บทที่ 88 - ผู้อาวุโสเชาหยาง

เมื่อ เย่ชีเหวิน ได้คิดเช่นนั้นเขาก็ได้รีบวิ่งเข้าไปภายในลานเพื่อหวังจักแสดงความยินดีกับ เย่หรูเชว่ แต่ในขณะนั้นเองก็ได้มีเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า “ เย่ชีเหวิน! โผล่หัวออกมา! ”

เสียงคำรามกดขี่ข่มเหงที่น่าหวาดกลัวได้ถูกส่งออกมาจากภายนอกของคฤหาสน์

ความดันที่น่าหวาดกลัวได้ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน จน เย่ชีเหวิน ยังต้องรู้สึกประหลาดใจ

          “ ใคร! ” เย่ชีเหวิน ส่งเสียงตะโกนพร้อมปล่อย[ พลังปราณก่อเกิด ]ออกไปเผชิญหน้าเข้ากับกลิ่นอายที่คุกคาม การปะทะกันของสอง[ พลังปราณก่อเกิด ]รุนแรง ก่อให้เกิดลมพายุขนาดย่อม

แต่มันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า[ พลังปราณก่อเกิด ]ของ เย่ชีเหวิน นั้นไม่ใช่คู่มือของฝ่ายตรงข้าม และสลายหายไปภายในพริบตา

[ พลังปราณหยวนก่อเกิด ]

ความประหลาดใจปรากฏขึ้นภายในดวงตาของ เย่ชีเหวิน เพราะมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จักเป็นศิษย์ที่ต้องการจักท้าทายเขา เพราะด้วยพลังอำนาจเมื่อครู่มันมั่นเหมาะที่จักเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]หรือสูงกว่านั้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ระดับการบ่มเพาะพลังที่ต่ำกว่านี้จักมี[ พลังปราณหยวนก่อเกิด ]

เมื่อผู้เชี่ยวชาญได้บรรลุถึง[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ][ พลังปราณก่อตั้ง ] ภายในร่างของพวกเขาจักถูกเปลี่ยนเป็น[ พลังปราณก่อเกิด ] 100% ซึ่งเมื่อพวกเขาได้บุกฝ่าไปยัง[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ][ พลังปราณก่อเกิด ] ของพวกเขาก็จักเริ่มเปลี่ยนแปรเปลี่ยนเป็น[ พลังปราณหยวนก่อเกิด ] ซึ่งนั่นนับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สองในชีวิตของพวกเขา
และเมื่อประสบความสำเร็จในการผันแปรจากเดิมที่มีอายุ 200 ปีก็จักถูกยืดออกไปยาวนานถึง 500 ปี

เหล่าผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]นั้นถือได้เลยว่ามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และมีเพียงแค่ 1 ใน 10 เท่านั้นที่จักสามารถผันแปรเป็น[ พลังปราณหยวนก่อเกิด ]และก้าวเข้าสู่[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้
นอกจากนี้สำนักหลักยังได้แบ่งแยกมาตรฐาน คือผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]หรือสูงกว่านั้น จะถูกจัดให้อยู่ฝ่ายหลัก และผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่[ ระดับขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ลงไปจนถึง[ ระดับขั้นแรกดินแดนลมปราณก่อเกิด ]จักถูกจัดให้อยู่ฝ่ายใน
แม้ว่าจักเป็นเพียงแค่ความแตกต่างกันเพียงแค่ขั้นเดียว แต่นั่นก็นับได้ว่าเป็นความห่างชั้นราวกับสวรรค์และโลก

เหล่าผู้อาวุโสส่วนใหญ่ของสำนักย่อยต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]หรือสูงกว่านั้นทั้งสิ้น ซึ่งแต่เริ่มเดิมทีพวกเขานั้นคือศิษย์ฝ่ายหลักของสำนักหลักที่ไม่สามารถบุกฝ่าไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณแท้จริง ]ได้ ภายในระยะเวลากำหนด 500 ปี ซึ่งผู้ที่ไม่สามารถก้าวผ่านไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณแท้จริง ]ได้พวกเขาก็จักถูกส่งไปยังสำนักย่อย เพื่อกลายเป็นผู้อาวุโส

แต่ถึงจักเป็นเช่นนั้นตำแหน่งของผู้อาวุโสแน่นอนว่าย่อมมีความน่ากลัวกว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วไป

          “ ท่านเป็นใคร? ” เมื่อ เย่ชีเหวิน ได้ออกมาจากคฤหาสน์เขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อคนที่อยู่ตกหน้าของเขานั้นคือชายเฒ่าที่จับจ้องมายังเขาด้วยสายตาที่โกรธแค้น

ในขณะเดียวกัน จางหยาง เย่ฟง และ เย่หรูเชว่ ที่พึ่งก้าวผ่านไปยัง[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ก็ได้ก้าวเท้าออกมาเช่นกัน

          “ ใครคือ เย่ชีเหวิน? ” ชายเฒ่ากล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและรูปลักษณ์ใบหน้าที่โกรธแค้น

          “ ข้าเอง! ” เย่ชีเหวิน กล่าว

          “ หนอยไอ้เจ้าเด็กเหลือ เจ้ามันสัตว์เดรัจฉาน กล้าดียังไงถึงได้มาทำร้ายศิษย์สายตรงจาก[สำนักย่อยเชาหยาง]ของข้า! ” ชายเฒ่าในชุดคลุมสีดำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

          “ สัตว์เดรัจฉานมันควรที่จักเป็นข้า หรือว่าศิษย์ของท่านกันแน่? ” เย่ชีเหวิน กล่าวถาม
          “ บัดซบ ไอ้เจ้าเด็กเหลือขอนี่เจ้ากล้าย้อนข้า… ” ชายเฒ่าชุดคลุมสีดำกล่าวออกมาในลักษณะที่ใบหน้าของเขานั้นแดงกล่ำ

          “ ฮะฮ่า ๆ! ” เหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ต่างหัวเราะเยาะ หลังจากที่พวกเขาได้เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าชายเฒ่าชุดคลุมสีดำนี้คือผู้อาวุโสของ[สำนักย่อยเชาหยาง]

แม้ว่าเขาจักเป็นถึงผู้อาวุโส แต่ในยามนี้เขาคือศัตรูและไม่อาจเปลี่ยนความปฏิปักษ์ที่มีต่อกันได้มานานนับหลายปี

และสาเหตุที่ทำให้ผู้อาวุโสโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมเป็นเพราะการกระทำของ เย่ชีเหวิน ที่ได้ทำให้ ฮั่วเฉิง ต้องบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังทำให้พวกเขาหมดโอกาสในการเข้าร่วมการประเมินความสามารถ ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาถึงได้ออกมาหา เย่ชีเหวิน

          “ ดีไอ้เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ามันสัตว์เดรัจฉานวันนี้ข้าจักฆ่าเจ้า! ” ชานเฒ่าชุดดำกล่าวในรูปลักษณ์ที่โกรธแค้นพร้อมเหวี่ยงแขนออกไป ด้วยพลังอำนาจอันมหาศาลจึงทำให้ชั้นบรรยากาศโดยรอบเกิดการบิดตัวและกลายเป็นมือขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดย[ พลังปราณหยวนก่อเกิด ] ซึ่งเมื่อพวกเขาได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] การใช้[ พลังปราณหยวนก่อเกิด ]นั้นถือได้ว่ามีประโยชน์อย่างมาก

          “ชวิ๋ง! ” เย่ชีเหวิน ได้ชักใบมีดออกจากฝักจากด้านหลังของเขา และปล่อยใบมีดประกายแสงออกไปทั่วจนบดบังท้องฟ้า ซึ่งในขณะเดียวกัน เย่ชีเหวิน ก็ได้กลายเป็นเงาของดวงจันทร์ซึ่งมีออร่าที่ราวเหมือนกับเทพเจ้าสงครามสายตาของเขานั้นช่างดูเคร่งขรึม ผมสีดำของเขานั้นได้พัดปลิวไสวไปตามกับกระแสลม

ใบมีดประกายแสงของเขานั้นได้อัดแน่นไปด้วยพลังปราณที่หนาแน่นพร้อมฟาดฟันไปที่มืออากาศขนาดใหญ่ของชายเฒ่า

          “ ชิสชิส ชิสชิส! ”
ใบมีดประกายแสงจำนวนนับไม่ถ้วนได้ฟาดฟันลงบนทีฝ่ามือขนาดใหญ่จนบังเกิดเสียง“ ชิสชิส ชิสชิส ”ตามด้วยพัฒนาการภาพ[ เขตแดนความคิด ]ของใบมีดประกายแสง
ซึ่ง[ เขตแดนความคิด ]นั้นอยู่ได้เพียงแค่ชั่งครู่เท่านั้น ในขณะที่ฝ่ามือขนาดใหญ่ยังคงมิได้หายไป เย่ชีเหวิน ก็ได้ฟาดฟัน[ เขตแดนความคิด ]ของใบมีดประกายแสงออกไปอีกครั้ง

          “ เขตแดนความคิด! ” ชายเฒ่ากล่าว พร้อมจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยสายตาที่มิอยากจักเชื่อว่า เย่ชีเหวิน จริงจักสามารถแสดง[ เขตแดนความคิด ]ออกมาได้ ซึ่งน้อยคนนักที่จักสามารถเข้าใจและบรรลุ แม้ภายในสำนักหลักเองก็ตาม ซึ่งมันอาจกล่าวได้ว่าการที่จักหาบุคคลเช่นเขานั้นช่างนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง

แต่ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าเขานั้นได้กระทำความชั่ว อัจฉริยะเช่นนี้ก็ควรที่จักเก็บเลี้ยงดูเอาไว้
เจตนาฆ่าได้ประกายภายในดวงตาของชายเฒ่า ในวันนี้เขาจักต้องสังหาร เย่ชีเหวิน ให้จงได้ อัจฉริยะที่ได้กระทำความชั่วไม่ควรที่จักเก็บเอาไว้ เขาได้ถูกส่งเสริมเข้าสู่สำนักหลักและเติบโตขึ้นในภายภาคหน้า มันอาจเป็นหายนะต่อ[สำนักย่อยเชาหยาง]ของเขาก็เป็นได้ ซึ่งนั่นแน่นอนว่ามิใช่เรื่องที่ดีแน่

แม้ว่า[สำนักย่อยเชาหยาง]ของพวกเขาอาจต้องถูกลงทัณฑ์ แต่ทว่าเขาจักต้องกำจัดบุคคลอันตรายในสายตาของเขาให้จงได้

บนท้องฟ้า ภาพดวงจันทร์ขนาดใหญ่ได้ชนเข้ากับฝ่ามือขนาดใหญ่ จนก่อให้เกินการผันผวนของชั้นบรรยากาศ คลื่นระเบิดที่หน้าหวาดกลัวได้แพร่กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ
ฉับพลัน เย่ชีเหวิน รู้สึกได้ถึงความดันที่เพิ่มขึ้นต่อร่างกายของเขา ในขณะที่ใบมีดของเขาได้ชนเข้ากับฝ่ามือขนาดใหญ่อย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจักได้สำแดง[ เขตแดนความคิด ]เต็มรูปแบบใบเคล็ดวิชาใบมีดของเขา แต่เขาก็ยังมีอาจตีโต้ฝ่ามือขนาดใหญ่นี้ให้ถอยกลับไปได้ ร่างกายของ เย่ชีเหวิน ได้ถูกบังคับให้ตกอยู่ภายใต้ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าของชายเฒ่า

ไม่นานนักร่างกายของ เย่ชีเหวิน ก็ได้ถูกบีบจนบังเกิดเสียงแตกหักของกระดูกชายโครง แม้ว่าเขาจักมีร่างกายที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า แต่เมื่อตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้มันดุจราวเหมือนกับว่าร่างกายของเขา มันพร้อมที่จักระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา

          “ ตาเฒ่านี่ท่านคิดจักทำอะไร! ” เย่ชีเหวิน ขบฟันพร้อมตะโกนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น แต่แน่นอนว่าชายเฒ่าคนนี้มิได้ผ่อนแรงของเขาและเขายังคงจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยเจนตาฆ่า
เขาต้องการเพียงแค่ที่จักฆ่า เย่ชีเหวิน โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จักตามมา เขาได้ใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาบดขยี้[ เขตแดนความคิด ]ของ เย่ชีเหวิน อย่างมิมีชิ้นดี

          “ ตาเฒ่าในภายภาคหน้าท่านจักต้องจดใช้สำหรับวันนี้! ”เย่ชีเหวิน ขบฟันกล่าว ในขณะที่ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ

หากมีเวลาอีกเพียงสัก 10 ปีขอแค่เพียง 10 ปีเขาจักสามารถบดขยี้ชายเฒ่าเช่นนี้ได้อย่างง่ายดายราวกับบี้มด แต่ทว่าในยามนี้ความแข็งแกร่งของเขานั้นยังคงไม่พอ!

พลังอำนาจและความแข็งแกร่งของเขานั้นยังคงไม่พอที่จักต่อต้านชายเฒ่าผู้นี้!

นี่เป็นครั้งแรกที่ เย่ชีเหวิน รู้สึกหมดหนทางสู้ แม้ว่าจักใช้พลังอำนาจเต็มที่ของเขาแล้วก็ตามก็ยังมิอาจทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย และด้วยเหตุนี้เองมันยิ่งทำให้เขารู้สึกหิวกระหายในความแข็งแกร่งมากขึ้นเขาจักต้องแข็งแกร่งมากขึ้นให้มากกว่านี้ เพื่อที่เขาจักมิได้มีสภาพเยี่ยงวันนี้ได้อีก!

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B2 : ก่อนจักแสวงหาความแข็งแกร่งเอาตัวให้รอดก่อนดีกว่าไหมพี่เหวิน
B2 : ไอ้หลินมันหายไปไหนวะ ทำไมมันยังไม่มาพระเอก[ก.]จะตายห่าแล้วเนี่ย
B3 : [ก.]ว่าแม้งก็ไม่มีน้ำยาฆ่าอีกอ่ะ จริง ๆ นะ[ก.]เริ่มปลงละ
B4 : อืม B3 นายพูดมีเหตุผล!!!!
#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม