บทที่ 91 - รวมตัวเหล่าบุคคลอัจฉริยะ

ในสถานที่แห่งหนึ่งของ[สำนักหลักยี่หยวน] ทุกคนจักเห็นได้ถึงนกปีศาจขนาดใหญ่ เหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยยี่หยวน]ต่างจับจ้องด้วยสายตาที่ยากรู้อยากเห็น

ไม่นานนักเท้าของนกยักษ์ปีศาจก็ได้ล่อนลงบน[ยอดหุบเขาพระจันทร์เต็มดวง] ซึ่งมีเพียงแค่ผู้อาวุโสและศิษย์ที่แท้จริงเท่านั้น จึงจักสามารถบินผ่าน[ยอดหุบเขาพระจันทร์เต็มดวง]ได้ หากเป็นเพียงแค่ศิษย์ธรรมดาพวกเขาจำเป็นที่จักต้องเดินทางเท้าขึ้นหุบเขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


หลินเจิ่นเทียน มิได้ไปพร้อมกับพวกเขา แต่ทว่าเขาได้โดดลงมาจากด้านหลังของนก และหายตัวไปในด้านหน้าของทุกคน

ทุกคนได้ก้าวเข้าสู่พระราชวัง[ยอดเขาพระจันทร์เต็มดวง] ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์มากมายกว่า 100 สำนักสาขาย่อยมารวมตัวกัน

ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ที่พบเห็นได้ยาก

กว่า 100 สำนักย่อย แม้ว่าในแต่ละสำนักจักส่งลูกศิษย์มาเพียงแค่ไม่กี่ 10 คน หากแต่เมื่อได้รวมตัวกันแล้วก็มีมากนับหลาย 1,000 คน ซึ่งดีที่พระราชวังนี้นั้นมีขนาดที่ใหญ่มาก และรองรับพวกเขาได้อย่างสบาย ศิษย์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่อยู่ใน[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ]ซึ่งเคยเป็นศิษย์หลักจากสำนักของตน

แต่เดิมมันมิได้มีอะไรที่โดดเด่นมากนัก แต่การฉากการรวมตัวกันของเหล่าศิษย์มันช่างแลดูงดงามยิ่งนัก และยิ่งนึกถึงการประเมินที่กำลังจักเกิดขึ้นมันก็ยิ่งทำให้พวกเขานั้นรู้สึกตื่นเต้น

แน่นอนว่าหากเทียบกับการรวมตัวของเหล่าอัจฉริยะ มันก็ยิ่งแลดูงดงามมากและทำให้บรรยากาศมันน่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก

เหล่าศิษย์ชั้นนำจากหลายทั่วทั้งสำนักย่อย พวกเขาทั้งหมดต่างมีลักษณะที่สง่างาม โดยเฉพาะศิษย์[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่มีลักษณะหยิ่งมากบนใบหน้าของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาสามารถบรรลุ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และก้าวเข้าสู่สำนักหลัก ภายในสำนักย่อยของตนการที่พวกเขาสามารถบรรลุ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งภายในหมู่สำนักย่อย และพวกเขาเหล่านั้นจักถูกพิจารณาให้กลายเป็นศิษย์ระดับสูงหรือศิษย์ชั้นนำของสำนัก

เย่หรูเชว่ เป็นศิษย์หน้าใหม่ที่พึ่งก้าวเข้าสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ของ[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง] ซึ่งหากรวมนางด้วย ณ ตอนนี้[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]แล้วถึง 4 คน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่พวกเขามิได้คาดคิดว่ามันจักเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง] แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามของพวกเขานั้นจักมีความแข็งแกร่งที่เหนืออยู่กว่ามาก หากแต่บางสำนักแม้ว่าจักมีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]เพียงคนเดียว พวกเขาก็ดีมากใจแล้ว

และแน่นอนว่ามันมีมากกว่า 100 สำนัก ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นย่อมมิเหมือนกัน แม้กระทั่งบางสำนักก็ยังมีความแข็งแกร่งที่เทียบเท่าได้กับ 3 สำนักย่อยชั้นนำ

          “ อามันช่างงดงามยิ่งนัก! ” หวู่เฮา กล่าวออกมาด้วยอารมณ์ของความรู้สึก

ในเวลานี้เหล่าศิษย์มากมายต่างตระหนักได้แล้วว่า เส้นทางในการเข้าสู่สำนักหลักของพวกเขานั้นได้เริ่มตนขึ้นแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้พวกเขาจักต้องได้พบเจอกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าตนนั้นอยู่อีกมาก

ซึ่งด้วยความคิดเช่นนี้ มันจักเป็นแรงผลักดันให้กับพวกเขาให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง!

ในเวลานี้ เย่ชีเหวิน ได้เห็นกลุ่มคนของสามสำนักย่อยชั้นนำยืนอยู่ในด้านหน้าของเขา ซึ่งแน่นอนว่า 1 ในนั้นคือ[สำนักย่อยปิงเต่า] ที่ถูกนำมาโดยบุคคลที่มีกลิ่นอายที่พิเศษ แน่นอนว่า เย่ชีเหวิน ไม่ทราบว่าชายผู้นี้เป็นที่รู้จักกันในนาม เซี่ยงกัวเซวียนยี้ 1 ใน 3 ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดภายในปีนี้ ซึ่งความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่ในระดับที่ล้ำลึกเป็นอย่างมาก

ถัดจากกลุ่มคนของ[สำนักย่อยปิงเต่า] ก็ได้มีกลุ่มคนขนาดใหญ่ซึ่งพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และยังเป็น 1 ใน 3 สำนักย่อยชั้นนำ[สำนักย่อยเฉินเฮ่าเชิน] ซึ่งตั้งรกรากอยู่ในเขตพื้นที่ของภูเขาไฟฉะนั้นแล้วเหล่าศิษย์ที่นั้นจึงได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาที่เกี่ยวกับธาตุไฟ อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่ตรงกันข้ามกับ[สำนักย่อยปิงเต่า]

พวกเขาทั้ง 2 สำนักต่างเปรียบเสมือนเป็นคู่ปรับ ด้วยลักษณะเคล็ดวิชาที่ฝึกฝน มันมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งมันยังเป็นพลังงานที่อยู่กันคนละขั่ว พวกเขามิอาจอยู่ร่วมกันได้นานนักเพราะพวกเขาทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีความเป็นศัตรูมากกว่าเป็นมิตร นอกจากนี้พวกเขายังมิได้ชอบหน้าซึ่งกันและกัน

ในด้านหน้าของกลุ่มคน[สำนักย่อยเฉินเฮ่าเชิน] มีชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจ ด้วยรูปร่างสันทัดของเขามั่นเหมาะที่จักมีอายุราวประมาณ 25 ปี ซึ่งเขาเป็นบุคคลที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และ เย่ชีเหวิน ยังได้ทราบมาอีกว่าชายหนุ่มผู้นี้มีนานว่า เหยียนชือหลิง เช่นเดียวกับ เซี่ยงกัวเซวียนยี้ ความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่ในระดับที่ล้ำลึก

ถัดจากกลุ่มคนของ[สำนักย่อยเฉินเฮ่าเชิน] แน่นอนว่าเป็น 1 ใน 3 สำนักย่อยชั้นนำ[สำนักย่อยยวี้นวี้] ด้วยชื่อของมันก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าภายในสำนักนั้นมีแต่อิสตรี ซึ่งเป็นสำนักที่รวบรวมไว้ด้วยสาวงามมากมาย ด้วยความงามที่ประดุจราวเหมือนกับนางฟ้า มันได้ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก

และผู้นำของพวกนางนั้น เมื่อดูจากรูปร่างสันทัดแล้วสมควรที่จักมีอายุราวประมาณ 17 – 18 ปี นางใส่เสื้อผ้าสีเหลืองและสีผิวที่ขาวสะอาดเรียบเนียนราวเหมือนกับหยก เส้นผมที่ปลิวไสวไปตามสายลม เปิดเผยให้เห็นแก้มอันขาวผ่องอมชมพูอันน่าหลงใหล ไม่ว่าจักเป็นชายหนุ่มคนไหนก็ไม่อาจปิดกั้นความต้องการของตนได้เมื่อเห็นใบหน้าของนาง

ศิษย์หญิงที่มากไปด้วยพรสวรรค์และแข็งแกร่งที่สุดของ[สำนักย่อยยวี้นวี้] จางซุนยวี้หยิน นางเพียงแค่อายุไม่กี่ปีแต่กลับสามารถบรรลุ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังไม่มีใครร่วงรู้ถึงระดับการบ่มเพาะพลังที่แท้จริงของนาง

จางซุนยวี้หยิน เหยียนชือหลิง และ เซี่ยงกัวเซวียนยี้ สามศิษย์ที่ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดภายในปีนี้ ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้ง 3 นั้นมีความล้ำลึกเป็นอย่างมากและไม่มีใครสามารถคาดเดาการบ่มเพาะพลังของพวกเขาได้

เหล่าศิษย์คนอื่น ๆ ต่างรอและลุ้น เพราะพวกเขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตนนั้นจักได้เข้าร่วมกับสาขาใดระหว่าง 1 ใน 10 ยอดหุบเขาหลักของสำนักหลักยี่หยวน ซึ่งพวกเขาจักถูกคัดเลือกแบบสุ่ม แต่นั่นมิใช่สำหรับศิษย์จาก[สำนักย่อยยวี้นวี้] นอกจากสำนักของพวกนางจักเป็นสำนักย่อยของสำนักยี่หยวนแล้ว พวกนางยังเป็นส่วนหนึ่งของคน[ยอดหุบเขาสตรีหยก] 1 ใน 10 ยอดหุบเขาหลักอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตพวกนางจักต้องได้เข้าร่วมกับ[ยอดหุบเขาสตรีหยก]

หากกล่าวตามความเป็นจริง นางไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จักต้องมีส่วนร่วมในการประเมินครั้งนี้เลย!

นอกจากนี้ขุมพลังอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดคงหนีไม่พ้น 3 สำนักย่อยชั้นนำที่มีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] นับ 10 คนซึ่งถือได้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นอยู่ในระดับสูงสุด และรองลงมาระดับกลางก็เฉกเช่น[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ที่มีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ถึง 4 คนเป็นต้น และสุดท้ายสำนักที่มีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] เพียง 2 คน จักถือได้ว่าเป็นสำนักที่อ่อนแอที่สุด

ในโลกใบนี้มีเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจักอยู่รอดและได้รับความเคารพจากผู้คนรอบข้าง

          “ จางซุนยวี้หยิน ช่างงดงามประดุจราวกับนางฟ้าบนสรวงสรรค์ยิ่งนัก และนางไม่เพียงแค่งดงามเท่านั้นแต่ยังเป็นถึงศิษย์ที่มากไปด้วยความสามารถที่สุดใน[สำนักย่อยยวี้นวี้] นอกจากนี้ยังมีการยอมรับและแต่งตั้งนางให้เป็นผู้นำสูงสุดของเหล่าศิษย์รุ่นน้องในปีนี้ของ[ยอกหุบเขาสตรีหยก] ข้าเกรงว่าในภายภาคหน้านางอาจได้ขึ้นเป็นผู้ควบคุมอำนาจสูงสุดของทั้ง[ยอดหุบเขาสตรีหยก]ในสักวันหนึ่งเป็นแน่ ”

          “ มิน่าแปลกใจต้องยอมรับเลยว่า[สำนักย่อยยวี้นวี้] นั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ โดยเฉพาะศิษย์หญิงผู้นั้น ข้ามั่นใจว่าในอนาคตนางจักต้องเติบโตเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งเอามาก ๆ เป็นแน่! ”

          “ เซี่ยงกัวเซวียนยี้ เหยียนชือหลิง และ จางซุนยวี้หยิน ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 100 ปีและไม่มีใครล่วงรู้ถึงระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขา! ”

          “ แต่ข้าเคยได้ยินมาจากบางคน เขาบอกว่าพวกเขานั้นต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] แม้กระทั่งบางคนก็ยังอาจเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]! ”

เมื่อศิษย์ที่อยู่ในบริเวณโดยรอบได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างถอดถอนหายใจด้วยความตกใจ [ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] หรือแม้กระทั่ง [ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]? นี่มันดูไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริงการดำรงอยู่ของพวกเขาก็ราวเหมือนกับพระเจ้าในหมู่ศิษย์ธรรมดาเลยมิใช่หรือ!

ปล.
[สำนักย่อย [ปิง เต่า] >> มีความหมายว่า >> สำนักย่อย [ ดินแดนน้ำแข็ง ] > (ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง)]
[สำนักย่อย [เฉิน เฮ่า เชิน] >> มีความหมายว่า >> สำนักย่อย [ หุบเขาไฟเทพเจ้า หรือ เทพเจ้าหุบเขาไฟ ] > (ก็ประมาณนี้)]
[สำนักย่อย [ยวี้ นวี้] >> มีความหมายว่า >> สำนักย่อย [ สตรีหยก ] ] >>> ใครสะกดถูกโปรดบอกข้าน้อยด้วย >>> [yùnǚ]

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : พระเจ้าหรอ?
B2 : พี่ว่าน้องพูดผิดคนแล้วล่ะ
B1 : 55555 หลังจาก 93 ยาว ไปถึง 300 เนี่ยเดี้ยวรู้เลย
B2 : ต่อสู้กันแบบไม่ขาดสาย
B3 : ขอตัวร้ายโหด!! + ไม่โง่ด้วย[ก.]จะดีใจมาก
B4 : ในบทหน้า ฮวาเหมิงฮั่น จะมา
B2 : ห่ะ ฮวาเหมิงฮั่น จะมา?
B1 : อะไรนางเอกกำลังจะมีบท
B3 : นางเอกหรอ? เหอะ ก็แค่ตัวประกอบระดับ S ที่ดีกว่า ระดับ A หน่อยเท่านั้นแหละ นางเอก[ห.]ไร 90 บทจนจะ 100 แม้งโพล่มาแค่ 2 บทตัวประกอบเท่านั้นแหละที่สามารถทำแบบนี้ได้ ดูอย่างตงฟางไป๋ที่ตอนนี้แม้งไม่มีบทไปและยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนคนสนิท หวังเหลี่ย หายไปตั้งแต่บทไหนก็ไม่รู้ สงสัยมันคงกำลังตีกับหลานชายมันอยู่มั้ง
B1 : ……เดี้ยว[ม.]รู้แน่ มากล่าวหาว่านางเอก[ก.] เป็นตัวประกอบระดับ S เหอะ ๆ เรื่องนี้มันไม่จบง่าย ๆ แน่ไอ้ 3
B3 : เหอะก็เอาเด่ ถ้าอีนี่มันโผล่มาแค่ บทเดียวนะ เดี้ยว[ม.]รู้เลยว่าใครจะรู้สึก
B2,B4 : [ก.]ว่าคนอ่านอะรู้สึก
B1 : รู้สึกว่า ฮวาเหมิงฮั่น คือนางเอง??
B3 : รู้สึกว่า ฮวาเหมิงฮั่น คือตัวประกอบระดับ S ??
B2,B4 : ไม่!! รู้สึกว่าพวก[ม.]อะจะพูดมากกันเกินไปล่ะ

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

1 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม