เพียงแค่ความร้อนจากแมกม่าโดยรอบนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากพออยู่แล้ว หากต้องเผชิญหน้ากับความร้อนสูงของ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]อีก นั่นก็มิอาจนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีนัก หากพลังปราณของเขาถูกหลอมละลายโดยความร้อนสูงของ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]และพลัดตกลงบ่อแมกม่าดั่งเช่นจอมยุทธผู้โง่เขลาก่อนหน้านี้ นั่นก็ไม่อาจนับว่าเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย หากไม่มีพลังปราณคอยห่อหุ้มปลายเท้าเขาอยู่ในตอนนี้เกรงว่าเท้าของเขาคงจะได้รับการเผาไหม้จนเกรียมไปเเล้วเป็นแน่

          " ให้ข้าลอง! " ในเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญหนุ่มจาก[นิกายเฉาหยาง] หวู่เฉาหยาง ได้ตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมโยนกระบี่ออกไปในทิศทางของบ่อแมกม่า ฉับพลัน หวู่เฉาหยาง ได้กระโดดขึ้นและเหยียบลงบนกระบี่ของตนพลางล่อนลงไปยังทิศทางของ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]ราวกับนกนางแอ่นและคว้ามัน

          " ชึบ! " กระบี่ได้ตัด[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]อย่างรวดเร็วจนมันลอยขึ้นเหนือท้องฟ้า สองมือของ หวู่เฉาหยาง ได้คว้าจับ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]เอาไว้อย่างแนบแน่น ฉับพลันเสียงดังอู้อี้ได้ถูกส่งมาจากปลายมือของเขาทันทีที่สัมผัสกับ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] อุณหภูมิความร้อนสูงของมันได้เริ่มต้นหลอมละลายพลังปราณที่ห่อหุ้มมือของเขา แต่ยังนับว่าโชคดีที่เขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ซึ่ง[ พลังปราณก่อเกิด ]ของเขานั้นนับได้ว่าออยู่ในระดับที่เหนือชั้นกว่า[ พลังปราณก่อตั้ง ]อย่างเทียบไม่ติด หากเหล่าผู้ที่ถือมันในตอนนี้เป็นเพียงแค่จอมยุทธ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]พลังปราณของพวกเขาจะถูกหลอมละลายในทันทีและความร้อนสูงเหล่านี้มันจะเผาไหม้มือของพวกเขาจนไหม้เกรียม

หวู่เฉาหยาง ได้ล่อนอยู่เหนือบ่อแมกม่าและกำลังต้องการจะหาที่ลงจอดในเร็ว ๆ นี้ แต่ทว่าฉับพลันเสียงโหยหวนเจาะอากาศหินก้อนขนาดใหญ่พุ่งตรงมายังเขาด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

          " ปัง! " หวู่เฉาหยาง ได้พยายามเบี่ยงร่างกายเพื่อหลบหินก้อนขนาดใหญ่กลางอากาศ ฉับพลันหินขนาดใหญ่ได้พุ่งชนเข้าที่กำแพงอย่างรุนแรงจนสร้างรอยหลุมลึกขนาดใหญ่

          " ไอ้ตาเฒ่า เฉินเถียโฉ่ว นี่เจ้ากล้าแอบลอบทำร้ายข้า! " หวู่เฉาหยาง หันหลังกลับไปมองพลางเห็น เฉินเถียโฉ่ว กำลังใช้วิธีสกปรกในการเล่นงานเขา...

เฉินเถียโฉ่ว ยิ้มเยาะ " เจ้าไม่เหมาะสมกับ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]นั่นและ[นิกายเฉาหยาง]ของเจ้าก็ไม่ควรที่จะเป็นผู้ครอบครองมัน "

ผิวของ หวู่เฉาหยาง กลายเป็นหน้าเกลียดพลางจับจ้องไปที่ เฉินเถียโฉ่ว อย่างเครียดแค้นพบางกล่าวว่า " แล้วถ้าข้าไม่ยอม? "

          " พ่อของเจ้าก็จะสูญเสียบุตรชายสุดที่รักไปยังไงละ เห็นแก่เจ้าที่มีสติปัญญาเพียงน้อยนิดข้าจึงยื่นข้อเสนอดีดีเช่นนี้ให้แก่เจ้า หลายปีที่ข้าได้เดินทางไปทั่วทั้งจักรวรรดิในขณะที่เจ้าเป็นเพียงแค่เด็กที่พึ่งลืมตาดูโลก! " เฉินเถียโฉ่ว กล่าวถากถาง

          " ไอ้ตาเฒ่าบัดซบนี่เจ้าต้องการที่จะใช้ความเป็นผู้อาวุโสของเจ้าข่มข้าเช่นนั้นรึ ดีงั้นจงแสดงวรยุทธที่เจ้าฝึกฝนมานานแรมปีให้ข้าได้เห็นมันเป็นขวัญตาหน่อยเถอะและข้าบดขยี้มันในวันนี้! " หวู่เฉาหยาง ตะโดนกล่าวด้วยความโกรธแค้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของ เฉินเถียโฉ่ว

          " ถ้าเจ้าสามารถทำได้ก็ลอง! " เฉินเถียโฉ่ว เย้ยหยันพลางวิ่งไปทาง หวู่เฉาหยาง

          " มันจะแน่สักแค่ไหนกัน กับไอ้ตาเฒ่าที่ใกล้ตายเช่นเจ้า! " หวู่เฉาหยาง ฟาดฟันกระบี่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังปราณที่น่าหวาดกลัวออกไปทาง เฉินเถียโฉ่ว

          " ตึม! " เฉินเถียโฉ่ว ได้ใช้ฝ่ามือของเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยพลังปราณรับ[ กระบี่ลมปราณ ]โดยตรง เพียงแต่ร่างกายของเขานั้นหยุดนิ่งเพราะดูเหมือนว่าตัวของเขานั้นจะตกลงไปยังบ่อแมกม่า ซึ่งฉับพลันเขาได้รีดเร่งพลังลมปราณและอัดกระแทกลงไปที่บ่อแมกม่าในทันที ด้วยแรงอัดที่รุนแรงบวกกับปฏิกิริยาที่รวดเร็วของเขาส่งให้ร่างกายของเขานั้นพุ่งออกมาจากบ่อแมกม่าโดยตรงและผงาดราวกับเป็นนกอินทรีขนาดใหญ่พวยพุ่งตรงไปยัง หวู่เฉาหยาง

          " ที่พวกมันมาที่นี่นั่นเป็นเพียงแค่เพราะต้องการ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]เช่นนั้นหรอกหรือ นี่ไม่มีใครมาที่นี่เพียงเพราะต้องการกำจัดเจ้าสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงนั้นจริง ๆ เลยใช่หรือไม่ ! " ไต้เสี่ยวฮวา กล่าวด้วยรูปลักษณ์ที่รังเกียจ
       
**********************************************************************************
B1 : เห้ยนิมันเปลวเพลิงที่แท้จริง ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ไปตามเสี่ยวเอี้ยนมา!!!!


B2 : ตอนแรกก็ไม่มั่นใจแต่ตอนนี้นี่ใช่เลย

B3 : เห้อสุดท้ายแม้งก็สู้กันเแงถ้าจะให้ดีลากไอ้เหวินมันลงบ่อไปด้วยก็ดีนะ

B4 : ท่านเจ้าเมืองหายไปไหน ?

B1 : ต่อให้พี่เหวิน[ก.]ลงไปในบ่อก็ไม่ตายหรอกเว้ย ขนาดตัวประกอบมันยังไม่ตายเลย

B2 : ใช่ B1 พูดถูก

B4 : [ก.]ว่ามันมีอะไรแปลก ๆ

B3 : เดี้ยว[ม.]รู้เลย!!!
       
B4 : เออเดี้ยวพวก[ม.]อ่ะรู้เลย!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม