บทที่ 86 - เชิญพวกเจ้าเข้ามาพร้อมกัน

ทุกคนต่างตกใจเมื่อมองไปยังฉากตรงหน้า พวกเขาต่างมิได้คาดคิดว่าคู้ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่าง ชูซุน ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับ เย่ชีเหวิน อย่างง่ายดายเฉกเช่นเดียวกับ ฮั่วเฉิง ที่ได้ต่อสู้กับเขาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจักเป็นคู่ต่อสู้คนไหนก็ยังมิอาจบังคับให้ เย่ชีเหวิน สำแดงพลังอำนาจที่แท้จริงของเขาออกมาได้ ซึ่งมันทำให้พวกเขาทุกคนยิ่งตกใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก ราวเหมือนกับว่าความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นมันได้เกินสามัญสำนึกของพวกเขาไปแล้ว!

เย่ชีเหวิน จับจ้องไปที่ ชูซุน อย่างเยือกเย็น แม้ว่าชายผู้นี้จักมีความหยิ่งผยองอยู่มาก แต่เมื่อมองดูความแข็งแกร่งของเขาแล้วนั้นก็แลดูเหมาะสมแล้วที่เขาจักเป็น 1 ในศิษย์รุ่นใหม่ระดับสูง

ฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน ก่อนหน้านี้เกือบที่จักทำลายการบ่มเพาะพลังของเขา หากเขาไม่มีไหวพริบที่รวดเร็วและสามารถหักเหหมัดของ เย่ชีเหวิน ได้ทัน เกรงว่าเขาจักต้องการเป็นคนพิการไปแล้วในขณะนี้

          “ เย่ชีเหวิน จงตอบรับคำท้าของพวกข้า! ” เย่ชีเหวิน กำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจ แต่ทว่าในขณะนั้นเองก็ได้มี 3 เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกัน

เย่ชีเหวิน ได้เงยหน้าพร้อมทอดสายตายาวออกไป พลางเห็นบุคคลสามคนในรูปลักษณ์ที่อ้วนกลมกระโดดออกมาจากฝูงชน

          “ ไอ้พวกไร้ยางอาย! นี่พวกเจ้าทั้ง 3 คิดที่จักใช้ผลประโยชน์จากคนอื่นที่พึ่งต่อสู้เสร็จเช่นนั้นรึ! ”

          “ ไอ้พวก สามพี่น้องจงชิ พวกเจ้ามันคือความอับอายของ[สำนักย่อยฉิงเชิง]! ”

          “ นี่น่ะหรือ สามพี่น้องจงชิ มิน่าแปลกใจว่าเหตุใดพวกมันถึงได้กระทำการอุกอาจเช่นนี้! ”

หลังจากที่เข้ามายังสำนักหลักได้ไม่นาน สามพี่น้องจงชิ ก็ได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมมิใช่ชื่อเสียงที่ดี!

เพราะชื่อเสียงของพวกเขาทั้งสามคนนั้นคือไร้ยางอาย!

แม้แต่ เย่ชีเหวิน เองก็ยังได้ยินชื่อเสียงของพวกเขามาอยู่บ้างพลางถอดถอนหายใจ

          “ หรือว่าเจ้าจักมิกล้าที่จักยอมรับคำท้าทายของพวกข้า? ” พี่ใหญ่สุดในหมู่สามพี่น้องจงชิ เปิดปากกล่าวถามด้วยลักษณะที่ยั่วยุ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำกล่าวดูถูกถากถางของฝูงชน เหล่าสามพี่น้องจงชิ มิได้แสดงท่าทีใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับ ชูซุน หากพวกเขาสามารถเอาชนะ เย่ชีเหวิน ได้ชื่อเสียงของพวกเขาจักต้องโด่งดังมากขึ้นเป็นแน่ แม้ว่ามันจักมาจากการต่อสู้ที่ไร้ยางอายก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังพึงพอใจในมัน

และคิดว่านั่นคือการสรรเสริญพวกเขา

          “ ใช้ หากเจ้ามิกล้าที่จักยอมรับคำท้าของพวกข้า ก็จงโยนผ้าขาวและยอมศิโรราบให้แก่พวกข้าเสีย! ” น้องชายคนที่ 2 กล่าวในลักษณะเติมเชื้อเพลิง

          “ ใช่แล้วท่านพี่ทั้ง 2 สอง มันก็แค่ไอ้ขี้ขลาดตาขาวที่มิยอมเผชิญหน้ากับพวกเรา ” น้องชายคนเล็กสุดกล่าวในลักษณะที่เห็นด้วยกับพี่ชายของพวกเขา พร้อมกับเสียงที่เยือกเย็น

          “ หน้าด้าน! ” ด้านหลังของ เย่ชีเหวิน เย่หรูเชว่ ได้กล่าวออกมาด้วยรูปลักษณ์ที่รังเกียจบนใบหน้า เฉกเช่นเดียวกับฝูงชน มิกล้าที่จักเผชิญหน้าโดยตรงและใช้ผลประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของผู้อื่น หากมิต่อสู้ก็จักยั่วยุโดยการกล่าวหาว่าเป็นบุคคลขลาดเขลา

ในสายตาของนางนั้นการกระทำเช่นนี้มันช่างไร้ยางอายยิ่งนัก

เหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง] ก็ยังจับจ้องไปที่สามพี่น้องจงชิ ด้วยสายตาที่รังเกียจ เพราะมันเป็นการกระทำที่อุกอาจมากเกินไป

แม้กระทั่งเหล่าศิษย์จากสำนักอื่น ๆ ก็ยังจับจ้องไปที่สามพี่น้องจงชิ ด้วยรูปลักษณ์และสายตาที่มิได้แตกต่างกัน พวกเขาต่างสาปแช่งด้วยความรังเกียจและไม่สามารถยอมรับการกระทำที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน เพื่อรอฟังคำตอบของเขา แต่ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องสายตาไปอยู่นั้น เย่ชีเหวิน ก็ได้หัวเราะดังลั่นออกมาพร้อมกล่าวว่า “ แน่นอนว่าพวกเจ้าสามารถท้าทายข้า แต่ข้ามิได้มีเวลามาเล่นกับพวกเจ้าได้ทั้งวันหรอกนะ ”

          “ นี่เจ้ากำลังดูถูกพวกเราสามพี่น้อง! ” พี่ชายคนที่ 2 กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น

          “ แต่ถ้าหากพวกเจ้าต้องการที่จักท้าทายข้าจริง ๆ เจ้าก็ต้องว่างเดิมพัน 100 [ ศิลาวิญญาณระดับกลาง ]แต่ถ้าหากพวกเจ้ามิยอมจ่ายก็จงล้มเลิกความคิดที่จักต่อสู้ไปเสีย! ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มิได้ใส่ใจ

เมื่อสามพี่น้องจงชิ ได้ยินเช่นนั้นก็ได้นิ่งเงียบไปอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เพราะพวกเขามิได้คาดคิดว่า เย่ชีเหวิน จักสวนกลับมาด้วยวิธีการเช่นนี้ มันอาจจักก่อนว่า 100 [ ศิลาวิญญาณระดับกลาง ]นั้นย่อมมิใช่จำนวนที่น้อยเลยสำหรับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ทั่วไป

แต่ถึงจักเป็นเช่นนั้นพี่ชายคนโตก็ได้พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ ได้พวกข้ายินดีที่จะจ่าย! ”

ในสายตาของพวกเขาตราบใดที่สามารถเอาชนะ เย่ชีเหวิน ได้นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขานั้นมิได้สูญเสียสิ่งใด และที่สำคัญพวกเขามิได้ต้องการให้เวลามันยืดเยื้อไปมากกว่านี้ เพราะการจัดการ เย่ชีเหวิน ที่กำลังอ่อนแรงอยู่เช่นนี้นั้น ถือได้ว่าเป็นความได้เปรียบสำหรับพวกเขา

สามพี่น้องจงชิ ต่างเห็นผองตรงกันในข้อตกลงของการต่อสู้ ด้วยความไร้ยางอายของพวกเขาที่ได้ใช้ผลประโยชน์จากความเหนื่อยล้า มันทำให้พวกเขาในเวลานี้ต่างคิดกันไปว่าการที่จักเอาชนะ เย่ชีเหวิน นั้นช่างเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับพวกเขา

          “ งั้นก็เชิญพวกเจ้าทั้งสามเข้ามาพร้อมกันได้เลย! ” เย่ชีเหวิน กล่าวว่า

          “ นั่นเจ้ากล่าวเองนะ! ” พวกเขาทั้งสามต่างไร้ความรู้สึกอัปยศ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็มิได้ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จักร่วมมือกันเพื่อเอาชนะ เย่ชีเหวิน

          “ บูม! ” สามพี่น้องจงชิ ต่างก้าวเท้าของพวกเขาและกระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน พร้อมกันอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าพวกเขาทั้งสามคนนั้น จักมีชื่อเสียงที่ไร้ยางอาย แต่มันก็มิอาจปฏิเสธถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้

โดยความแข็งแรงของพวกเขาทั้งสามนั้น อาจกล่าวได้ว่าอยู่ระดับค่อนข้างสูง อีกทั้งพวกเขายังต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และผันแปร[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปแล้วกว่า 40% แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจักอยู่ใน[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยังมิอาจเทียบเท่ากับ ชูซุน ได้แต่ก็มิได้ห่างกันมากเกินไปนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยาวที่พวกเขาได้ร่วมมือกัน และปล่อยพลังหมัดออกมา ซึ่งมันอาจกล่าวได้ว่าพลังอำนาจของมันนั้นได้อยู่เหนือเกินหมัด ชูซุน ไปแล้ว

เหล่าศิษย์มากมาย ต่างเงียบเสียงของตน และเฝ้าดูการต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ ในความแข็งแก่รงของพวกเขาทั้งสามต้องยอมรับว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก หากแต่มันมิใช่สิ่งที่พวกเขาจักยอมรับได้กับแนวการต่อสู้ที่ไร้ยางอายเช่นนี้

แต่ถึงจักเป็นเช่นนั้นด้วยความแข็งแรงของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการสามพี่น้องจงชิด้วยตนเอง ฉะนั้นพวกเขาจึงเป็นเพียงได้แค่ผู้สังเกตการณ์ และปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้อื่นในการจัดการพวกมัน เพราะถ้าหากพวกเขาสามารถจัดการพวกมันด้วยตนเองได้ พวกเขาคงไม่ปล่อยให้พวกมันหยิ่งผยองมาได้จนถึงทุกวันนี้

          “ ปัง! ”

          “ ปัง! ”

          “ ปัง! ”

แขนของ เย่ชีเหวิน กลายเป็นภาพพร่ามัว และรับการโจมตีจากหมัดของพวกเขาทั้งสาม

ในเวลาไม่นานพวกเขาทั้งสาม ต่างได้เริ่มรู้สึกว่าหมัดของตนนั้นได้ชนเข้ากับแผ่นเหล็กหนา ซึ่งแต่เดิมพวกเขาได้คาดคิดว่าพลังปราณของ เย่ชีเหวิน นั้นสมควรที่จักหมดไปแล้วในการต่อสู้กับ ชูซุน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาคิดที่จักท้าทาย เย่ชีเหวิน
แต่ทว่าในยามนี้สีหน้าของ เย่ชีเหวิน กลับมิได้แสดงออกถึงความเหนื่อยล้าใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ก่อนหน้าเขาพึ่งได้ต่อสู้ไปกับ ชูซุน ไปอย่างดุเดือด และด้วยเหตุนี้เองมันเริ่มทำให้เหล่าสามพี่น้องจงชิตระหนักได้แล้วว่า การที่พวกเขาได้ตัดสินใจที่จักท้าทาย เย่ชีเหวิน นั้นนับได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์

แต่ทว่า เย่ชีเหวิน นั้นกลับมิได้คิดที่จักปล่อยโอกาสใด ๆ ให้พวกเขา

          “ ปัง! ” ฝ่ามือข้างหนึ่งของ เย่ชีเหวิน ได้คว้าจับหมัดของน้องชายคนเล็กเอาไว้ พร้อมบีบฝ่ามือของเขา

          “ แครก! ” เสียงกระดูกหักดังก้อง ถูกปล่อยออกมาจากหมัดของน้องชายคนเล็ก ที่ถูกฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน บีบอย่างละเอียด
เย่ชีเหวิน ได้ยกเท้าของเขาอย่างรวดเร็วและถีบมันออกไปราวกับสายฟ้าฟาด ที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังปราณที่แสนน่ากลัว อัดกระแทกเข้ากับหน้าท้องของน้องชายคนเล็ก จนร่างปลิวกระเด็นลอยล่องและกรีดร้องครวญคราญออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด ก่อนที่จักล้มลงและหมดสติไป

          “ น้องสาม! ” พี่ชายคนที่สองคำราม พร้อมกระโจนเข้าใส่ เย่ชีเหวิน อย่างรวดเร็ว โดยมีพี่ชายคนโตตามมาอยู่เบื้องหลัง

แต่ทว่า เย่ชีเหวิน นั้นกลับสวนกับด้วยกระบวนท่าฝ่ามือที่รุนแรง[ พายุอสนีบาตสยบปฐพี ] จนทำให้กระดูซี่โครงของเขานั้นหักไปนับหลายซี่ ก่อนที่โลหิตจักพวยพุ่งออกมาเป็นสายและหมดสติไป

เมื่อพี่คนโตได้เห็นว่าน้องชายทั้งสองคนของเขา ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดย เย่ชีเหวิน มันจึงทำให้เขารีบตะโกนกล่าวว่า “ ข้าจะ… ”

แต่ยังมิทันที่เขาจักได้กล่าวจบประโยค หมัดของ เย่ชีเหวิน ก็ได้อัดกระแทกเข้าไปที่ลำตัวของเขา

          “ ตึม! ” พลังอำนาจจากหมัดของ เย่ชีเหวิน ได้ส่งร่างกายของพี่ชายคนโตลอยลิ่ว และอัดกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรงก่อนที่จักล้มลงหมดสติไปในที่สุด

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B3 : แค่นี้? แค่นี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! WTF!!!!!!!!!!!!!! @&%^&@%$&%@35r5243^%^&@%&@#

B2 : 55555555555555555

B1 : ครั้งนี้มาอย่างหมา แถมจบไวอีกต่างหาก 55555 โคตรตัวประกอบ

B4 : และก็โดนรูด ศิลา 100 ก้อนไปตามปริยาย

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม