บทที่ 94 - ขวางกั้น

เย่ชีเหวิน ถอดถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาได้รับรู้ว่า[ปีศาจมายา]มิได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่ปัญหาคือการโจมตีด้วยภาพลวงตาของพวกมัน เพราะพวกเขามิอาจรับรู้ได้ว่าจะถูกโจมตีด้วยภาพลวงตาของพวกมันเมื่อใดและเวลาใด ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มักมีสภาพจิตใจที่แข็งแรง หากแต่มันยังจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่เล็กน้อยในการทำลายภาพลวงตาเหล่านั้น แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาไม่กี่วิ ซึ่งนับได้ว่ามิได้เป็นอะไรนักสำหรับบุคคลธรรมดา หากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสมรภูมิรบทุกวินาทีล้วนมีค่าสำหรับเหล่าผู้ฝึกยุทธ เพราะมันจะเป็นตัวตัดสินชะตากรรมชีวิตของพวกเขา

เย่ชีเหวิน มั่นใจและมิได้คาดหวังกับอะไรมากนัก แต่ทว่าเหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]กลับสามารถทำลายภาพลวงตาของพวกมันลงได้อย่างง่ายดายและจัดการพวกมัน แม้ว่าจำนวนของ[ปีศาจมายา]จะมีมากกว่าพวกเขาถึง 5 เท่า แต่ด้วยภายใต้การนำของ เย่ชีเหวิน และศิษย์[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]คนอื่น ๆ จึงทำให้[ปีศาจมายา]ถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมาก ราวเหมือนกับว่าพวกมันเป็นเพียงแค่กลุ่มเด็กเล่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกเขาในแต่ละคนสามารถฆ่าพวกมันได้ 1-2 ตัวในการโจมตีเดียว ซึ่งการที่จะผ่านประเมินในครั้งนี้ ช่างนับได้ว่ามิได้เป็นเรื่องอะไรที่ยากมากนัก


แม้ว่าพวกเขาจะสามารถจัดการ[ปีศาจมายา]ได้อย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็มิได้ทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย เพราะการจัดการพวกมันนั่นไม่ใช่เป้าหมายหลักสำหรับพวกเขา การจะผ่านประเมินในครั้งนี้นั้นมันย่อมเป็นเรื่องที่ง่าย เว้ยเสียแต่ว่ามันจะมีเรื่องร้ายแรงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

และเป้าหมายที่แท้จริงในการผ่านการประเมินในครั้งนี้ก็คือ การแสดงเคล็ดวิชาที่มีศักยภาพและยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเขาออกมา

แต่อย่างไรก็ตามการประเมินในครั้งนี้ยังคงมีเวลาอยู่ ถึง 1 เดือนเต็ม ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้พวกเขามีเวลาในการฝึกฝนเคล็ดวิชาของตนได้อย่างเหลือเฟือ อีกทั้งการสังหาร[ปีศาจมายา]ยังช่วยในการคัดเกลาศักยภาพของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น

พวกเขาทุกคนต่างรู้ดีว่าการกระทำของพวกเขาภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]จะถูกจับตามองโดยบุคคลระดับสูงของสำนักหลัก ซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็มีเพียงอย่างเดียวคือแสดงความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเขาออกมา เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา

          “ ในยามนี้พวกเราได้อยู่ภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] ภยันตรายใด ๆ อาจเกิดขึ้นกับพวกเราได้ทุกเมื่อและ[ปีศาจมายา] พวกมันอาจโผล่หัวมาเมื่อไหร่ก็ได้ฉะนั้นพวกเราจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังหลังให้กันตลอดเวลา! ” เย่ฟง กล่าว

          “ ใช่แล้ว! ” เหล่าศิษย์ต่างกล่าวออกมาในเวลาเดียวกัน ก่อนหน้าที่พวกเขาจะเข้ามายังที่นี่พวกเขามิได้มีความมั่นใจว่าจะสามารถผ่านการประเมินในครั้งนี้และได้รับผลตอบแทนที่ดีเท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่กลุ่มของพวกเขามี เย่ชีเหวิน อยู่ด้วยนั่นจึงทำให้ขวัญกำลังใจของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นมาเป็นอย่างมาก ในหัวใจของพวกเขา เย่ชีเหวิน ได้เข้ามาแทนที่ เย่ฟง หรือ จางหยาง อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าอายุของเขาจะน้อยมากก็ตาม หากแต่เขาถือได้ว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเขา

แม้ว่าความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน จะยังมิสามารถเทียบเท่าได้กับ เซี่ยงกัวเซวียนยี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม และความแข็งแกร่งของเขาเป็นรองเพียงแค่ 3 ศิษย์ชั้นนำเพียงเท่านั้น เมื่อได้มีบุคคลแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่ในกลุ่มมันก็ได้ทำให้พวกเขามีความมั่นใจว่าจะไม่ตายภายในดินแดน[ ภูติปีศาจมายา ]

เย่ฟง ยังคงมิคิดที่จะกล่าวอะไรมากนัก หลังจากที่เขาได้เข้ามายังภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] [ปีศาจมายา]คือสิ่งที่เขาเป็นกังวลน้อยที่สุด เพราะศัตรูที่แท้จริงของพวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นศิษย์จากสำนักย่อยสาขาอื่น แม้ว่าจะไม่นับ 3 สำนักย่อยชั้นนำ หากแต่สำนักย่อยสาขาอื่น ๆ ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]อยู่ไม่น้อย ซึ่งนั่นจะเป็นภัยต่อพวกเขาอย่างมาก แม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะยังมิเจอกับสถานการณ์เช่นนั้น หากแต่ไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องมาถึงและมันคงจะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายและน่ากลัวมากเป็นแน่ แม้ความตายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]จะมิใช่ของจริงเมื่อตายจะถูกส่งออก หากแต่ความเจ็บปวดที่พวกเขาได้รับนั่นแน่นอนคือของจริง

เพียงพริบตาวันเวลาก็ได้ผ่านล่วงเลยไปแล้วกว่า 3 วันในดินแดน[ ภูติปีศาจมายา ] และในเวลา 3 วันนี้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับฝูง[ปีศาจมายา]อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนั่นนับว่าเป็นการดีในการขัดเกลาทักษะของพวกเขา พวกเขาในแต่ละคนได้ฆ่า[ปีศาจมายา]ไปถึง 50-60 ตัว ซึ่งนั่นได้เพิ่มประสบการณ์ของพวกเขาเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะ หวู่เฮา และ เฉียนเหวิ่นลู้ พัฒนาการของพวกเขานั้นมิอาจดูถูกได้ นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้ก้าวเข้าสู่[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]ความก้าวหน้าของพวกเขาได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นนับได้ว่าเป็นผลดีต่อพวกเขาอีกไม่นานเกรงว่าพวกเขาจะต้องก้าวเข้าสู่[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]เป็นแน่ ซึ่งนั่นมันจะทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเข้าสู่ฝ่ายในของสำนักหลัก

ในเวลานี้พวกเขาได้เดินทางเข้าใกล้สู่เขตพื้นที่ของหุบเขา และมีความคิดที่จะสำรวจมัน หากแต่ฉับพลันก็ได้มี 7 เงากระโดดมาจากทิศทางไหนไม่ทราบและได้ขวางกั้นเส้นทางของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่มีกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่แข็งแกร่ง

ใบหน้าของศิษย์[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]ต่างซีดขาว เมื่อเห็น 7 ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]โผล่มาจากไหนไม่ทราบอีกทั้งยังมาขวางกั้นเส้นทางของพวกเขา ซึ่งการที่พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ถึง 7 คนย่อมมั่นเหมาะที่จะเป็นสำนักย่อยระดับกลาง และการที่[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]เฉกเช่นพวกเขาที่มีผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]เพียงแค่ 4 คนจะต่อกรกับพวกเขาได้เยี่ยงไร

          “ พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงต้องปิดทางพวกข้า! ” เย่ชีเหวิน ก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมกล่าวถาม ซึ่งเขาสังเกตเห็น 3 ใน 7 คนด้านหน้าต่างเป็นศิษย์ชั้นนำจากสำนักย่อยสาขาอื่น ซึ่ง เย่ชีเหวิน มีความสนใจต่อศิษย์ที่แข็งแกร่งในปีนี้เขาจึงทราบมาว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็น 1 ในผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้

แต่ทว่าเขากลับมิเคยเห็นผู้เชี่ยวชาญอีก 4 คนที่เหลือ ซึ่งนั่นเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจจะมิได้เป็นคนจากสำนักย่อย อย่าลืมว่าสำนักยี่หยวนเป็น 1 ใน 4 สำนักใหญ่ที่มีขุมพลังอำนาจมากที่สุดใน[ จักรวรรดิต้าเยว้ ] และการคัดเลือกศิษย์เข้าสู่สำนักในรอบ 3 ปีมิได้มีเพียงแค่ศิษย์จากสำนักสาขาย่อยเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงผู้คนทั่วทั้งจักรวรรดิที่ต้องการจะเข้าร่วม ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสิทธิภาพ การเข้าสู้สำนักหลักยี่หยวนล้วนแล้วแต่เป็นการนำเกียรติมาสู่วงศ์ตระกูลของพวกเขา

ศิษย์จำนวนมากต่างถูกส่งเข้ามาแบบสุ่มใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] แต่พื้นที่ใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]นั้นอาจกล่าวได้ว่ามีความกว้างขวางเป็นอย่างมากซึ่งเมื่อเทียบกับ[ ดินแดนโลหิตหยวน ]แล้วมันมีขนาดใหญ่กว่ามาก และการจะเจอผู้คนในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันนั้นมันแทบที่จะเป็นไปไม่ได้ หากแต่ในเวลานี้ไม่เพียงแค่พวกเขาพบผู้คนเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้คนจำนวนมาก

ซึ่งบุคคลเหล่านี้ดูแล้วล้วนมิได้มีอายุที่มากนัก รูปร่างสันทัดของพวกเขาสมควรที่จะมีอายุราวประมาณ 20 ปีต้น ๆ พวกเขาทั้งหมดต่างมีลักษณะที่สง่างามและมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ศิษย์ภายนอก

          “ เจ้าคือ เย่ชีเหวิน? ” ชายหนุ่มในชุดคลุมจีนที่ยืนอยู่ตรงกลางเปิดปากกล่าว และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้นำของผู้เชี่ยวชาญทั้ง 7 พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ เย่ชีเหวิน มาก่อน เกี่ยวกับการกระทำที่ผ่านมาของเขาผู้ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับผู้ใดที่มาท้าทายเขา อีกทั้งเขายังได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ผู้มีชื่อเสียงจากสำนักย่อยจำนวนมาก

ศิษย์ภายนอกหรือศิษย์จากสำนักอื่นที่ต้องการจะเข้าสู่สำนกหลักยี่หยวน พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่มิใช่คนโง่ เพื่อที่จะเข้าไปยังภายในสำนักหลักพวกเขาจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนตนให้แข็งแกร่งกว่าผู้ใด มิใช่เข้าไปแล้วและเป็นเพียงได้แค่ศิษย์ใช้แรงงานที่น่าสงสาร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ศิษย์ภายนอกจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งแตกต่างจากศิษย์ของสำนักย่อยพวกเขาทุกคนจึงอาจกล่าวได้ว่าล้วนแล้วเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะเข้าสู่ภายในสำนักหลัก

จิตใจของ เย่ชีเหวิน จมดิ่งและเข้าสู่ความมืดมนเมื่อเขาได้รับรู้ว่าคนเหล่านี้มาเพื่อต้องการเผชิญหน้ากับเขา เย่ชีเหวิน ได้จับจ้องสายตาไปที่ชายหนุ่มในชุดคลุมจีนพร้อมเปิดปากกล่าว “ ใช้มันคือข้า เจ้ามีปัญหาหรือไม่? ”

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาวะ 1 ต่อ 7
B2 : งานนี้มีเหลือง
B3 : ขอแบบเด็ด ๆ อย่างน้อยก็ทำให้มันปางตายทีเถอะ!!
B4 : หลังจากจบศึกนี้[ก.]ว่าพอออกไปข้างนอก มีการมองหน้ากันไม่ติดชัวร์ 555555

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

3 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม