บทที่ 72 - ตกหลุมพรางตระกูลเฉา

สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง? เย่ชีเหวิน ส่ายหัวเพราะเหล่าจอมยุทธพวกนี้มิได้มาเพื่อต้องการช่วยเหลือคน[ตระกูลเฉา]เลยแม้แต่น้อย!

เกือบทั้งหมดของพวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อแค่ต้องการ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]เพียงเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของสมบัติล้ำค่าหายากเช่นนี้ แม้ว่าในสถานที่แห่งนี้จะมีสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงคอยปกป้องอยู่ก็ตามพวกเขาก็ยินดีที่จะมา!

ในขณะที่ หวู่เฉาหยาง และ เฉินเถียโฉ่ว กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น [ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]ก็ได้ถูกทิ้งเอาไว้ที่พื้นดิน

          " นั่น [ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] ! "

          " มันจะต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว! "

ทันทีที่ได้เห็นการต่อสู้ของ หวู่เฉาหยาง และ เฉินเถียโฉ่ว มันทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาลุกโชน พวกเขาได้พุ่งทะยานตัวออกไปเพื่อหมายจะครอบครอง[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]ความโลภได้กัดกินจิตใจและมันผลักดันให้พวกเขาต้องเข้าต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงมัน

สงครามได้บังเกิด เหล่าจอมยุทธจำนวนมากต่างต้องบาดเจ็บล้มตาย!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสาเหตุที่พวกเขาต้องมาตกตายโดยไร้สาระเช่นนี้ มันเป็นเพียงเพราะว่าพวกเขายอมให้ความโลภกัดกินจิตใจของพวกเขา!

ทางเดินที่ทอดยาวไปยังบ่อแมกม่านั้นมีพื้นที่ที่แคบมากเกินไป มันจึงช่วยไม่ได้ที่เหล่าจอมยุทธจำนวนมากต้องพลัดตกลงไปในบ่อและตายในทันที

เย่ชีเหวิน และ ไต้เสี่ยวฮวา พวกเขาทั้ง 2 ต่างมิได้วิ่งออกไปพร้อมกับเหล่าจอมยุทธผู้โง่เขลาเหล่านั้น แม้ว่าภายในกลุ่มจะมีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ปะปนอยู่ด้วยก็ตาม หากแต่พลังอำนาจของพวกเขาก็มิอาจเทียบได้กับ หวู่เฉาหยาง และ เฉินเถียโฉ่ว ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในขณะนี้

และแน่นอนว่ายังคงมี เฉาจินเปียว ผู้ปกครอง[เมืองเฉาเจียจี๋]ร่วมอยู่ด้วย เย่ชีเหวิน ไม่เคยลืมว่า เฉาจินเปียว เองนั้นก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ด้วยเช่นกัน แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม

แต่ทว่าทันใดนั้นเอง เย่ชีเหวิน พลันรู้สึกตัวว่า เฉาจินเปียว นั้นได้หายไป เขามั่นเหมาะที่จะอยู่ ณ จุดศูนย์ของขบวนแต่ในตอนนี้เขากลับหายตัวไปอย่างฉับพลันซึ่งมันทำให้ เย่ชีเหวิน ต้องสะดุ้งและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน

          " เฉาจินเปียว หายไป! " เย่ชีเหวิน ได้แจ้งให้ ไต้เสี่ยวฮวา ทราบในทันที

          " ท่านว่าเยี่ยงไรนะ? อย่าบอกนะว่าเขาถูกจอมยุทธบ้าพวกนี้สังหารไปแล้ว! " ไต้เสี่ยวฮวากล่าว

          " ไม่ใช่พวกเขาได้หายไป เพียงเมื่อกี่นาทีก่อหน้านี้พวกเขาสมควรที่จะอยู่ตรงนี้ แต่ในตอนนี้พวกคน[ตระกูลเฉา]ทั้งหมดกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย! " เย่ชีเหวิน กล่าว

หลังจากที่ได้ฟังคำของ เย่ชีเหวิน ไต้เสี่ยวฮวา ก็พลันรู้สึกตัวพลางกวาดสายตาสังเกตโดยรอบและพบว่าพวกคน[ตระกูลเฉา]ได้หายไปแล้ว

          " นี่อาจมิใช่ที่เรื่องดี! " ไต้เสี่ยวฮวา ขมวดคิ้วแน่นพลางกล่าว เพราะดูเหมือนว่ามันจะมีความเป็นไปได้ที่[ตระกูลเฉา]จะใช้โอกาสนี้ในการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง

สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายมากขึ้น!

เหล่าจอมยุทธทั้งหมดต่างวิ่งพล่านไปที่บ่อแมกม่าจนเหลือเพียงแค่ ไต้เสี่ยวฮวา และ เย่ชีเหวิน ที่ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง

เย่ชีเหวิน เห็นชายผู้หนึ่งกำลังวิ่งเข้าไปเพื่อหมายจะคว้า[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] หากแต่กลับโดนอาวุธมีคมจำนวนมากเข้าทิ่มแทงจนร่างกายมีลักษณะประดุจคล้ายเม่น

เหล่าจอมยุทธมากมายต่างเริ่มฆ่าฟันกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งมั่นจะเป็นคนแรกที่ได้ครอบครอง[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] และไม่ต้องการเป็นคนสุดท้าย

เมื่อ เย่ชีเหวิน เริ่มคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ บ่อแมกม่าก็ได้เกิดการปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลัน เงาขนาดใหญ่ได้กระโจนออกมาจากบ่อแมกม่าและโฉบลงบนกลุ่มเหล่าจอมยุทธที่กำลังฆ่าฟันกันอยู่ การปรากฏตัวอย่างฉับพลันมันทำให้พวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะหลบหนีและถูกฆ่าตายในทันที

สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง!

ทุกคนต่างตกตะลึงหลังจากที่ได้เห็นการปรากฏตัวของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง!

          " ย่างก้าว 100 หมัดเทพเทวะ! " ไต้เสี่ยวฮวา ตะโกนพลางพุ่งทะยานไปด้านหน้าของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง

พลังหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่น่าหวาดกลัวได้ถูกยิงออกไป

          " ตูม! " หมัดที่อันแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่น่าหวาดกลัว ได้อัดกระแทกเข้าใส่ร่างที่ใหญ่โตของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง เพียงแต่ร่างที่ใหญ่โตของมันกลับกระเด็นถอยห่างออกไปเพียงแค่ไม่กี่เก้าเท่านั้น

เมื่อ ไต้เสี่ยวฮวา เป็นผู้ประเดิมแล้ว เย่ชีเหวิน ก็ไม่รอช้าพลางพุ่งทะยานออกไปข้ามบ่อแมกม่าพร้อมชักใบมีดออกมาฟาดฟันเข้าใส่สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงอย่างรุนแรง

สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงกรีดร้อง เกล็ดจำนวนมากบนร่างกายได้ถูกทำลายในทันที

หากแต่สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงยังคงมิได้ยอมแพ้ มันได้ลุกขึ้นมาพลางพุ่งกระโจนเข้าใส่[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]อย่างฉับพลัน

          " หนอยไอ้เจ้าสัตว์นรก! " หวู่เฉาหยาง ตะโกนสบถเสียงดังพลางฟาดฟัน[ ปราณกระบี่ ]ขนาดใหญ่ไปทางด้านหน้าของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิง

แม้แต่ เฉินเถียโฉ่ว เองก็ยังมิได้รอช้าพลางเหวี่ยงหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่น่าหวาดกลัวรุนแรงยิงแหวกอากาศออกไป อัดกระแทกเข้ากับร่างของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงโดยตรงจนมันถึงกับแผดเสียงคำรามกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันได้ปลิวกระเด่นและกลิ้งไปทางด้านข้าง

หากแต่มันยังคงมิได้ยอมแพ้ มันได้ลุกขึ้งมาอย่างฉับพลันพลางเกลือกกลิ้งไปทางด้านของ[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]และกัดส่วนสำคัญของมันพร้อมกลืนลงท้อง

          " บัดซบไอ้เจ้าสัตว์เวรนี่มันเล่นสกปรก! " ในเวลานี้เหล่าจอมยุทธคนอื่น ๆ ต่างไม่พอใจที่ได้เห็นสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงกลืนกิน[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]ไปแล้วกว่าครึ่ง

สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงเชิดใบหน้าของมันขึ้นพลางแผดเสียงคำรามและพุ่งกระโจนเข้าใส่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] เพียงพริบตาเหล่าผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]ได้หายไปในทันที

          " ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฮะฮ่าฮ่า ฆ่าพวกมันให้ข้า! " ในเวลานี้ทุกคนต่างได้ยินเสียงดังก้องกังวานมาจากสถานที่อันห่างไกล แต่ทว่าเสียงนี้กลับกลายเป็นเสียงที่คุ้นเคยสำหรับ เย่ชีเหวิน เพราะว่ามันคือเสียงของท่านเจ้า[ เมืองเฉาเจียจี๋ ] เฉาจินเปียว

พวกเขาทุกคนเห็น เฉาจินเปียว และอีก 2 ผู้เชี่ยวชาญที่กำลังเดินมาจากสถานที่อันห่างไกลตรงมาทางบ่อแมกม่า ซึ่ง 2 คนที่เดินมากับเขานั้นมั่นเหมาะที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ซึ่งคนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่รูปร่างเล็กกว่า เฉาจินเปียว และอีกผู้หนึ่งเป็นชายเฒ่าที่มีรูปร่างผอมแห้ง

เย่ชีเหวิน พลันจำได้ในทันทีว่า 2 ผู้เชี่ยวชาญนี้นั้นคือคนเดียวกันที่ออกมาต้อนรับเขาที่หน้าคฤหาสน์[ตระกูลเฉา] พวกเขาทั้ง 2 ต่างเป็นเสาหลักผู้ค้ำจุน[ตระกูลเฉา] ซึ่งชายวัยกลางคนนั้นคือน้องชายของ เฉาจินเปียว นามว่า เฉาจินซุย ในขณะที่ชายเฒ่าผู้อาวุโสของ[เมืองเฉาเจียจี๋]นามว่า เฉาซิ่ง ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเมืองเล็กอย่าง[เฉาเจียจี๋]นั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]มากมายถึงเพียงนี้

          " ท่านเจ้าเมืองเฉานี่มันหมายความว่าเช่นไร?" เฉินเถียโฉ่ว กล่าวถาม

          " ฮะฮ่า ๆ ก็ง่าย ๆ เพียงแค่พวกเจ้าทุกคนต้องตายในวันนี้! " ทหารยามของ[ตระกูลเฉา]กล่าวพลางหัวเราะ

          " นี่พวกเจ้าตั้งใจที่จะฆ่าข้า , นี่หมายความว่าพวกเจ้ามิได้เกรงกลัวต่อกองกำลังรัฐเลยหรือไม่! " เฉินเถียโฉ่ว กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

          " เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหนีรอดออกไปได้? พวกเจ้ามันเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]กลุ่มแรกเพียงเท่านั้น หลังจากนี้[ตระกูลเฉา]ของข้าจะเด็ดหัวผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ในบริเวณพื้นที่โดยรอบทุกคนและจะมีเพียงแค่[ ตระกูลเฉา ]ของข้าเพียงเท่านั้นที่จะเป็นใหญ่ในพื้นที่แถบนี้! " ทหารยาม[ตระกูลเฉา]ผู้หนึ่งได้กล่าวออกมา " และนอกจากนี้มันจะมีผู้ใดรู้เบื้องหลังความจริงของเรื่องนี้กัน? หลังจากที่พวกเจ้าทั้งหมดตายด้วยน้ำมือของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงอย่างโหดร้าย! "

          " ถ้าอย่างนั้นสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงนี่ก็... " ผิวของ ไต้เสี่ยวฮวา กลายเป็นบิดเบี้ยวในทันที

          " ใช่มันก็เป็นอย่างที่พวกเจ้าคิดนั่นแหละ มันต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะปราบเจ้าปีศาจกิเลนเปลวเพลิงนี่ได้! " เหล่าทหารยามต่างหัวเราะพลางกล่าว

เย่ชีเหวิน จึงเข้าใจขึ้นได้อย่างฉับพลัน เพราะนี่ได้กลายเป็นตัวอธิบายชั้นดีว่าเหตุใดกลิ่นอายของ เฉาจินเปียว นั้นถึงได้ไม่มั่นคง นั่นคงเป็นเพราะเขาได้รับบาดเจ็บจากการฝึกฝนเจ้าสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงนี่เป็นแน่

ข่าวลือที่[ตระกูลเฉา]ได้แพร่พรายออกไป ได้ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจาก[นิกายเฉาหยาง]และเมืองใกล้เคียงอย่าง[เมืองเทียนฮุย] ซึ่งในขณะเดียวกัน เย่ชีเหวิน และ ไต้เสี่ยวฮวา เองต่างก็ตกเป็นเป้าหมายของพวกมันไปด้วย!

          " เจ้าจะกล่าวมากเกินไปแล้ว! " เฉาจินซุย ตะโกนกล่าว " ฆ่าพวกมันให้หมด[ตระกูลเฉา]ของพวกเราจะได้เป็นใหญ่ในที่นี้! "

          " ฆ่ามัน! "

          " ฆ่ามัน! "

เหล่าคน[ตระกูลเฉา]ได้ออกเสียงคำราม ในขณะที่ผู้คนที่ได้ถูกรับเชิญโดย[ตระกูลเฉา]เริ่มมีสีผิวที่ซีดขาว ชีวิตของพวกเขาในตอนนี้ได้ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายและทางเลือกเดียวของพวกเขามีแต่ต้องสู้เพียงเท่านั้น สงครามที่ได้ถูกชักนำมาโดย[ตระกูลเฉา] ได้เริ่มการนองเลือดขึ้นภายในถ้ำ

ฉับพลัน เย่ชีเหวิน ได้พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วและคว้าจับราก[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]เอาไว้ แม้ว่าส่วนสำคัญจะถูกสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงกลืนกินไปแล้ว หากแต่รากของมันนั้นก็ยังนับว่ามีประโยชน์อยู่มาก

แต่ในทันทีที่ เย่ชีเหวิน ได้คว้าจับราก[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ] ก็ได้มีเงาขนาดใหญ่โผล่กระโจนเข้ามาจากด้านและโดดถีบใส่เขาอย่างไร้ความปราณีจนร่างกายของ เย่ชีเหวิน นั้นปลิวกระเด็นลอยออกไป

          " ตูม! " ด้วยแรงอัดกระแทกที่รุนแรงส่งให้ร่างกายของ เย่ชีเหวิน นั้นตกลงไปยังบ่อแมกม่า

*************************************************************************************
B3 : ตูม!!! พระเอกตาย! นิยายจบ!! โปรดยืนไว้อาลัยนิยาย MGS ได้มาถึงตอนอวสาร


B1 : อวสาร[พ.] บ้าพระเอกห่าไรจะมาตายก่ะอีกแค่แมกม่า

B2 : ใช่พี่เหวิน[ก.]ไม่ตายเพราะอะไรแบบนี้หรอก นี่กพระเอกนะเว้ยไม่ใช่ตัวประกอบ!!

B4 : นั่นไง[ก.]ว่าแล้วตระกูลเฉาแม้งต้องตัวร้ายยยยย!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม