บทที่ 106 - ก่อตั้งพรรค

ในเวลานี้เหล่าศิษย์ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็ได้สังเกตเห็นถึงปัญหาที่ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำกำลังเผชิญ ด้วยสายตาของพวกเขาที่สามารถมองกาลไกลได้ดียิ่งกว่าเมื่อเทียบกับเหล่าศิษย์ใหม่ด้วยระยะเวลาและประสบการณ์ที่พวกเขามี
       
ในเวลานี้เหล่าศิษย์ผู้อาวุโสทั้ง 9 ต่างรีบวิ่งเข้าไปเพื่อหมายจะช่วยเหลือชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำ หากแต่ในขณะนั้นเอง[ พลังปราณใบมีด ]ก็ได้พุ่งตรงมายังด้านของพวกเขา และสลักรอยแยกลึกไว้ที่พื้นเป็นทางยาวนับหลาย 10 เมตร
       
          “ นี่คงมิใช่ว่า เหล่าศิษย์ผู้อาวุโสกำลังจะรังแกเหล่าศิษย์ใหม่ด้วยจำนวนคนอยู่หรอกใช่หรือไม่! ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นพร้อมหันชี้ใบมีดไปที่เหล่าศิษย์ผู้อาวุโสทั้ง 9
       
ในบรรดาเหล่าศิษย์ผู้อาวุโสทั้ง 9 มีหลายคนที่อยู่ใน[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และมีความแข็งแกร่งที่มิได้ด้อยไปกว่าชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำ แต่ในเวลานี้พวกเขาทั้งหมดต่างถูกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น หากก่อนหน้าพวกเขาช้าไปเพียงนิดเกรงว่าพวกเขาคงจะต้องถูกสังหารไปแล้วเป็นแน่ เมื่อคิดได้เช่นนี้พวกเขาถึงกับอดไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกตะลึง
       
พวกเขาทั้งหมดต่างยอมรับว่าหากพวกเขามิยอมหยุดก่อนหน้านี้ ร่างกายของพวกเขาคงจะถูกแบ่งครึ่งไปแล้ว ด้วยพลังอำนาจใบมีดที่แสนน่ากลัวของเด็กหนุ่ม หากพวกเขายืนยันที่จะมุ่งมั่นเข้าไปอีกครั้ง เกรงว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คงจักมิแสดงความเมตรตราต่อพวกเขาอีกครั้งที่ 2 เป็นแน่
       
แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินมาอยู่บ้างว่ามีจำนวนมากของเหล่าศิษย์อัจฉริยะที่ได้เข้ามายังสำนักหลักภายในปีนี้ หากแต่พวกเขามิได้คาดคิดว่าพวกเขาจริงจะได้เห็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่แสนน่ากลัวถึงเพียงนี้ ในช่วงปีก่อนแม้ศิษย์ใหม่ที่พึ่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ก็ถูกกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะของรุ่นแล้ว หากแต่ในปีนี้ไม่เพียงแค่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]เท่านั้น แต่ยังเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่แสนน่ากลัวอีกทั้งจำนวนผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่เข้ามาภายในปีนี้ก็ยังมีมากเกินไปกว่าที่พวกเขาได้คาดคิดเอาไว้
       
ในอดีตที่ผ่านมาพวกเขาสามารถกลั่นแกล้งเหล่าศิษย์ใหม่ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ความแข็งแกร่งของพวกเขาและบังคับเหล่าศิษย์ใหม่ให้เข้าร่วมกับพรรคของตน แต่ทว่าความแข็งแกร่งของเหล่าศิษย์ใหม่ในปีนี้มันมีมากเกินไปเช่นเดียวกับ เหยียนชือหลิง และ เด็กหนุ่มที่ถือใบมีดยาวผู้นี้
       
พวกเขาทั้งหมดต่างมิเคยคิดเลยว่าเหล่าศิษย์ใหม่จะจัดการได้ยากถึงเพียงนี้ พวกเขาต่างถูกส่งมาโดย[พรรค ฟู๋ตี่]เพื่อกำราบเหล่าศิษย์ใหม่ที่คิดจะก่อตั้งพรรคแต่พวกเขากับมิได้คาดหวังว่าผลมันจะออกมาเป็นเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดทำได้เพียงแค่เฝ้ามองสถานการณ์ต่อไปเท่านั้น หากพวกเขาขยับขาออกไปแม้แต่เพียงก้าวเดียว พวกเขาคงได้ถูกแยกออกเป็นสองส่วนโดยใบมีดของชายหนุ่มผู้นี้เป็นแน่ และหากเขากล่าวทูลเรื่องนี้กับเหล่าบุคคลระดับสูงพวกเขาก็คงจะถูกฆ่าตายในทันทีไม่ผิดแน่ การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของ เย่ชีเหวิน ได้บังคับให้พวกเขาก้าวไปสู่ปากเหว
       
แผนการที่จะกลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอกว่าของพวกเขาในยามนี้ต้องล้มเหลว และหากพวกเขานำเรื่องนี้ไปกล่าวทูลแก่เหล่าศิษย์ผู้อาวุโสระดับสูงภายในพรรคเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขา มันจะทำดูให้พวกเขากลายเป็นตัวตลกไปในทันที
       
ศิษย์ใหม่ต่างจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยสายตาสรรเสริญ แน่นอนว่าพวกเขาได้รับการยกย่อง เหยียนชือหลิง ที่สามารถต่อกรกับศิษย์ผู้อาวุโสได้อย่างเท่าเทียม แต่ในสายตาของพวกเขาต่างสรรเสริญ เย่ชีเหวิน ที่สามารถหยุดยั้งศิษย์ผู้อาวุโสทั้ง 9 ได้ด้วยเพียง 1 ใบมีด อีกทั้งยังทำให้พวกเขาตกอยู่ในหวาดกลัวและถอยหลังกลับไป
       
เหล่าศิษย์ใหม่ทั้งหมดต่างรู้สึกอดกลั่นความเกลียดชั่งของตนเอาไว้ หลังจากที่พวกเขาทั้งหมดเองต่างก็เป็นถึงศิษย์ชั้นนำ แต่กับถูกศิษย์ผู้อาวุโสรังแกจนตนต้องหมดหนทางสู้ หากแต่ในท้ายที่สุดแล้วความรู้สึกเหล่านั้นก็ได้ถูกระบายออกไปโดยการกระทำของ เย่ชีเหวิน
       
ซึ่งด้วยการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของ เย่ชีเหวิน นี้เองจึงทำให้ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำนั้นเสียสมาธิและไม่สามารถรับการโจมตีของ เหยียนชือหลิง ได้โดยตรง ในขณะที่เขาทำได้เพียงแค่หลบไปหลบมา เหยียนชือหลิง เองก็ได้พบโอกาส เขารวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่กำปั้นและเหวี่ยงมันออกไปอัดกระแทกเข้าที่ลำตัวของชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างกายของเขานั้นปลิวกระเด็นพลิกคว่ำและล้มลงไปที่พื้นพร้อมหมดสติ
       
          “ พาเขาออกไปแล้วอย่าได้กลับมาที่นี่อีก หากไม่เช่นนั้นแล้วในครั้งต่อไปข้าจะมิแสดงความเมตตาใด ๆ อีก! ” เหยียนชือหลิง กล่าวออกมาด้วยลักษณะหอบหายใจ
       
ศิษย์ผู้อาวุโสต่างมิคิดที่จะอยู่ที่นั่นนานนัก เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่นั่นไปมันก็มิได้ช่วยอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอสูรร้ายที่พร้อมที่จะสังหารพวกเขาได้ทุกเมื่ออย่าง เย่ชีเหวิน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขามิอยากที่จะอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานนัก
       
          “ ศิษย์พี่เย่ การที่ท่านได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราในครั้งนี้ พวกเราต้องขอขอบคุณท่านมาก! ” เหยียนชือหลิง จับจ้องไปที่กลุ่มศิษย์ผู้อาวุโสที่ได้ล่าถอยกลับไป เขาอดไม่ได้ที่จะต้องการออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปราบปลื้มพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา
       
          “ นั่นมิใช่เรื่องใหญ่อันใด ” เย่ชีเหวิน กล่าว “ ศิษย์พี่เหยียน ข้าคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะก่อตั้งพรรค ”
       
แน่นอนว่า เย่ชีเหวิน มิได้ต้องการที่จะเข้าร่วมพรรคใด หากแต่เขาเองก็มิชอบที่ถูกใครมาบังคับให้เข้าร่วมพรรคด้วยเช่นกัน หลังจากที่พวกเขาทุกคนต่างตกอยู่ในที่นั่งลำบากและแน่นอนว่าพวกเขามิสามารถที่จะวิ่งหนีไปได้นานนัก
       
แม้ว่าเขาจะกระทำการระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเป็นอย่างดีที่จะเข้าร่วมพรรค หากแต่บุคคลเหล่านั้นก็ยังคงรู้อยู่ดีว่าเขานั้นพักอยู่ที่ใด ฉะนั้นแล้วตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือการเข้าร่วมพรรคที่ตนนั้นต้องการ
       
          “ ศิษย์พี่เย่ นี่ท่านหมายความว่าเช่นไร ” เหยียนชือหลิง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปราบปลื้ม แม้ว่าพรรคของเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วจำนวนมาก หากแต่ความแข็งแกร่งของพวกเขามันก็ยังคงอยู่เพียงแค่ในระดับธรรมดา แต่ถ้าหาก เย่ชีเหวิน เต็มใจที่จะเข้าร่วมด้วยมันจะแตกต่างออกไปในทันที ด้วยความแข็งแกร่งที่อัศจรรย์ของ เย่ชีเหวิน มันจะทำให้พรรคของพวกเขานั้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
       
          “ ข้าจะอยู่เพียงแค่ในนามเท่านั้นและไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมใด ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมของพรรค ” เย่ชีเหวิน กล่าวออกมาอย่างซื่อตรงโดยที่เขามิต้องการที่จะอ้อมค้อมใด ๆ แม้ว่าเขาจะได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมพรรค แต่เขาก็ยังคงต้องการความเป็นอิสระเสรีและเพลิดเพลินไปกับการบ่มเพาะพลังของตนตามที่เขาต้องการ
       
          “ นั่นมิใช่ปัญหา! ” เหยียนชือหลิง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น เพียงแค่มี เย่ชีเหวิน เข้าร่วมด้วยมันก็เป็นที่มั่นเหมาะแล้วว่าพรรคของพวกเขานั้นจะต้องได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นและที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ เย่ชีเหวิน มิต้องการที่จะมีส่วนร่วมใด ๆ กับกิจกรรมภายในพรรค ซึ่งนั่นจะทำให้อำนาจทั้งหมดตกอยู่ที่เขาแต่เพียงผู้เดียว จึงอาจกล่าวได้ว่าผลประโยชน์ในครั้งนี้มันดีกับพวกเขาทั้ง 2 ฝ่าย
       
          “ สุภาพบุรุษทั้งหลายข้าขอประกาศให้ทราบกันอีกครั้ง นับแต่ต่อจากนี้ไปข้า เหยียนชือหลิง และ ศิษย์พี่เย่ จะร่วมกันก่อตั้งพรรคขึ้นซึ่งศิษย์ใหม่ทุกคนสามารถที่จะเข้าร่วมกับพวกเราได้! ” เหยียนชือหลิง ประกาศออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง ก่อนหน้าพรรมของพวกเขาได้จัดตั้งขึ้นเพียงแค่ในนามเท่านั้น หากแต่ในตอนนี้ เย่ชีเหวิน ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมด้วย พรรคของพวกเขาจึงได้ถกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย
       
แต่ทว่าศิษย์ใหม่บางคนก็ยังมีความลังเลอยู่เล็กน้อย หลังจากที่พวกเขาก่อนหน้าเคยเป็นผู้ติดตาม เหยียนชือหลิง มาก่อนและได้รับรู้ว่าการจะเอาชีวิตรอดภายในสำนักหลักนั้นมันเป็นไปได้ยาก ซึ่งพวกเขาต้องการเพียงแค่ผู้นำที่จะสามารถทำให้พวกเขารอดไปได้จากภัยอันตรายที่มิคาดฝัน และการที่พวกเขาเลือกติดตาม เหยียนชือหลิง นั้นนั่นก็เป็นเพราะว่าเขานั้นเป็นศิษย์ชั้นนำที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ศิษย์ใหม่ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาเจอผู้เชี่ยวชาญแข็งแกร่งกว่าและสามารถคุ้มครองพวกเขาได้พวกเขาก็ยินตีที่จะไปได้ตลอดเวลา หากแต่มันต่างออกไปหากเขาเลือกที่จะเข้าร่วมพรรค ซึ่งนั่นมันจะทำให้พวกไม่สามารถตีตัวออกห่างได้เพราะถ้าหากพวกเขาทำเช่นนั้นพวกเขาก็จะถูกตาหน้าว่าเป็นผู้ทรยศพรรคของตน แล้วไม่มีพรรคไหนที่จะเลือกคนที่ทรยศพรรคเช่นพวกเขาเข้าร่วมด้วยอย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าพวกเขานั้นจะมีความแข็งแกร่งที่มากพอ
       
          “ ข้าขอเข้าร่วม! ” ศิษย์ผู้หนึ่งกล่าวออกมาพร้อมยกมือขึ้น “ ข้าทนการข่มขู่ของไอ้พวกศิษย์ผู้อาวุโสนี่มามากเกินพอแล้ว และข้าจะไม่ทนมันต่อไปอีกทางเลือกเดียวสำหรับข้าในตอนนี้ข้าให้ข้าได้เข้าร่วมกับพวกพรรคของพวกท่านด้วย! ”
       
          “ ข้าก็ขอเข้าร่วมด้วย! ”
       
          “ ข้าก็ขอเข้าด้วย! หากเหล่าศิษย์ผู้อาวุโสพวกนั้นสามารถก่อตั้งพรรคเป็นของตนเองได้ พวกเราก็สามารถก่อตั้งพรรคเป็นของตนเองได้เช่นกัน! ”
       
          “ เจ้ากล่าวถูกในเมื่อพวกมันสามารถก่อตั้งพรรคขึ้นได้ แล้วเหตุใดพวกจะก่อตั้งพรรคขึ้นมาไม่ได้ พวกเราทั้งหมดต่างก็เคยเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดภายในสำนักของตน ไม่มีสิ่งใดที่พวกเราจะมิสามารถบรรลุ! ” ศิษย์ผู้หนึ่งกล่าว
       
เหล่าศิษย์ทั้งหมดต่างถูกกระตุ้นด้วยการเกิดขึ้นของพรรคอย่างฉับพลันและศิษย์ใหม่จำนวนมากยินดีที่จะเข้าร่วม ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีพรรคที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยศิษย์ใหม่ผู้หนึ่ง ซึ่งพรรคของเขานั้นได้กลายเป็นที่เกรียงไกรและมีชื่อเสียงโด่งดังข้ามไปทั่วทั้ง 10 ยอดหุบเขา จนในบัดนี้เขาขึ้นกลายเป็นแล้วศิษย์ที่แท้จริง อีกทั้งยังเป็น 1 ในบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักยี่หยวน
       
          “ ดีเนื่องจากว่าพวกเจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมพรรคของพวกเรา เราก็จะได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เพียงแต่มันต้องมีชื่อ! มีใครพอจะมีชื่อดีดีมั่งหรือไม่? ” เหยียนชือหลิง กล่าวถาม
       
ศิษย์มากมายต่างรีบวิ่งเข้าไปเพื่อบอกชื่อ แต่ทว่าชื่อเหล่านั้นก็มิเข้าหูผู้คนจำนวนมากเสียสักเท่าไหร่นัก
       
จนในท้ายที่สุดแล้วก็ได้มีศิษย์ผู้หนึ่งเสนอชื่อ[พรรค เฉินยู้]ซึ่งได้รับการยอมรับจากศิษย์จำนวนมาก และด้วยเหตุนี้เองพรรคของพวกเขาจึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
       
หลายศิษย์ยังคงรู้สึกแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะหลังจากนี้ไปพวกเขาจะได้กลายเป็นที่รู้จักกันในนามสมาชิกของ[พรรค เฉินยู้] ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าความก้าวหน้าของพวกเขานั้นจะไปได้ไกลมากแค่ไหนในอนาคต
       
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาวะก่อตั้งพรรคก็มา
B2 : 5555 ศิษย์ผู้อาวุโสก็หงอกันไปตามระเบียบ
B3 : นั่นไง[ก.]ว่าแล้ว มันก็ต้องเข้าอีรอบเดิม
B4 : เอาน่าโอกาสหน้ายังคงมี

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

5 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม