บทที่ 80 - เริ่มต้นการชำระหนี้แค้น

โดยปกติแล้วนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้เขาสมควรที่จักอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องพวกเขา!

หากแต่ในเวลาสำคัญเช่นนี้เขากลับหายตัวไปและไม่มีใครพบเขา!

หาก หลินเจิ่นเทียน อยู่ที่นี่ในเวลานี้เรื่องทั้งหมดก็คงมิได้เกิดขึ้นและ เย่ฟง ก็คงมิต้องบาดเจ็บโดยพวกมัน!

          “ เกี่ยวกับเรื่องนี้พวกเราเองก็มิทราบว่าท่าน[เจ้าสำนักหลิน]นั้นอยู่ที่แห่งหนใด ทันทีที่เขาได้มาถึงเขาก็ก็ได้ถูกเรียกตัวโดยสำนักหลัก แม้กระทั่งผู้อาวุโสจากสำนักย่อยอื่น ๆ ก็ยังถูกเรียกตัวไปด้วยเช่นกัน! ” จางหยาง กล่าว แม้ว่าตำแหน่ง[เจ้าสำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]จักตกไปอยู่ในมือของ เย่คงหมิง แล้วหากแต่จากความเคยชินมานับตั้งแต่ที่เขายังเล็กจึงได้เรียก หลินเจิ่นเทียน ว่าท่าน[เจ้าสำนักหลิน]มาโดยตลอด หากต้องเปลี่ยนให้เขาเรียก หลินเจิ่นเทียน เป็นอย่างอื่นมันก็จักเป็นที่ยากลำบากอยู่สำหรับเขาเล็กน้อย หากแต่นี่ก็เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็ก ๆ ที่ไม่ควรนำมันมาใส่ใจ “ แม้ว่าข้าจักไม่รู้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ข้ามันใจว่าผู้อาวุโสทุกคนได้ถูกเรียกตัวไปในครั้งนี้! ”

ในขณะที่พูดคุยกับ จางหยาง อยู่นั้น เย่ชีเหวิน ก็ได้ก้าวเดินเข้ามาภายในห้องและเห็นว่า เย่ฟง ได้นอนอยู่บนเตียง ผิวของเขาดูซีดอีกทั้งยังหายใจติด ๆ ขัด ๆ และมี เย่หรูเชว่ คอยดูอาการอยู่ข้าง ๆ

เย่ชีเหวิน มิได้เห็น เย่หรูเชว่ เลยในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา เขาได้ตรวจจับลมหายใจของนางและพบว่านางได้ก้าวมาถึงแล้วใน[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] และมีเพียงแค่ชั้นบาง ๆ เท่านั้นที่ปิดกั้นนางเอาไว้ ด้วยความช่วยเหลือจาก เย่ชีเหวิน ที่ได้มอบ[ เม็ดโอสถก่อเกิด ]ของเขาให้แก่นาง การจักทลายผ่านไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]นั้นคงเป็นเรื่องของเวลา และตามความคาดการณ์ของ เย่ชีเหวิน หลังจากที่ เย่หรูเชว่ ได้มาถึง[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]แล้วนั้น นางสมควรที่จักผ่านไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ภายในเดือนนี้

          “ พี่ใหญ่ พี่หญิง! ” เย่ชีเหวิน ก้าวมายังภายใน

          “ น้องเล็ก เจ้ากลับมา! ” เมื่อ เย่ฟง ได้เห็น เย่ชีเหวิน เขาก็ได้กล่าวทักทายออกไปด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เขาได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าของเขานั้น ก็ได้มีการกระตุกเล็กน้อย

          “ น้องเล็กเจ้าต้องแก้แค้นให้กับพี่ใหญ่ของพวกเรา ไอ้บัดซบ เหวินชิหยาง และ ฮั่วเฉิง นั่นมันจักล้ำเส้นกันมากเกินไปแล้ว! ” เย่หรูเชว่ กล่าวด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

เย่ชีเหวิน ยังคงจำได้ดีสำหรับความทรงจำของเขาในวัยเด็กที่ตัวเองนั้นทั้งอ่อนแอและไร้พลัง จักมีก็เพียงแต่ เย่ฟง และ เย่หรูเชว่ ที่คอยปกป้องเขาเอาไว้เสมอมา ฉะนั้นแล้วมิตรภาพระหว่างพี่น้องของพวกเขานั้นจึงมีความแน่นแฟ้นเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

แม้ว่าสายสัมพันธ์ของ เย่ชีเหวิน และพวกเขาอีก 2 คนจักมิได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายโลหิต แต่ความใกล้ชิตของพวกเขานั้นก็มีมากกว่าพี่น้องร่วมสายโลหิตคนอื่น ๆ นับหลายคู่

          “ [ศิษย์น้องหญิงเย่] นั่นเป็นเพราะว่าเจ้าอยู่ภายในที่พักเจ้าจึงไม่ทราบ และพลาดการต่อสู้ของ[ศิษย์น้องเย่]และเจ้าบัดซบ ฮั่วเฉิง นั่นที่ถูกอัดจนเละและหมอบคลานสิ้นสภาพเช่นเดียวกับสุนัขตายในด้านหน้าของศิษย์จากสำนักย่อยสาขาอื่น ๆ จำนวนนับไม่ถ้วน ” ในขณะนั้นเอง หวู่เฮา ก็ได้ตอบแทน เย่ชีเหวิน

          “ จริงหรือ? ” เย่หรูเชว่ กล่าวด้วยน้ำเสียงและรูปลักษณ์ใบหน้าที่ประหลาดใจ แม้ว่า เย่ชีเหวิน จักได้รับการยอมรับว่าเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดใน[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]แม้แต่ เย่ฟง ก็ยังเป็นรองเขา หากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นเพียงแค่น้อยชายของนางมีหรือที่นางจักไม่เป็นห่วง หลังจากที่พวกมันได้มาที่เพื่อต้องการต่อสู้กับ เย่ฟง และเป็นฝ่ายชนะไปและรายต่อไปนั้นก็คงไม่พ้น เย่ชีเหวิน

แต่ตามคำบอกเล่าของ หวู่เฮา , ฮั่วเฉิง กลับพ่ายแพ้อย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของ เย่ชีเหวิน และในขณะที่ หวู่เฮา กำลังอธิบายถึงระเอียดต่าง ๆ อยู่นั้น เย่ฟง ก็ได้มองเห็นรูปลักษณ์ใบหน้าที่ราวเหมือนกลับมิได้แยแสสิ่งใดของ เย่ชีเหวิน เฉกเช่นเหมือนกับเขามีลักษณะที่เบื่อหน่ายกับการต่อสู้เช่นนั้น

และนั่นมันไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาสงสัยในความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน หากแต่จากสิ่งที่เล่ามานั้นมันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากเกินไปที่ เย่ชีเหวิน สามารถเอาชนะ ฮั่วเฉิง ได้อย่างง่ายดายและทำให้เขามีสภาพเช่นเดียวราวกับสุนัขตาย

          “ หากนั่นเป็นตามที่[ศิษย์น้องหวู่]กล่าวมา นั่นก็เท่ากับน้องเล็กได้ระบายความโกรธให้กับพี่ใหญ่คนนี้แล้ว! ” เย่ฟง กล่าวด้วยรอยยิ้ม

          “ ไม่มันยังเร็วเกินไปที่พี่ใหญ่จักกล่าวเช่นนั้น ” เย่ชีเหวิน กล่าวอย่างเยือกเย็น “ ท่านจักกล่าวคำพูดเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อเรื่องมันได้ถูกสะสางจนเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น ”

คำกล่าวของ เย่ชีเหวิน อัดแน่นไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

แต่เริ่มเดินที เย่ชีเหวิน คาดหวังว่าผู้อาวุโสจักอยู่ที่นี่และคอยช่วยเหลือพวกเขา หากแต่เขากลับถูกเรียกไปโดยสำนักหลัก แม้กระทั่งผู้อาวุโสจาก[สำนักย่อยเชาหยาง]เองก็ยังถูกเรียกตัวด้วยเช่นกัน ฉะนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่อาจที่จักหาที่พึ่งจากที่ใดได้ นอกจากต้องพึ่งความสามารถของตนเอง

หาก เย่ชีเหวิน มาช้าไปมากกว่านี้ เรื่องมันคงมิได้จบลงเพียงแค่ เย่ฟง นอนบนเตียงเป็นแน่ เมื่อยิ่งมองไปยังสภาพของ เย่ฟง ที่มิอาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ มันก็ยิ่งทำให้ เย่ชีเหวิน นั้นรู้สึกโกรธแค้นมากขึ้น แล้วมีหรือที่เขาจักยอมปล่อยพวกมันไปโดยง่าย?

คนของ[สำนักย่อยเชาหยาง] กำลังรอโอกาสที่ผู้อาวุโสของ[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ไม่อยู่ เพื่อที่จักได้ระรานพวกเขา เพราะหากมิเป็นเช่นนั้นพวกมันคงกระทำการไม่สำเร็จเป็นแน่ เพียงแต่ในขณะนั้นเองสวรรค์ก็ได้เข้าข้างพวกมัน ผู้อาวุโสจากทุกสำนักย่อยต่างถูกเรียกตัวไปพร้อมกับศิษย์ระดับสูง ที่มีความแข็งแกร่งอันน่าทึ่ง ด้วยพลังอำนาจของพวกเขานั้น สามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เช่นพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

และก็ในขณะนั้นเองที่ผู้อาวุโสได้ถูกเรียกตัวไป คนจาก[สำนักย่อยเชาหยาง]ก็ได้เริ่มระรานคนจาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ในทันที ไม่เพียงแต่บุกลุกล้ำเส้นในเขตพื้นที่ แต่ยังหาเรื่องสารพัดอีกทั้งยังยั่วยุให้ศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]มีน้ำโหมากยิ่งขึ้น

เย่ชีเหวิน ได้หยิบขวดโอสถออกมาจากแหวนพื้นที่ของเขา ที่ได้ปล้นมาจากผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]นามว่า ลู่เทียน สมุนไพรทั้งหมดที่อยู่ในการครอบครองของเขานั้นล้วนแล้วแต่มีคุณภาพสูงอีกทั้งยังมีอยู่มากมาย แม้ว่า เย่ชีเหวิน จักใช้มันเพื่อรักษาตนเองไปแล้วเป็นจำนวนมาก หากแต่มันก็ยังเหลืออยู่ไม่น้อยที่ เย่ชีเหวิน ได้แบ่งเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น

หลังจากที่ได้รับประทานโอสถใบหน้าของ เย่ฟง ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแม้กระทั่งสภาพร่างกายของเขาก็ยังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่านี่เป็นโอสถของผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ต้องขอบคุณ ลู่เทียน จริง ๆ

ตามที่ เย่ชีเหวิน ได้คาดการณ์ไว้ เย่ฟง สมควรที่จักฟื้นฟูสภาพร่างกายได้เต็มที่ในอีก 2 – 3 วันหลังจากนี้ ซึ่งนั่นก็น่าจักทันการทดสอบที่จักมาถึงอย่างพอดิบพอดี

เมื่อ เย่ชีเหวิน เห็นว่าสภาพโดยรวมของ เย่ฟง นั้นดีขึ้นเขาก็ได้ถอดถอนหายใจพลางกล่าวว่า “ พี่ใหญ่โปรดรอไม่นาน ข้าจักแก้แค้นมันให้แก่ท่านเอง แค้นของท่านจักต้องถูกชำระล้างในวันนี้ ไอ้พวก[เชาหยาง]มันต้องได้รับบทเรียน หากข้าไม่สั่งสอนมันในวันนี้มันจักเป็นการทำลายชื่อเสียงของ[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ของพวกเรา และทุกคนจะตราหน้าว่าสำนักเรานั้นอ่อนแอ! ”

คำกล่าวของ เย่ชีเหวิน นั้นช่างลึกซึ้งและทรงพลัง กฎของโลกนี้ไม่เคยต้อนรับคนอ่อน การทดสอบที่จักมาถึงนี้นั้นถือได้ว่าสำคัญเป็นอย่างมากในหมู่สำนักย่อย

มีเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จักได้รับความเคารพ ถ้า[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ไม่ตอบสนองต่อคำยั่วยุของ[สำนักย่อยเชาหยาง] นั่นก็เท่ากับว่าเป็นการยอมรับว่าสำนักของตนนั้นอ่อนแอ ฉะนั้นแล้วหากมีคนที่พยายามจักปล่อยหมัดออกมาเราก็จำเป็นที่จักต้องปล่อยหมัดสวนกลับไป เพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าตนนั้นแข็งแกร่ง

การสั่งสอน[สำนักย่อยเชาหยาง]นั้นคือการกู้คืนศักดิ์ศรีของ[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ได้ดีที่สุด หากแต่นั่นเป็นเพียงแค่เหตุผลรอง เหตุผลหลักที่ เย่ชีเหวิน ต้องการที่จักไปบดขยี้[สำนักย่อยเชาหยาง]นั้น คือคนที่อยู่เบื้องหลังอาการบาดเจ็บของ เย่ฟง ซึ่งเขาจักไปลากคอมันออกมาให้จงได้

เย่ชีเหวิน ได้สอบถามถึงที่ตั้งของพวก[สำนักย่อยเชาหยาง] และเดินออกไปพร้อมกับหลายศิษย์ของ[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]

คฤหาสน์[สำนักย่อยเชาหยาง] นั้นตั้งอยู่ห่างไม่ไกลนักจากคฤหาสน์ของ[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง] เพียงแค่ใช้ระยะเวลาไม่นาน เย่ชีเหวิน ก็ได้มาถึงแล้วยังหน้าคฤหาสน์[สำนักย่อยเชาหยาง]

เย่ชีเหวิน ก้าวเดินออกไปข้างหน้าพลางตะโกนกล่าวว่า “ เหวินชิหยาง รีบย้ายตูดของเจ้ามาที่นี่เสียเดี๋ยวนี้! ”

เสียงของ เย่ชีเหวิน ได้แพร่กระจายออกไปพร้อมกับพลังปราณท่าหวาดกลัว ครอบคลุมทั่วทั้งคฤหาสน์ของ[สำนักย่อยเชาหยาง] ซึ่งคนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนั้นต่างรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัว จึงได้กรูกันเข้ามาเพื่อดูว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น

          “ เจ้าเป็นใคร? เหตุใดถึงได้กล้าอวดดีในด้านหน้าของคฤหาสน์[สำนักย่อยเชาหยาง]ของพวกข้า! ” ศิษย์ผู้หนึ่งได้ออกมาตะโกนกล่าว

          “ ไสหัวไป ข้ามิได้มีธุระกงการอะไรกับเจ้า ” เย่ชีเหวิน กล่าวอย่างมิได้อย่าใส่ใจ

          “ บัดซบ มันจักมากเกินไปแล้วนะ ดีถ้าเช่นนั้นข้าจักฆ่าเจ้าเสีย! ” ชายหนุ่มตระโกน พลาง พุ่งกระโจนใส่ เย่ชีเหวิน อย่างฉับพลันพร้อมปล่อย หมัดที่ทรงพลังที่สุดของเขาไปยังด้านหน้าของ เย่ชีเหวิน

มือขนาดใหญ่ของ เย่ชีเหวิน ได้กวาดผ่านออกไปและดูเหมือนว่าที่รอบ ๆ มือของเขานั้นจักถูกปกคลุมไปด้วย[ พลังปราณจิตวิญญาณ ] ซึ่งทำหน้าที่เหมือนดังราวกับเหล็กกล้า และฟาดไปที่ร่างกายของชายหนุ่มผู้นั้น

          “ ปัง! ” ศิษย์ผู้นั้นถึงกลับปลิวกระเด็นลอยออกไป พร้อมกับสายโลหิตที่พวยพุ่งออกมาจากปากของเขาและสิ้นสติในทันที

เสียงการปะทะกันของพวกเขาทั้งสองคนนั้น ได้ดึงดูดเหล่าศิษย์จำนวนมากจากบริเวณโดยรอบให้เข้ามายังภายในเขตพื้นที่ของคฤหาสน์[สำนักย่อยเชาหยาง] และหลังจากนั้นก็มีศิษย์นับหลาย 10 คนออกมาล้อมรอบ เย่ชีเหวิน เอาไว้

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาว่ะเริ่มมีเส้น!!

B2 : ลูกชิ้น 2 ลูก!!

B4 : เนื้อยังไม่มา มาแต่ผัก !!

B3 : นี่พวก[ม.]ยังไม่จบกันอีกใช่ไหม!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม