บทที่ 75 - มุ่งหน้าสู้สำนักหลักยี่หยวน

ในช่วงระยะเวลาเพียงสั่น ๆ สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนพิการและอีก 3 ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ของ[ตระกูลเฉา]ก็ยังถูกฆ่าตายเสียทั้งหมดด้วยเงื้อมมือของ เย่ชีเหวิน เพียงคนเดียว

เพียงแค่เสี้ยววินาทีเหตุการณ์ทั้งหมดได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เหล่าจอมยุทธทั้งหมดต่างมองตาค้างและอ้าปากหวอต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งในขณะนั้นเองพวกเขาก็ได้ตระหนักว่าชีวิตของพวกเขานั้นได้ถูกช่วยเอาไว้แล้วโดย เย่ชีเหวิน จึงต่างพากันตะโกนร้องลั่นอย่างมีความสุข

          " ฆ่าไอ้พวก[ตระกูลเฉา]บัดซบนี่ ที่พวกมันบังอาจกล้าวางแผนสมคบคิดฆ่าพวกเรา! "

          " ฆ่า...ฆ่าพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือ! "

          " ดี! ... ข้าจักกำจัด[ตระกูลเฉา]ให้สิ้นซากไปเสียทั้งหมดเลยในวันนี้! "

หลังจากที่ชีวิตของพวกเขาก่อนหน้านี้ได้ถูกแขวนอยู่บนเส้นดาย หากมิได้รับการช่วยเหลือจาก เย่ชีเหวิน ชีวิตของพวกเขาก็คงจบสิ้นไปแล้วก่อนหน้านี้และก็ด้วยเหตุนี้เองมันจึงได้ปลุกขวัญกำลังใจของพวกเขาขึ้นมา เสียงคำรามโห่ร้องดังก้องไปทั่วถ้ำเหล่าจอมยุทธจำนวนมากต่างวิ่งเขาใส่ผู้คน[ตระกูลเฉา]ที่กำลังยืนนิ่งเพราะอาการช็อกจากการตายของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมัน

เย่ชีเหวิน มิได้กล่าวคำใดและเดินไปยังเบื้องหน้าของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงพลางยกมีดของเขาขึ้น สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงนั้นได้ถูกอัดกระแทกโดยหมัดของเขาจนร่างการของมันได้รับบาดเจ็บสาหัสจนพิการและไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ เย่ชีเหวิน จึงได้ปักมีดของเขาลงเสียบทะลุร่างกายของมันเพื่อปลดปล่อยมันจากความทุกข์ทรมาน

เย่ชีเหวิน เก็บศพสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงไว้ภายในแหวนพื้นที่ของเขา เพราะอย่างไรก็ตามภายในร่างกายของสัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงนั้นก็ยังคงมีโลหิตที่สืบเชื้อสายมาจากกิเลนบรรพกาลอยู่ ซึ่งนั่นมันอาจนับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแม้ก่อนที่มันจักตายจะยังมิได้เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยก็ตาม

หากแต่ถ้าเกิดมันได้เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยไปแล้วนั้น เย่ชีเหวิน ก็คงมิอาจจัดการมันลงได้อย่างง่ายดายเช่นนี้เป็นแน่ หลังจากที่มันได้กลืนกิน[ ดอกบัวเปลวเพลิงสีคราม ]เข้าไป มันก็ได้เข้าสู่สภาวะการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หากมันมีเวลามากกว่านี้อย่างน้อยเสียสัก 1 ปี มันคงสามารถก้าวไปสู่[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้เป็นแน่!

สัตว์ปีศาจกิเลนเปลวเพลิงที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ช่วงการเจริญเติบโตสามารถอยู่รอดไปจนถึงช่วงที่มันโตเต็มวัยได้เมื่อไร เมื่อนั้นมันจะกลายเป็นสัตว์ปีศาจที่มีความน่ากลัวอย่างมากในเขตพื้นที่แถบนี้ซึ่งมันจักนำภัยพิบัติมาสู่ทุกคนที่นี่ แต่โชคดีที่มันได้มาเจอกับ เย่ชีเหวิน และถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของเขา

          " [พี่ชายเย่]ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าท่านจักแข็งแกร่งถึงเพียงนี้! " ไต้เสี่ยวฮวา กล่าวขึ้น เกี่ยวกับเหล่าทหารยาม[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]ของ[ตระกูลเฉา]นั้นเขามิได้มีความสนใจใด ๆ เลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ทั้ง 3 คนและปีศาจกิเลนเปลวเพลิงของ[ตระกูลเฉา]ต่างก็ได้ถูกฆ่าตายไปจนหมดแล้วและการจักไปยุ่งเกี่ยวกับพวกทหารยามเหล่านั้น นั้นนับว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลาสำหรับเขา

แม้ว่า[ตระกูลเฉา]จะสูญเสียจุดยืนของพวกเขาไปแล้ว แต่เหล่าจอมยุทธคนอื่น ๆ ยังคงโกรธแค้นและแน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางที่จักให้อภัยเพราะถ้าหากแผนการของ[ตระกูลเฉา]นั้นสำเร็จ นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขานั้นได้สูญเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์

ทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มต่างเข้าปะทะกัน แม้แต่ หวู่เฉาหยาง เองก็ยังเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย ทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้เข้าร่วมต่อสู้ มันก็เริ่มผันแปรกลายเป็นการสังหารหมู่แต่เพียงข้างเดียวและหลังจากนั้นไม่นานนัก[ตระกูลเฉา]ก็ได้ถูกล้างบางไปอย่างสมบูรณ์

          " [พี่ชายเย่]ขอขอบคุณที่ท่านได้ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ในวันนี้ หากในภายภาคหน้าข้ามีโอกาสข้าจักตอบแทนท่านอย่างแน่นอน! " หวู่เฉาหยาง กล่าว " เพียงแต่ในยามนี้ข้าจำเป็นต้องกลับไป เพื่อบอกกล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ให้เหล่าประชาชนได้รับรู้ ฉะนั้นจึงต้องขอตัวลา! "

เย่ชีเหวิน พยักหน้าตอบ

ทุกคนได้เดินจากไปและเหลือทิ้งเอาไว้เพียงแค่ เย่ชีเหวิน และ ไต้เสี่ยวฮวา ที่ยังคงอยู่ภายในถ้ำ หลังจากที่เหล่าจอมยุทธคนอื่น ๆ ได้พบกับสถานการณ์ที่คุกคามชีวิตของตนภายในถ้ำ ฉะนั้นแล้วพวกเขาจึงมิได้เต็มใจที่จักอยู่ที่นี่นานนัก

          " [พี่ชายเย่]ข้าเองคงมิจำเป็นต้องกล่าวว่าข้านั้นก็ต้องกลับไปยังเมืองที่ข้าจากมา แต่เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการความช่วยเหลือท่านสามารถมาหาข้าได้ที่[เมืองเฉิงหยุ่น] ! " ไต้เสี่ยวฮวากล่าวพลางหัวเราะ

เย่ชีเหวิน พยักหน้า แม้ว่า ไต้เสี่ยวฮวา จักมิได้กล่าวอะไรที่น่าพอใจนัก แต่หลังจากที่พวกเขาได้ใช้เวลาผ่านอะไรด้วยกันมามันก็ได้ทำให้พวกเขาได้เข้าใจถึงตัวตนและนิสัยใจคอของอีกฝ่าย ถึงคำกล่าวจักมิได้สวยหรูแต่ เย่ชีเหวิน ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความหมายที่แอบซ่อนอยู่ภายใน

ไต้เสี่ยวฮวา นั้นยังคงเด็กและเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่ได้ก้าวเข้าสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] มันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจักมิได้เข้าไปยัง[เมืองหยุ่นเซ็ง] สถานที่ที่รวบร่วมเหล่าศิษย์อัจฉริยะของ[ตระกูลไต้]

          " ข้าคิดว่าเร็ว ๆ นี้พวกเราคงจักได้พบกันอีกครั้ง! " ไต้เสี่ยวฮวา กล่าวพลางหัวเราะ " เมื่อมองไปยังความสามารถของ[พี่ชายเย่]แล้ว ข้าเกรงว่าท่านคงจักได้เข้าไปยัง[สำนักหลักยี่หยวน]เร็ว ๆ นี้เป็นแน่และหลังจากนั้นไม่นานท่านคงจักได้กลายเป็นศิษย์ที่โดดเด่นของ[สำนักหลักยี่หยวน]และเมื่อถึงเวลานั้นเราควรที่จักได้พบกันในการรวมตัวของเหล่าจอมยุทธจาก 4 สำนักใหญ่! "

          " การรวมตัวของเหล่าจอมยุทธจาก 4 สำนักใหญ่? " เย่ชีเหวิน กล่าวถาม

          " [พี่ชายเย่] นี่ท่านไม่ทราบ? การรวมตัวเหล่าจอมยุทธจาก 4 สำนักใหญ่นั้น ดูเหมือนว่าทาง[ จักรวรรดิต้าเยว้ ]จักเป็นคนจัดตั้งขึ้น ซึ่งนอกจากนี้มันยังได้ร่วมเหล่าผู้ที่เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงและเหล่าจอมยุทธที่โดดเด่นมาทั้งทั่วทุกมุมของ[ จักรวรรดิต้าเยว้ ]! " ไต้เสี่ยวฮวา กล่าว " แม้กระทั่งบางครั้งคนของราชวงศ์เองก็ยังเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ด้วย ซึ่งนั่นนับได้ว่าเป็นการประลองที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก แต่ข้าคิดว่าด้วยความแข็งแรงของ[พี่ชายเย่] คงไม่มีทางตกรอบโดยง่ายเป็นแน่! "

เย่ชีเหวิน มิได้กล่าวถามสิ่งใดไปมากกว่านั้น หลังจากที่เขาในตอนนี้ยังมิได้เข้าร่วมเป็นศิษย์ของ[สำนักหลักยี่หยวน] มันจึงยังมีสิ่งที่เขายังมิรู้อยู่อีกมากมายนัก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้เข้าไปยังภายใน[สำนักหลักยี่หยวน]เมื่อใด สิ่งเหล่านั้นก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากสายตาของเขาได้และเขาจักได้รับรู้ในที่สุด

" ข้าคงไม่มีสิ่งใดที่จักต้องกล่าวอีกแล้วฉะนั้นขอตัวลา ข้าจำเป็นที่จักต้องรีบกลับไปยัง[เมืองเฉิงหยุ่น]ให้เร็วที่สุดเท่าที่จักทำได้ ท่านก็คงจะทราบแล้วว่าข้าได้แอบชิ่งมาเพียงลำพัง มิฉะนั้นแล้วข้าคงได้มาพร้อมกับกลุ่มคนของข้า! " ไต้เสี่ยวฮวา กล่าว

4 สำนักใหญ่นั้นได้ก่อตั้งขึ้น ณ 4 ทิศของ[ จักรวรรดิต้าเยว้ ] คือ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ และทิศใต้ ซึ่ง[สำนักหลักยี่หยวน]นั้นได้ก่อตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและ[สำนักยี่หยวนสาขาหุบเขาฉิงฟง]ได้ก่อตั้งอยู่ที่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แม้ว่าระยะทางจะจัดว่าอยู่กันเสียค่อนข้างห่างไกล แต่ถ้าหากเดินทางด้วยนกยักษ์ปีศาจก็จักใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 วันเพียงเท่านั้น แต่สำหรับ[เมืองเฉิงหยุ่น]ที่ก่อตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ[ จักรวรรดิต้าเยว้ ] แม้ว่าจักใช้นกยักษ์ปีศาจในการเดินทางก็ตามมันก็ยังจำเป็นที่จักต้องใช้ระยะเวลากว่าครึ่งเดือนอยู่ดีกว่าจักไปถึง เมื่อเทียบกับ เย่ชีเหวิน แล้ว ไต้เสี่ยวฮวา นั้นถือได้ว่ามีความตึงเคลียดกว่ามาก

          " อ่า ข้ามั่นใจว่าเราจักต้องได้พบกันอีกครั้งในอีกสักวัน! " เย่ชีเหวิน พยักหน้า

หลังจากที่ได้กล่าวคำอำลากับ ไต้เสี่ยวฮวา เย่ชีเหวิน ก็ได้เริ่มต้นการเดินทางคนเดียวอีกครั้ง

-----------------------

2 เดือนผ่านไปเพียงพริบตา ทางเข้าขนาดใหญ่ของ[สำนักหลักยี่หยวน]ได้ถูกเปิดออกทางทิศตะวันตกของ[ จักรวรรดิต้าเยว้ ] ทันทีที่ เย่ชีเหวิน ได้มาถึงเขาก็ได้ค้นพบว่าภายในของสำนักนั้นต่างคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนที่มากมายกว่า 100 สำนักสาขาย่อย คนเหล่านี้ต่างเป็นอัจฉริยะผู้โดดเด่นจากทั่วทุกมุมของ[ จักรวรรดิต้าเยว้ ] ซึ่งการที่พวกเขาได้มายังที่แห่งนี้นั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาต่างมีเป้าหมายเดียวกันเช่นเดียวกับ เย่ชีเหวิน ที่ต้องการเข้าสู่[สำนักหลักยี่หยวน]

          " นี่น่ะหรือสำนักหลักยี่หยวน สถานที่ที่เต็มไปด้วยเหล่าศิษย์อัจฉริยะจำนวนมากที่ถูกส่งมาจากสำนักสาขาย่อย! " เย่ชีเหวิน อุทานพลางทอดสายตายาวออกไปและเห็นเทือกเขาขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนในสถานที่อันห่างไกล ซึ่งความสูงของมันนั้นอาจกล่าวได้ว่าสูงเสียดฟ้าจนไม่อาจมองเห็นยอดเขาได้ชัดเจนนัก อีกทั้งมันยังถูกปกคลุมไปด้วยชั้นก้อนเมฆบาง ๆ และน้ำตกที่ทอดยาวลงมาเป็นสายจนเกิดเป็นประกายแสงสีสายรุ้ง ซึ่งมันให้ความรู้สึกที่ราวเหมือนกับว่าเป็นสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ชั้น 7

ท่ามกลางหุบเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุด พระราชวังมากมายต่างตั้งตระหง่านสูงลิ่วนับจากระดับพื้นดินและกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมซึ่งมันให้บรรยากาศที่ราวเหมือนกับว่ามันได้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

ซึ่งสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือภายในส่วนลึกของเทือกเขาต่างเต็มไปด้วยพระราชวังมากมายที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาสูงทอดยาวออกไปราวกับว่ามันเป็นเมืองในขุนเขา

เย่ชีเหวิน รู้สึกประหลาดใจต่อสิ่งที่ได้ปรากฏตรงหน้าของเขา มันช่างชัดเจนราวกับเป็นสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมของ[สำนักยี่หยวนสาขาย่อยหุบเขาฉิงฟง]แล้วนั้นมันไม่มีสิ่งใดที่จักมาเทียบเคียงได้เลย และนี่ก็คือเห็นผลที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากกต่างต้องการมายังสำนักใหญ่เหล่านี้ ด้วยพื้นที่ที่ราวเหมือนกับสรวงสวรรค์และมากไปด้วยเคล็ดวิชาที่หลากหลาย มันอาจกล่าวได้ว่าเป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนสำหรับ เย่ชีเหวิน

แม้ว่าจักห่างออกไปนับหลาย 10 กม. เย่ชีเหวิน ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของ[ พลังงานปราณจิตวิญญาณ ]ที่อัดแน่นอยู่ในกระแสลมได้อย่างชัดเจนซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการบ่มเพาะพลัง ทุก ๆ ครั้งที่กระแสลมได้พัดผ่านใบหน้าของเขามันทำให้เขารู้สึกสดชื่นและหายใจได้คล่องขึ้น เย่ชีเหวิน ไม่ทราบว่าภายในหุบเขาเหล่านี้ได้ถูกปลูกฝัง[ ชีพจรจิตวิญญาณ ]เอาไว้เป็นจำนวนมากโดยท่านเจ้าสำนัก มันจึงทำให้ทั่วทั้ง[สำนักหลักยี่หยวน ]นั้นอัดแน่นไปด้วย[ พลังงานปราณจิตวิญญาณ ]

หากเขาได้รับการฝึกฝนการบ่มเพาะพลังที่นี่แน่นอนว่ามันจักทำให้ความเร็วของเขานั้นเพิ่มขึ้นมาอีกถึง 2 เท่านับจากเดิม!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม