เย่ชีเหวิน จับจ้องไปที่ ชูซุน อย่างเยือกเย็น แม้ว่าชายผู้นี้จักมีความหยิ่งผยองอยู่มาก แต่เมื่อมองดูความแข็งแกร่งของเขาแล้วนั้นก็แลดูเหมาะสมแล้วที่เขาจักเป็น 1 ในศิษย์รุ่นใหม่ระดับสูง
ฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน ก่อนหน้านี้เกือบที่จักทำลายการบ่มเพาะพลังของเขา หากเขาไม่มีไหวพริบที่รวดเร็วและสามารถหักเหหมัดของ เย่ชีเหวิน ได้ทัน เกรงว่าเขาจักต้องการเป็นคนพิการไปแล้วในขณะนี้
“ เย่ชีเหวิน จงตอบรับคำท้าของพวกข้า! ” เย่ชีเหวิน กำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจ แต่ทว่าในขณะนั้นเองก็ได้มี 3 เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกัน
เย่ชีเหวิน ได้เงยหน้าพร้อมทอดสายตายาวออกไป พลางเห็นบุคคลสามคนในรูปลักษณ์ที่อ้วนกลมกระโดดออกมาจากฝูงชน
“ ไอ้พวกไร้ยางอาย! นี่พวกเจ้าทั้ง 3 คิดที่จักใช้ผลประโยชน์จากคนอื่นที่พึ่งต่อสู้เสร็จเช่นนั้นรึ! ”
“ ไอ้พวก สามพี่น้องจงชิ พวกเจ้ามันคือความอับอายของ[สำนักย่อยฉิงเชิง]! ”
“ นี่น่ะหรือ สามพี่น้องจงชิ มิน่าแปลกใจว่าเหตุใดพวกมันถึงได้กระทำการอุกอาจเช่นนี้! ”
หลังจากที่เข้ามายังสำนักหลักได้ไม่นาน สามพี่น้องจงชิ ก็ได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมมิใช่ชื่อเสียงที่ดี!
เพราะชื่อเสียงของพวกเขาทั้งสามคนนั้นคือไร้ยางอาย!
แม้แต่ เย่ชีเหวิน เองก็ยังได้ยินชื่อเสียงของพวกเขามาอยู่บ้างพลางถอดถอนหายใจ
“ หรือว่าเจ้าจักมิกล้าที่จักยอมรับคำท้าทายของพวกข้า? ” พี่ใหญ่สุดในหมู่สามพี่น้องจงชิ เปิดปากกล่าวถามด้วยลักษณะที่ยั่วยุ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำกล่าวดูถูกถากถางของฝูงชน เหล่าสามพี่น้องจงชิ มิได้แสดงท่าทีใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับ ชูซุน หากพวกเขาสามารถเอาชนะ เย่ชีเหวิน ได้ชื่อเสียงของพวกเขาจักต้องโด่งดังมากขึ้นเป็นแน่ แม้ว่ามันจักมาจากการต่อสู้ที่ไร้ยางอายก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังพึงพอใจในมัน
และคิดว่านั่นคือการสรรเสริญพวกเขา
“ ใช้ หากเจ้ามิกล้าที่จักยอมรับคำท้าของพวกข้า ก็จงโยนผ้าขาวและยอมศิโรราบให้แก่พวกข้าเสีย! ” น้องชายคนที่ 2 กล่าวในลักษณะเติมเชื้อเพลิง
“ ใช่แล้วท่านพี่ทั้ง 2 สอง มันก็แค่ไอ้ขี้ขลาดตาขาวที่มิยอมเผชิญหน้ากับพวกเรา ” น้องชายคนเล็กสุดกล่าวในลักษณะที่เห็นด้วยกับพี่ชายของพวกเขา พร้อมกับเสียงที่เยือกเย็น
“ หน้าด้าน! ” ด้านหลังของ เย่ชีเหวิน เย่หรูเชว่ ได้กล่าวออกมาด้วยรูปลักษณ์ที่รังเกียจบนใบหน้า เฉกเช่นเดียวกับฝูงชน มิกล้าที่จักเผชิญหน้าโดยตรงและใช้ผลประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของผู้อื่น หากมิต่อสู้ก็จักยั่วยุโดยการกล่าวหาว่าเป็นบุคคลขลาดเขลา
ในสายตาของนางนั้นการกระทำเช่นนี้มันช่างไร้ยางอายยิ่งนัก
เหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง] ก็ยังจับจ้องไปที่สามพี่น้องจงชิ ด้วยสายตาที่รังเกียจ เพราะมันเป็นการกระทำที่อุกอาจมากเกินไป
แม้กระทั่งเหล่าศิษย์จากสำนักอื่น ๆ ก็ยังจับจ้องไปที่สามพี่น้องจงชิ ด้วยรูปลักษณ์และสายตาที่มิได้แตกต่างกัน พวกเขาต่างสาปแช่งด้วยความรังเกียจและไม่สามารถยอมรับการกระทำที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้
ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน เพื่อรอฟังคำตอบของเขา แต่ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องสายตาไปอยู่นั้น เย่ชีเหวิน ก็ได้หัวเราะดังลั่นออกมาพร้อมกล่าวว่า “ แน่นอนว่าพวกเจ้าสามารถท้าทายข้า แต่ข้ามิได้มีเวลามาเล่นกับพวกเจ้าได้ทั้งวันหรอกนะ ”
“ นี่เจ้ากำลังดูถูกพวกเราสามพี่น้อง! ” พี่ชายคนที่ 2 กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น
“ แต่ถ้าหากพวกเจ้าต้องการที่จักท้าทายข้าจริง ๆ เจ้าก็ต้องว่างเดิมพัน 100 [ ศิลาวิญญาณระดับกลาง ]แต่ถ้าหากพวกเจ้ามิยอมจ่ายก็จงล้มเลิกความคิดที่จักต่อสู้ไปเสีย! ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มิได้ใส่ใจ
เมื่อสามพี่น้องจงชิ ได้ยินเช่นนั้นก็ได้นิ่งเงียบไปอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เพราะพวกเขามิได้คาดคิดว่า เย่ชีเหวิน จักสวนกลับมาด้วยวิธีการเช่นนี้ มันอาจจักก่อนว่า 100 [ ศิลาวิญญาณระดับกลาง ]นั้นย่อมมิใช่จำนวนที่น้อยเลยสำหรับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ทั่วไป
แต่ถึงจักเป็นเช่นนั้นพี่ชายคนโตก็ได้พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ ได้พวกข้ายินดีที่จะจ่าย! ”
ในสายตาของพวกเขาตราบใดที่สามารถเอาชนะ เย่ชีเหวิน ได้นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขานั้นมิได้สูญเสียสิ่งใด และที่สำคัญพวกเขามิได้ต้องการให้เวลามันยืดเยื้อไปมากกว่านี้ เพราะการจัดการ เย่ชีเหวิน ที่กำลังอ่อนแรงอยู่เช่นนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นความได้เปรียบสำหรับพวกเขา
สามพี่น้องจงชิ ต่างเห็นผองตรงกันในข้อตกลงของการต่อสู้ ด้วยความไร้ยางอายของพวกเขาที่ได้ใช้ผลประโยชน์จากความเหนื่อยล้า มันทำให้พวกเขาในเวลานี้ต่างคิดกันไปว่าการที่จักเอาชนะ เย่ชีเหวิน นั้นช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับพวกเขา
“ งั้นก็เชิญพวกเจ้าทั้งสามเข้ามาพร้อมกันได้เลย! ” เย่ชีเหวิน กล่าวว่า
“ นั่นเจ้ากล่าวเองนะ! ” พวกเขาทั้งสามต่างไร้ความรู้สึกอัปยศ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็มิได้ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จักร่วมมือกันเพื่อเอาชนะ เย่ชีเหวิน
“ บูม! ” สามพี่น้องจงชิ ต่างก้าวเท้าของพวกเขาและกระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน พร้อมกันอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าพวกเขาทั้งสามคนนั้น จักมีชื่อเสียงที่ไร้ยางอาย แต่มันก็มิอาจปฏิเสธถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้
โดยความแข็งแรงของพวกเขาทั้งสามนั้น อาจกล่าวได้ว่าอยู่ระดับค่อนข้างสูง อีกทั้งพวกเขายังต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และผันแปร[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปแล้วกว่า 40% แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจักอยู่ใน[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยังมิอาจเทียบเท่ากับ ชูซุน ได้แต่ก็มิได้ห่างกันมากเกินไปนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยาวที่พวกเขาได้ร่วมมือกัน และปล่อยพลังหมัดออกมา ซึ่งมันอาจกล่าวได้ว่าพลังอำนาจของมันนั้นได้อยู่เหนือเกินหมัด ชูซุน ไปแล้ว
เหล่าศิษย์มากมาย ต่างเงียบเสียงของตน และเฝ้าดูการต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ ในความแข็งแก่รงของพวกเขาทั้งสามต้องยอมรับว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก หากแต่มันมิใช่สิ่งที่พวกเขาจักยอมรับได้กับแนวการต่อสู้ที่ไร้ยางอายเช่นนี้
แต่ถึงจักเป็นเช่นนั้นด้วยความแข็งแรงของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการสามพี่น้องจงชิด้วยตนเอง ฉะนั้นพวกเขาจึงเป็นเพียงได้แค่ผู้สังเกตการณ์ และปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้อื่นในการจัดการพวกมัน เพราะถ้าหากพวกเขาสามารถจัดการพวกมันด้วยตนเองได้ พวกเขาคงไม่ปล่อยให้พวกมันหยิ่งผยองมาได้จนถึงทุกวันนี้
“ ปัง! ”
“ ปัง! ”
“ ปัง! ”
แขนของ เย่ชีเหวิน กลายเป็นภาพพร่ามัว และรับการโจมตีจากหมัดของพวกเขาทั้งสาม
ในเวลาไม่นานพวกเขาทั้งสาม ต่างได้เริ่มรู้สึกว่าหมัดของตนนั้นได้ชนเข้ากับแผ่นเหล็กหนา ซึ่งแต่เดิมพวกเขาได้คาดคิดว่าพลังปราณของ เย่ชีเหวิน นั้นสมควรที่จักหมดไปแล้วในการต่อสู้กับ ชูซุน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาคิดที่จักท้าทาย เย่ชีเหวิน
แต่ทว่าในยามนี้สีหน้าของ เย่ชีเหวิน กลับมิได้แสดงออกถึงความเหนื่อยล้าใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ก่อนหน้าเขาพึ่งได้ต่อสู้ไปกับ ชูซุน ไปอย่างดุเดือด และด้วยเหตุนี้เองมันเริ่มทำให้เหล่าสามพี่น้องจงชิตระหนักได้แล้วว่า การที่พวกเขาได้ตัดสินใจที่จักท้าทาย เย่ชีเหวิน นั้นนับได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์
แต่ทว่า เย่ชีเหวิน นั้นกลับมิได้คิดที่จักปล่อยโอกาสใด ๆ ให้พวกเขา
“ ปัง! ” ฝ่ามือข้างหนึ่งของ เย่ชีเหวิน ได้คว้าจับหมัดของน้องชายคนเล็กเอาไว้ พร้อมบีบฝ่ามือของเขา
“ แครก! ” เสียงกระดูกหักดังก้อง ถูกปล่อยออกมาจากหมัดของน้องชายคนเล็ก ที่ถูกฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน บีบอย่างละเอียด
แต่ทว่า เย่ชีเหวิน นั้นกลับมิได้คิดที่จักปล่อยโอกาสใด ๆ ให้พวกเขา
“ ปัง! ” ฝ่ามือข้างหนึ่งของ เย่ชีเหวิน ได้คว้าจับหมัดของน้องชายคนเล็กเอาไว้ พร้อมบีบฝ่ามือของเขา
“ แครก! ” เสียงกระดูกหักดังก้อง ถูกปล่อยออกมาจากหมัดของน้องชายคนเล็ก ที่ถูกฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน บีบอย่างละเอียด
เย่ชีเหวิน ได้ยกเท้าของเขาอย่างรวดเร็วและถีบมันออกไปราวกับสายฟ้าฟาด ที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังปราณที่แสนน่ากลัว อัดกระแทกเข้ากับหน้าท้องของน้องชายคนเล็ก จนร่างปลิวกระเด็นลอยล่องและกรีดร้องครวญคราญออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ก่อนที่จักล้มลงและหมดสติไป
“ น้องสาม! ” พี่ชายคนที่สองคำราม พร้อมกระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน อย่างรวดเร็ว โดยมีพี่ชายคนโตตามมาอยู่เบื้องหลัง
แต่ทว่า เย่ชีเหวิน นั้นกลับสวนกับด้วยกระบวนท่าฝ่ามือที่รุนแรง[ พายุอสนีบาตสยบปฐพี ] จนทำให้กระดูซี่โครงของเขานั้นหักไปนับหลายซี่ ก่อนที่โลหิตจักพวยพุ่งออกมาเป็นสายและหมดสติไป
เมื่อพี่คนโตได้เห็นว่าน้องชายทั้งสองคนของเขา ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดย เย่ชีเหวิน มันจึงทำให้เขารีบตะโกนกล่าวว่า “ ข้าจะ… ”
แต่ยังมิทันที่เขาจักได้กล่าวจบประโยค หมัดของ เย่ชีเหวิน ก็ได้อัดกระแทกเข้าไปที่ลำตัวของเขา
“ ตึม! ” พลังอำนาจจากหมัดของ เย่ชีเหวิน ได้ส่งร่างกายของพี่ชายคนโตลอยลิ่ว และอัดกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรงก่อนที่จักล้มลงหมดสติไปในที่สุด
#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
B3 : แค่นี้? แค่นี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! WTF!!!!!!!!!!!!!! @&%^&@%$&%@35r5243^%^&@%&@#
B2 : 55555555555555555
B1 : ครั้งนี้มาอย่างหมา แถมจบไวอีกต่างหาก 55555 โคตรตัวประกอบ
B4 : และก็โดนรูด ศิลา 100 ก้อนไปตามปริยาย
#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน
“ น้องสาม! ” พี่ชายคนที่สองคำราม พร้อมกระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน อย่างรวดเร็ว โดยมีพี่ชายคนโตตามมาอยู่เบื้องหลัง
แต่ทว่า เย่ชีเหวิน นั้นกลับสวนกับด้วยกระบวนท่าฝ่ามือที่รุนแรง[ พายุอสนีบาตสยบปฐพี ] จนทำให้กระดูซี่โครงของเขานั้นหักไปนับหลายซี่ ก่อนที่โลหิตจักพวยพุ่งออกมาเป็นสายและหมดสติไป
เมื่อพี่คนโตได้เห็นว่าน้องชายทั้งสองคนของเขา ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดย เย่ชีเหวิน มันจึงทำให้เขารีบตะโกนกล่าวว่า “ ข้าจะ… ”
แต่ยังมิทันที่เขาจักได้กล่าวจบประโยค หมัดของ เย่ชีเหวิน ก็ได้อัดกระแทกเข้าไปที่ลำตัวของเขา
“ ตึม! ” พลังอำนาจจากหมัดของ เย่ชีเหวิน ได้ส่งร่างกายของพี่ชายคนโตลอยลิ่ว และอัดกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรงก่อนที่จักล้มลงหมดสติไปในที่สุด
#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
B3 : แค่นี้? แค่นี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! WTF!!!!!!!!!!!!!! @&%^&@%$&%@35r5243^%^&@%&@#
B2 : 55555555555555555
B1 : ครั้งนี้มาอย่างหมา แถมจบไวอีกต่างหาก 55555 โคตรตัวประกอบ
B4 : และก็โดนรูด ศิลา 100 ก้อนไปตามปริยาย
#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น