ทบที่ 93 - การจู่โจมของปีศาจมายา

การประเมินได้เริ่มต้นในที่สุด และนี่มันจะกลายเป็นจุดพลิกผันชีวิตของพวกเขา
เย่ชีเหวิน ยังคงมิได้คิดอะไรมากนักกับ ฮวาเหมิงฮั่น หลังจากที่จุดยืนของเขาในตอนนี้ยังคงอยู่ห่างไกลมากจากตัวนาง

ชายเฒ่าในชุดคลุมสีม่วงได้บินมาจากฟากฟ้าอันห่างไกล และมายืนอยู่ในด้านหน้าของเหล่าศิษย์ เขาคือผู้อาวุโสของ[ยอดหุบเขาพระจันทร์เต็มดวง] เขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลาใด ๆ และมองไปยังเหล่าศิษย์พร้อมกล่าว “ การทดสอบการประเมินได้เริ่มขึ้นแล้ว! ”

ชายเฒ่าชุดคลุมม่วงได้สะบัดข้อมือของเขา บังเกิดการบิดเบี้ยวของมิติอย่างรุนแรง รอยแยกและแสงเล็ก ๆ ได้สว่างจ้าอยู่กลางอากาศ และมันค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลันจนกลายเป็นประตูมิติที่ส่งเสียงดังก้องมาจากภายใน

แต่นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเหล่าศิษย์ที่ยังคงอยู่ใน[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] และเหล่าคนที่ยังไม่ได้เชื่อมต่อสะพานโลกภายในร่างกายของพวกเขา เพราะนั่นมันทำให้พวกเขามิได้รับรู้ถึงความรู้สึกของ[ พลังปราณจิตวิญญาณ ] ที่หนาแน่นและไหลผ่านออกมาจากประตู

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเหล่าบรรดาศิษย์[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]นั้นแตกต่างออกไป พวกเขาสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่น่าขยะแขยงจากมัน ใบหน้าของพวกเขานั้นต่างขมวดคิ้วแน่น แต่พวกเขาทุกคนก็มิได้แปลกใจมากเกินไปเพราะก่อนหน้านี้เหล่าผู้อาวุโสจากสำนักของพวกเขาต่างก็ได้อธิบายเกี่ยวกับมิติแห่งนี้ว่ามันคือ[ดินแดนภูติปีศาจมายา] ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจมายาจำนวนมาก และบรรยากาศภายในย่อมต้องแตกต่างออกไป

ในความเป็นจริง ณ สถานที่อันห่างไกล เคยมีเรื่องเล่ากล่าวถึงดินแดนปีศาจและห้วงอเวจี ซึ่งสถานที่เหล่านั้นต่างเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจและ[ พลังปราณปีศาจ ] มันอาจกล่าวได้ว่าเป็นพลังปราณที่หนาแน่นไปด้วยกลิ่นอายที่ชั่วร้ายและปีศาจส่วนใหญ่มักใช้มันในการบ่มเพาะพลัง

แต่ในขณะนั้นเองดวงตาของ เย่ชีเหวิน ก็เปิดกว้าง เมื่อเขาสามารถสัมผัสได้ว่า[ พื้นที่ลึกลับ ]ของเขากำลังดูดซับ[ พลังปราณปีศาจ ] ซึ่งเขารู้อยู่แล้วว่า[ พื้นที่ลึกลับ ]ของเขานั้นสามารถดูดซับ[ พลังปราณจิตวิญญาณ ]ที่ปะปนอยู่ภายในชั้นบรรยากาศได้ หากแต่มันอยู่ในอัตราที่ช้าเกินไป แม้ว่าในสถานที่แห่งนี้จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำนักหลักยี่หยวน หากแต่การดูดซับ[ พลังปราณจิตวิญญาณ ]ก็ยังคงอยู่ในระดับที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับศิลาวิญญาณแล้ว เพียงแค่ก้อนเดียวก็สามารถทัดเทียมได้กับการดูดซับ[ พลังปราณจิตวิญญาณ ]จากชั้นบรรยากาศที่ยาวนานได้ถึง 1ปี

เย่ชีเหวิน คาดคิดว่าในเมื่อเขาสามารถดูดซับ[ พลังปราณปีศาจ ]ได้ บางทีมันอาจเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถดูดซับ[ พลังปราณอสูร ] หรือพลังปราณในรูปแบบอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน!

แต่อย่างไรก็ตาม เย่ชีเหวิน ก็มิได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นานนัก หลังจากที่ศิษย์จากสำนักย่อยอื่น ๆ ได้เริ่มทยอยเข้าสู่[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] ตามลำดับที่ละกลุ่ม

ในขณะที่เหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]กำลังจะก้าวเข้าสู่ประตูมิติ[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] ผู้อาวุโสในชุดคลุมสีม่วงก็ได้แสดงทักษะพิเศษบางอย่าง ซึ่งบังเกิดเป็นฟองขนาดใหญ่ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ทั้งหมดและเคลื่อนย้ายเข้าไปยังภายในประตูมิติอย่างรวดเร็วจนลับสายตาของผู้คน

ไม่มีใครรู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าใด แต่ในที่สุดเหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ก็ได้มาถึงแล้ว ณ [ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] ซึ่งสิ่งแรกที่พวกเขาได้เห็นนั่นก็คือ พื้นดินที่แห้งแล้งและเต็มไปด้วยรอยแยกและมีแสงไฟสลัว ๆ สาดส่องออกมาจากมัน แม้กระทั่งสายลมที่พัดผ่านใบหน้าของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วย[ พลังปราณจิตวิญญาณ ]และ[ พลังปราณปีศาจ ]ที่หนาแน่นปะปนอยู่ภายในชั้นบรรยากาศ แต่เริ่มเดิมทีที่นี่มั่นเหมาะที่จะเป็นรังของพวกมัน แต่ทว่าในยามนี้ไม่ต้องพูดถึงเหล่าปีศาจเหล่านั้นเลยเพราะสถานที่แห่งนี้มันราวเหมือนกับว่าเป็นอารยธรรมที่สูญหาย เศษซากที่หลงเหลือจากการทำลายล้าง

ประดุจดั่งชาวเมืองที่อพยพออกไปจากเมืองของตนนานแล้วนับหลายทศวรรษ และทิ้งมันเอาไว้ให้เป็นเพียงแค่เมืองล้าง

          “ นี่คือ[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]? ดูเหมือนว่ามันจะรกร้างเสียยิ่งกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้! ” ศิษย์ผู้หนึ่งเปิดปากกล่าว

          “ ใช่ ” จางหยาง พยักหน้ากล่าว “ ดูเหมือนว่าพวกเราจะถูกส่งมาแบบสุ่ม ไม่รู้แม้กระทั่งเวลาและไม่มีแม้กระทั่งแผนที่ พวกเราในตอนี้ไม่รู้เลยว่าอยู่ในส่วนใดของ[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]! ”

          “ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ตราบใดที่พวกเราพบรังปีศาจมายา พวกเราก็จะได้แผนที่จากพวกมันอย่างแน่นอน! ” เย่ฟง กล่าว ใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]นั้น ปีศาจมายามักใช้ชีวิตดั่งเช่นชนพื้นเมือง ซึ่งมิน่าแปลกใจหากพวกมันจะมีแผนที่ นอกจากนี้แม้ว่าพวกปีศาจมายาจะเป็นพวกปีศาจระดับต่ำ หากแต่พวกมันก็ยังมีความฉลาดอยู่ไม่น้อย พวกมันได้สร้างรังเล็ก ๆ อยู่ทั่วทุกที่ใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] แต่ถึงแม้ว่ารังของพวกมันจะมีอยู่เป็นจำนวนมากหากแต่มันก็ไม่อาจกล่าวคำว่ารังได้อย่างเต็มปาก

แต่ทว่าทันใดนั้นเอง ชั้นบรรยากาศโดยรอบก็เกิดการบิดเบี้ยวและเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เพียงพริบตาอาคารและตึกขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นและกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนในด้านหน้าของ เย่ชีเหวิน

ฉับพลัน เย่ชีเหวิน รู้สึกได้ถึงน้ำตาของเขาที่มันกำลังจะหลั่งไหลออกมา มันเป็นระยะเวลานานที่เขาไม่ได้เห็นมัน ตึกอาคารที่สร้างจากปูนและเสริมด้วยเหล็ก สถานที่ที่เต็มไปด้วยเพื่อนฝูงและพ่อแม่ที่แท้จริงผู้ให้กำเนิด ภาพที่ดูเหมือนเป็นโลกที่แสนสงบสุขเช่นนี้ มันได้ฝังรากลึกลงไปในหัวสมองของพวกเขา และพวกเขาไม่ทราบว่ามันจะหายไปเมื่อใด

แต่ในขณะนั้นเอง เย่ชีเหวิน ก็ได้ยิ้มเยาะขึ้นมาอย่างฉับพลัน พร้อมก้าวเท้าไปข้างหน้าและปล่อยหมัดออกไป ด้วยพลังอำนาจอันมหาศาลที่ราวเหมือนกับคลื่นวายุคลั่ง มันก็ได้พัดภาพเหล่านั้นมลายหายไปในทันที

ในเวลานี้ภาพต่าง ๆ ได้จางหายไปและกลับคือสู่สภาพแวดล้อมดั่งเดิมของ[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] มันเป็นไปตามที่เขาได้คาดการณ์ไว้ นี่คือภาพลวงตาที่ หลินเจิ่นเทียน กล่าวถึงและเตือนพวกเขาทุกคนก่อนที่จะเข้ามายัง[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] แม้ว่าปีศาจมายาจะเป็นปีศาจระดับต่ำหากแต่พวกมันชำนาญการณ์ในด้านการใช้ภาพลวงตาทำให้ผู้คนสับสนจนตกอยู่ในห้วงกับดักของพวกมัน และเมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะแพ้หรือแม้กระทั่งถูกกิน

เมื่อมั่นใจเช่นนั้น เย่ชีเหวิน ก็ได้เปิดตาของตน และเห็นหลายร้อยปีศาจมายากำลังมุ่งตรงมาทางเขา ร่างกายของพวกมันมีขนาดเล็กมากซึ่งมีความสูงเพียงแค่ 2 ฟุตและมี 4 แขน ศีรษะของมันนั้นยังดูใหญ่กว่าร่างกายของมันเสียอีก ดวงตาของมันนั้นลักษณะสีแดงกล่ำและตาหรี่ ภายในดวงตาของพวกมันนั้นต่างเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและปากของพวกมันต่างเต็มไปด้วยเลือด พวกปีศาจมายาต่างกรูกันเข้ามาเพื่อโจมตีศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง] และเพียงพริบตาพวกมันก็ได้วิ่งเข้ามายังด้านหน้าของ เย่ชีเหวิน

เย่ชีเหวิน ยิ้มเย้ยหยัน และปล่อยฝ่ามือที่ดังก้องดุจราวพายุฝนฟ้าคะนอง[ เกรี้ยวกราดดุจสายฟ้า ] ฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจสายฟ้าได้อัดกระแทกเข้าใส่ปากขนาดใหญ่ของ ปีศาจมายา

          “ ตึม! ” ปีศาจมายา[ ระดับขั้นที่ 9 ดินแดนลมปราณก่อตั้ง ] ระเบิดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปในพริบตาเพียงแค่ฝ่ามือเดียว

และเกือบจะในทันทีที่ร่างของปีศาจมายาระเบิดออก มันก็ได้ทำให้[ พลังปราณปีศาจ ]ที่อัดแน่นอยู่ภายในศีรษะของมันระเบิดออกมาด้วย ด้วยศีรษะขนาดใหญ่ของมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่พวกมันจะใช้สร้างภาพลวงตาขึ้นมาและส่งผ่านออกไป

และทันทีที่[ พลังปราณปีศาจ ]ได้ผ่านร่างของ เย่ชีเหวิน มันก็ได้ถูกดูดซับโดย[ พื้นที่ลึกลับ ]ในทันที พลังปราณทั้งหมดได้ถูกผันแปรและโอนถ่ายไปยังการบ่มเพาะพลังปราณและการพัฒนาเคล็ดวิชาการต่อสู้

ซึ่งในความเป็นจริง เย่ชีเหวิน ไม่เคยหยุดพักที่จะฝึกฝนเคล็ดวิชาการต่อสู้ เขายังคงฝึกฝนมันอย่างสม่ำเสมอและตลอดเวลาภายใน[ พื้นที่ลึกลับ ]ของเขา เขายังคงหมกมุ่นอยู่กับมันและความปรารถนาของเขาเพียงหนึ่งเดียวคือต้องการให้พวกมันมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

หลังจากที่เขาได้ดูดซับ[ พลังปราณปีศาจ ]จากซากของปีศาจมายาที่ตายแล้ว เขาก็ได้สัมผัสถึงอัตราความเร็วในการบ่มเพาะพลังที่เพิ่มขึ้นใน[ พื้นที่ลึกลับ ] ซึ่งมันเร็วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตอนที่เขาได้ดูดซับ[ พลังปราณจิตวิญญาณ ]จากศิลาวิญญาณ

แต่ในเวลานี้เขาไม่ควรที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากนัก เขาได้ชักใบมีดของเขาขึ้นมา[ พลังปราณใบมีด ]ประกายแสงสดใสแพรวพราวได้ถูกฟาดฟันออกไป รูปลักษณ์ขนาดใหญ่ของ[ พลังปราณใบมีด ]ได้มาถึงยังด้านหน้าของปีศาจมายาและแบ่งพวกมันออกเป็น 2 ส่วน

และในเวลาเดียวกัน เย่ฟง , จางหยาง และ เย่หรูเชว่ สามผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ก็สามารถทำลายภาพลวงตาได้และเข้าสู่สมรภูมิการสู่รบ พวกเขาทั้ง 3 ได้วิ่งเข้าใส่ปีศาจมายา ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]คนอื่น ๆ ก็สามารถทำลายภาพลวงตาของตนได้และเข้าร่วมการต่อสู้พร้อมกันกับพวกเขา

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาหวะเริ่มมัน
B2 : อ่านไปอ่านมาทำไม[ก.]รู้สึกงง
B3 : อย่าว่าแต่[ม.]งงเลย[ก.]ก็งง
B4 : งั้น[ก.]งงด้วยคนล่ะกัน

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

7 ความคิดเห็น:

  1. คือ....อยากให้เป็นแบบขาว-ดำอะคับ#ตาลายมากกก

    ตอบลบ
  2. ตาลายมากก...เปลืยนสีพี้นหน่อยจะดีมากค่ะ..ขอบคุณที่แปลให้อ่าน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ค่ะ อ่านนานนานตาลายปวดตา น่าจะพื้นขาว ตัวสือดำ

      ลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม