บทที่ 96 - การต่อสู้ที่ยากลำบาก

          “ ตึม! ” เสียงดั่งสนั่นประดุจราวฟ้าร้อง พลังปราณที่ปลุกคลุมฝ่ามือของเขาได้อัดกระแทกเข้าใส่ร่างกายของชายหนุ่มชุกคลุมสีฟ้าอย่างรุนแรง จนร่างกายของเขาปลิวกระเด็ดพุ่งสูงลอยขึ้นไปเหนือท้องฟ้า แต่ทว่าในขณะนั้นเองมันก็ได้กลายเป็นเส้นแสงและร่างของชายหนุ่มชุดคลุมสีฟ้าก็ได้หายไปในทันที

แม้ว่าพวกเขาจะตายภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] หากแต่ในโลกภายนอกพวกเขายังคงมิได้ตายไปจริง ๆ และการปรากฏของเส้นแสงนั่นก็หมายความว่าพวกเขาได้ถูกออกไปยังโลกภายนอกแล้วเป็นที่เรียบร้อย

          “ นี่เจ้าจะหาญกล้ามากเกินไปแล้ว! ” เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เหลืออยู่เพียงแค่ 6 ต่างจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยรูปลักษณ์ที่มิอยากจะเชื่อ เขาพวกไม่สามารถทำใจได้ว่า เย่ชีเหวิน จริงจะสามารถจัดการมิตรสหายของพวกเขาได้ด้วยเพียงพริบตา

พวกเขามิได้คาดคิดว่าสถานการณ์มันจะออกมาเป็นเช่นนี้ แต่เริ่มเดิมทีพวกเขาต่างมีความมั่นใจอันแรงกล้าในความแข็งแกร่งของตนที่จะสามารถบดขยี้ เย่ชีเหวิน ได้อย่างง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ เป้าหมายของพวกเขาคือการดักรอ เย่ชีเหวิน และสอนบทเรียนให้กับเขาให้รู้จักถึงที่ต่ำที่สูงและสถานะของตน ซึ่งพวกเขาต่างคิดว่า เย่ชีเหวิน เป็นเพียงแค่เด็กเล่นจะขยี้เมื่อใดก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ หากแต่พวกเขามิได้คาดคิดจริง ๆ ว่า เย่ชีเหวิน จะสามารถจัดการชายหนุ่มชุดคลุมสีฟ้าได้ด้วยเพียงฝ่ามือเดี่ยว สิ่งที่เกิดขึ้น?

เย่ชีเหวิน ยิ้มเยาะพร้อมเปิดปากกล่าว “ เพียงแค่บดขยี้ 1 ในเห็บหมัดเฉกเช่นพวกเจ้ามันก็มิได้ยากเย็นอันใดนัก แล้วทีนี้พวกเจ้าเลือกที่จะเข้ามาพร้อมกันหรือพวกเจ้าจะเข้ามาทีละคน? ”

เย่ชีเหวิน ถอดถอนหายใจและผ่อนคลายร่างกายของเขาเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่การต่อสู้ เพราะหลังจากนี้มันจะมิมีโอกาสให้เขาได้ผ่อนคลายอีกต่อไป ตัวเลือกเดียวของเขาคือต้องเผชิญหน้ากับพวกมันทั้งหมด ซึ่งนั่นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]แห่งนี้มันมิได้ทำให้พวกเขาตกตายไปจริง ๆ และยังถือเป็นโอกาสที่ยอกเยี่ยมในการเก็บประสบการณ์กับการเผชิญหน้ากับหมู่ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจำนวนมาก

นับตั้งแต่ที่สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แห่งการทดสอบ พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคู่แข่งและศัตรูที่แท้จริง เพื่อที่จะให้ผ่านสถานการณ์เช่นนี้ไปได้มีเพียงแค่ต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น การจัดการพวกมันที่ละคนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้อีกทั้งมันยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นอีกว่าเขานั้นเป็นบุคคลที่ไร้เทียมทาน!

นอกจากนี้ เย่ชีเหวิน ยังมีความคิดที่บ้า ๆ ที่จะใช้ความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมของเหล่า 6 ผู้เชี่ยวชาญนี้ เป็นจุดผลักดันให้เขาข้ามขีดจำกัดของตนเอง เพื่อให้สามารถบรรลุความแข็งแกร่งที่อยู่ในระดับสูงขึ้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ความเป็นความตายมันมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถทำให้เขาบุกฝ่าไปยังระดับขั้นต่อไปและเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเขาเองอย่างก้าวกระโดด

          “ รนหาที่ตาย! ”

          “ จะหยิ่งผยองมากเกินไปแล้ว! ”

พวกเขาทั้งหมดต่างโกรธแค้นด้วยคำยั่วยุของ เย่ชีเหวิน ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นศิษย์จากสำนักสาขาย่อยหรือเป็นศิษย์จากภายนอก พวกเขาทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาอีกทั้งยังมีกองกำลังเป็นของตนเอง และที่สำคัญพวกเขาไม่เคยถูกดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อน ซึ่งแต่เริ่มเดิมที่พวกเขาเองต่างก็มิได้มีความสนใจในตัวของ เย่ชีเหวิน เป้าหมายของพวกเขามีเพียงแค่การสั่งสอนบทเรียนเพียงเท่านั้น หากแต่ในยามนี้มันแตกต่างออกไป เย่ชีเหวิน เหยียดหยามศักดิ์ศรีของพวกเขาซึ่งนั่นมิใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถทนได้ เปลวเพลิงแห่งความแค้นและความอัปยศอดสูได้กัดกินจิตใจของพวกเขา จนทำให้อารมณ์ของพวกเขาในตอนนี้เดือดดาลจนถึงขีดสุด

          “ ฆ่ามัน! ”

พวกเขาทั้ง 6 คนต่างตะโกนและพุ่งเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ความแข็งแกร่งของพวกเขาล้วนมิธรรมดา พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในกองกำลังของตน อีกทั้งพวกเขาได้ยังครอบครองมากกว่า 1 หรือ 2 [ เคล็ดวิชาระดับขั้นก่อเกิด ] ซึ่งการแสดงพลังอำนาจของพวกเขานั้นอาจกล่าวได้ว่าอยู่ในระดับที่ล้ำลึกเป็นอย่างมาก

ในเวลานี้หลายเคล็ดวิชาการต่อสู้ได้พุ่งเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ซึ่งในขณะเดียวกันเขาก็ได้ชักใบมีดออกมาและปล่อยใบมีดประกายแสงแพรวพราวออกไปเข้าปะทะกับพวกมันโดยตรง

          “ ตูม! ” เสียงระเบิดดั่งสนั่น คลื่นพลังอำนาจได้แพร่กระจายออกไปทั่วทิศทาง ก่อให้เกิดฝุ่นตลบอบอวลแพร่กระจายอยู่ในพื้นที่บริเวณโดยรอบ
ร่างกายของ เย่ชีเหวิน ได้ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วย[ พลังปราณก่อเกิด ] ซึ่งเขาได้กระโดดขึ้นไปบนฟากฟ้า หากแต่แทนที่เขาจะถอยหลังแต่เขากลับพุ่งทะยานไปข้างหน้าโดยใช้[ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] เพียงพริบตาเขาได้พุ่งตรงไปยังกลุ่มของ 6 ผู้เชี่ยวชาญ และฟาดฟันใบมีดประกายแสงแพรวพราวของตนออกไป

          “ อ้า! ” 1 ในผู้เชี่ยวชาญในกลุ่ม ไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบเลี่ยงการโจมตีจากใบมีดของ เย่ชีเหวิน ซึ่งแน่นอนว่าร่างกายของเขาได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ปรากฏเป็นเส้นแสงและหายไปอย่างฉับพลัน

การต่อสู้ในครานี้แน่นอนว่ามันเป็นการต่อสู้ที่น่าหวาดกลัวมากเกินไป แค่ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน 2 ใน 7 ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ถูกจัดการไปแล้วในพริบตา

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มันก็มิได้บั่นทอนกำลังใจของผู้เชี่ยวชาญอีก 5 คนที่เหลือเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั้ง 5 ต่างพุ่งเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ด้วยทั้งหมดที่มี แม้ว่า เย่ชีเหวิน จะมีเคล็ดวิชา[ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ]ที่ทำให้การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก หากแต่มันก็ยังปรากฏรอบแผลหลายแห่งบนร่างกายของเขา

          “ เย่ชีเหวิน ข้าขอยอมรับว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งมาก หากแต่นี่เป็นโชคร้ายที่ข้ามิได้มาเพียงคนเดียว เจ้าไม่มีทางที่จะเอาชนะพวกข้าได้ ฉะนั้นจงยอมแพ้แล้วก็รีบ ๆ ตาย ๆ ไปเสีย อย่าลืมว่าภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ]แห่งนี้มันมิได้ตายไปจริง ๆ ! ” ชายหนุ่มในชุดคลุมจีนเปิดปากกล่าว แน่นอนว่าเขาเป็นบุคคลที่เย่อหยิ่ง หากแต่เขาต้องยอมรับในความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นไม่ธรรมดา แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันแต่ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ ซึ่งมันอาจเห็นได้ชัดถึงรูปลักษณ์ที่หน้ารังเกียจบนใบหน้าของพวกเขา 2 ใน 7 คนได้ถูกจัดการไปแล้วโดยคนที่แปลกประหลาดผู้นี้ ในคราแรกเขายังคงมองด้วยหางตาและมิได้ใส่ใจ แต่ทว่าในยามนี้มันกับบังคับให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันอาจกล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นมันช่างน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง

เย่ชีเหวิน ยิ้มเยาะแต่ยังคงมิได้กล่าวตอบ ร่างกายของเขาถูกชโลมไปด้วยโลหิต แม้ว่าจะมีบาดแผลจำนวนมากหากแต่เขาก็ยังมิคิดที่จะยอมแพ้หรือถอนตัว แม้ว่าเขาจะเข้าใจดีว่าไม่มีใครต้องตายภายใน[ ดินแดนภูตปีศาจมายา ] หากแต่ความเจ็บปวดที่พวกเขาได้รับมันยังคงเป็นของจริง ในโลกที่เต็มไปด้วยการต่อสู้มันไม่เคยมีทางเลือกให้ถอยกลับ มีแต่ต้องเดินหน้าและฟันฝ่ามันไปให้ได้หรือตายเพียงเท่านั้น แล้วถ้าหากแต่ความพยายามที่เขาได้ทำมาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มมันก็จะกลายเป็นศูนย์

เย่ชีเหวิน มิได้คิดที่จะยอมแพ้เพียงแค่เพราะเขาได้รับบาดเจ็บ ในหัวของเขาคิดเพียงแค่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงแค่ภาพลวงตามันมิได้เป็นบาดแผลในชีวิตจริง ฉะนั้นแล้วเขาจะต้องฟันฝ่ามันไปให้จงได้

          “ หวีด! ” เสียงแหลมเจาะหู ที่ราวดูเหมือนกริชได้พุ่งตรงเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ด้วยความเร็วสูง แต่แท้จริงแล้วมันคือชายหนุ่มร่างเล็ก การเคลื่อนไหวของเขานั้นมันช่างรวดเร็วเป็นอย่างมากและอาจกล่าวได้ว่าเคล็ดวิชาความคล่องตัวของเขานั้นมันเป็นลักษณะที่แปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย เพราะการเคลื่อนไหวของเขามันช่างคล้ายดั่งอสรพิษ ซึ่งหากผู้คนได้เห็นมันจะต้องสร้างความแตกตื่นให้กับฝูงชนอยู่ไม่น้อยเป็นแน่

แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มชุดคลุมจีนก็ได้มาปรากฏยังเบื้องหน้าของ เย่ชีเหวิน อย่างฉับพลัน และปล่อยหมัดเหล็กสีทองออกไป แสงสีของมันนั้นช่างเจริดจรัสราวเหมือนกับโลกทั้งใบได้อาบไปด้วยแสงสีทองอร่าม อีกทั้งชั้นบรรยากาศโดยรอบยังถึงกับต้องบิดเบี้ยวโดยหมัดเหล็กสีทองนี้

ประกายตาของ เย่ชีเหวิน ได้เยือกเย็นขึ้นมาอย่างฉับพลัน ศิลาวิญญาณจำนวนมากได้เริ่มต้นการเผาผลาญกลายเป็น[ พลังปราณจิตวิญญาณ ]ไหลบ่าเข้าไปยังภายใน[ พื้นที่ลึกลับ ]และเริ่มหมุนวนเพื่อทำการบ่มเพาะพลังของเขา ซึ่งมันอาจกล่าวเกินจริงไปเล็กน้อยแต่ทว่าในยามนี้เขากำลังพยายามที่จะบ่มเพาะเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตน

เมื่อยามที่ต้องเผชิญหน้ากับ 5 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่ามันผู้นั้นจะต้องพ่ายแพ้ และคงไม่มีใครเชื่อว่ามันผู้นั้นจะสามารถรอดไปจากสถานการณ์เช่นนี้ได้ หากแต่ เย่ชีเหวิน เลือกที่จะปฏิเสธความเชื่อเช่นนั้น เป้าหมายของเขามีเพียง 1 เดียวนั่นคือเขาต้องเป็นผู้ชนะ แม้ว่ามันจะมีโอกาสอยู่น้อยนิดเพียงใดก็ตาม แต่เขาจะไม่มีทางยอมแพ้เป็นอันขาด

การโจมตีของพวกเขาในแต่ครั้งนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยไม่ต้องกล่าวถึงชายหนุ่มชุดคลุมจีนที่ดูเป็นอันตรายและน่าสะพรึงกลัวมากที่สุดในหมู่พวกเขา อีกทั้งอิสตรีผู้มากไปด้วยเสน่ห์และกระจกวิเศษในมือของนาง มันสามารถปล่อยลำแสงออกมาได้ และทุก ๆ ครั้งที่ลำแสงได้สาดส่องไปโดนสิ่งใดมันจะเกิดการระเบิดขึ้นในทันที ซึ่งพลังอำนาจของมันนั้นก็อาจที่จะดูถูกได้และยังถึงขั้นอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัว

นี่จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นวิกฤตที่มีความอันตรายมากที่สุดเท่าที่ เย่ชีเหวิน เคยเผชิญมา!

ความบ้าคลั่งได้ประกายขึ้นภายในดวงตาของ เย่ชีเหวิน ใบมีดยาวได้ฟาดฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง บังเกิดเป็น 9 เงาใบมีดบนท้องฟ้า

          “ บูม! ”

หมัดเหล็กที่มากไปด้วยพลังอำนาจของชายหนุ่มชุดคลุมจีน ได้อันกระแทกเข้าใส่เรือนร่างของ เย่ชีเหวิน อย่างรุนแรง จนเขากระอักโลหิตออกมาหนึ่งคำและผมสีดำของเขานั้นได้ปลิวไสว หากแต่ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งดังเหล็กกล้ามันจึงมิได้ขยับเขยื้อนไปไหน นอกจากนี้เขายังคงกวัดแกว่งของเขาและจับจ้องไปชายหนุ่มร่างเล็ก

          “ ตูม! ” ใบมีดยาวได้สับลง เงา 9 ใบมีดได้พุ่งตรงเข้าใส่ชายหนุ่มร่างเล็กและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเขา…

#########################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : [ก.]ว่าตาย
B2 : แน่นอนมันตรงตาย!
B3 : ตอนหน้า เย่ชีเหวิน ตายไม่ผ่านการประเมิน จึงได้เลิกไปท่องโลก
B4 : [ม.]ก็พูดเป็นเรื่องเป็นราว
B1 : ช่วงนี้แลดูบทพูดน้อย ๆ นะ
B2 : สมงสมองแอดเขาตันหรือป่าว
B3 : ทำไรถึงตัน
B2 : [ก.]จะไปรู้[ม.]หรอ!!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

11 ความคิดเห็น:

  1. ชั่งทำกันได้ลงคอ

    ใครก้ได้เอาบรรไดให้ทีลงไม่ได้ ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

    ตอบลบ
  2. มันจริงเย่ซีเหวินสู้ๆๆ

    ตอบลบ
  3. FC B3 555 อ่านๆมากำลังตึงเครียดตลกตรงนี้แหละ

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม