บทที่ 110 - ในที่สุดก็ก้าวหน้า

           “ แกรก ” แขนของ[วานรหิมะ]ได้หักลงในทันที เมื่อมันได้สัมผัสกับพลังอำนาจอันมหาศาลของเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ]

อาการตกใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ[วานรหิมะ] มันมิได้คาดคิดว่าการโจมตีเพียงครั้งเดียวของมนุษย์อย่าง เย่ชีเหวิน จะสามารถทำให้มันถึงกับแขนหักได้

เย่ชีเหวิน หอบหายใจเล็กน้อยสำหรับการโจมตีก่อนหน้านี้ เพราะมันทำให้เขาต้องเผาผลาญ[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปถึง 10% แต่ถึงแม้ว่าการโจมตีในครั้งนี้จะมีพลังอำนาจที่สูงมาก หากแต่มันก็ยังคงมิสามารถฆ่า[วานรหิมะ]ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว จึงอาจกล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของ[วานรหิมะ]ตัวอยู่ในระดับที่น่ากลัวมาก!

โลหิตภายในร่างของ เย่ชีเหวิน ต่างเดือดดาลด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เขาสามารถมอบความพ่ายแพ้ให้กับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งเขายังมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]

และในตอนนี้คู่ต่อสู้ของเขาคือ[วานรหิมะ]ที่เป็นเพียงแค่สัตว์ปีศาจที่พึ่งก้าวขึ้นมายัง[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]เพียงเท่านั้นหรือก็คือความแข็งแกร่งของมันในตอนนี้ยังมิใช่ความแข็งแกร่งเต็มที่ ซึ่งเมื่อความแข็งแกร่งของทั้งสองได้ถูกพันธนาการเอาไว้จึงทำให้การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นสำหรับพวกเขา

ศัตรูที่คู่ควร!

ในตอนนี้[วานรหิมะ]ได้ทราบแล้วว่าความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นไม่ใช่สิ่งที่มันจะสามารถต่อสู้ได้อย่างประมาทเลินเล่อได้ เสียง “ แกรก ” ดังขึ้นอีกครั้งกระดูกที่แตกหักของมันได้กลับคืนสูงสภาพเดิม พร้อมมันได้คว้าจับท่อนไม้ขนาดยักษ์และกระโจนฟาดฟันเข้าใส่ เย่ชีเหวิน การโจมตีของมันช่างรวดเร็วและกลายเป็นเงามากมาย จนสังเกตเห็นได้ว่านี่สมควรที่จะเป็น 1 ในเคล็ดวิชาการต่อสู้ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพของมันอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเคล็ดวิชากำปั้นวานร ซึ่งมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้า[วานรหิมะ]ตัวนี้ได้รับการฝึกฝนเคล็ดวิชาการต่อสู้เฉพาะตัวอยู่ในระดับที่สูงมาก

เย่ชีเหวิน ฟาดฟันใบมีดยาวของเขาออกไปอย่างไม่ลังเล

           “ ตึม! ” ใบมีดประกายแสงแพรวพราวได้ถูกยิงออกมาจากใบมีดของ เย่ชีเหวิน การปะทะกันของพลังอำนาจที่แข็งแกร่งและรุนแรงได้ก่อให้เกิดเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ

ทั้งสองฝ่ายต่างต้องถอยหลังกลับ เพราะด้วยการโจมตีที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน จึงไม่สามารถทำอะไรกันได้

เย่ชีเหวิน ปรี่ไปยังด้านหน้า ร่างของเขาพุ่งตรงออกไปราวเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งชนเข้าใส่ร่างของ[วานรหิมะ]

           " บูม! "

           " บูม! "

           " บูม! "

เสียงระเบิดจากการเข้าปะทะกันได้ดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทั้งสองต่างเข้าห้ำหั่นกันเพื่อหมายจะโค่นล้มอีกฝ่าย

ในที่สุด[วานรหิมะ]ก็ได้ตระหนักว่ามันนั้นได้เลือกคู่ต่อสู้ผิดคน เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่มันจะสามารถจัดการได้โดยง่าย จนต้องกล่าวบอกก่อนว่าการที่มันได้เลือกคู่ต่อสู้ในครั้งนี้ นั่นก็เป็นเพราะมันต้องการที่จะใช้ เย่ชีเหวิน เป็นตัวทดสอบความแข็งแกร่งของมันที่พึ่งได้ก้าวขึ้นมายัง[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และแสดงให้เห็นว่ามันแข็งแกร่งกว่าและอยู่เหนือเขา หากแต่ในตอนนี้มันกลับต่างออกไปด้วยความแข็งแกร่งที่มากมายมหาศาลมากเกินไปของ เย่ชีเหวิน จึงทำให้มันไม่สามารถจัดการเขาลงได้ จนถึงขั้นอาจกล่าวได้ว่าเขาในตอนนี้ถือเป็นศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดสำหรับมัน

ลึกลงภายในร่างกายของ[วานรหิมะ] กลิ่นอายอันไม่เสถียนที่ไหลเวียนอยู่ภายในเส้นโลหิตของมันก็ได้เริ่มแพร่พรายออกมา ยิ่งเวลาในการต่อสู้ผ่านไปนานเท่าใดสัญชาตญาณดิบของสัตว์ปีศาจมันก็ยิ่งเผยออกมาให้เห็นเด่นชัดขึ้น [วานรหิมะ]ได้แหงนหน้าของมันขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมทุกหน้าอกและโห่ร้องเสียงคำรามอย่างแรง

เย่ชีเหวิน ไม่สามารถที่จะมองข้ามเรื่องนี้ [วานรหิมะ]เป็นสัตว์ปีศาจที่พึ่งก้าวขึ้นมายัง[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และกำลังอยู่ในระหว่างการควบคุมการไหลเวียนของพลังปราณ หากยังคงปล่อยไว้เช่นนี้แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของมันจะต้องเพิ่มขึ้น หากแต่ความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นก็มิใช่ธรรมดาเขาสามารถมอบความพ่ายแพ้ให้กับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายได้และสามารถต่อกรได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]

การต่อสู้กันระหว่าง เย่ชีเหวิน และ [วานรหิมะ]เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยความแข็งแกร่งที่เท่าเทียมกันจึงทำให้พวกเขาทั้งฝ่ายนั้นมิได้บาดเจ็บอะไรมากนัก แต่มันก็เป็นผลดีต่อเย่ชีเหวิน อยู่ไม่น้อยเพราะด้วยการปะทะกันอย่างต่อเนื่องส่งผลให้สภาพร่างกายของเขานั้นมีความทนทานมากขึ้น หากยังคงต่อสู้อยู่เช่นนี้ต่อไปมีความเป็นไปได้ที่ความแข็งแกร่งของเขานั้นจะเพิ่มขึ้น

ความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้ง 2 ฝ่ายต่างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุก ๆ การโจมตีที่พวกเขาได้ห้ำหั่นเข้าใส่กัน ต่างเต็มไปด้วยความหวังลึก ๆ ว่าพวกเขาจะสามารถล้มฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยการโจมตีในครั้งนี้

เย่ชีเหวิน ไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ เพราะเขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งของ[วานรหิมะ]ใกล้จะมาถึงขีดจำกัดของมันแล้ว เมื่อยามที่การไหลเวียนของพลังปราณเสถียนเมื่อใดความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของมันก็จะหยุดลง ซึ่งแตกต่างจากเขาที่ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้ หากเขามีความก้าวหน้าจนสามารถบุกฝ่าไปยังระดับขั้นต่อไป ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและการที่เขาจะฆ่า[วานรหิมะ]ก็จะมิใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ในขณะที่มันยังคงเป็นเพียงแค่สัตว์ปีศาจ[ ระดับแรกขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] แม้แต่ต่อให้มันเป็นสัตว์ปีศาจ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของเขา

[วานรหิมะ]ไม่เคยรู้สึกว่ามันนั้นอ่อนแอในขณะที่มันได้ก้าวขึ้นมาเป็นสัตว์ปีศาจ[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมันกับมิสามารถเอาชนะมนุษย์ที่อยู่เพียงแค่[ ระดับขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้ มันมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ร่างกายของมันนั้นแข็งแกร่งไร้ผู้ต้านทาน แต่มันกับมิสามารถอยู่เหนือ เย่ชีเหวิน ได้ ซึ่งในความเป็นจริงมันรู้สึกราวเหมือนกับว่าร่างกายของมันเป็นเพียงแค่อากาศธาตุเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสภาพร่างกายของ เย่ชีเหวิน

ซึ่งมันมิได้รับรู้ว่า เย่ชีเหวิน ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ปัจจัยหลักที่ทำให้เขามีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งไร้ผู้ต้านทาน เคล็ดวิชาโบราณที่สามารถทำให้ผู้ที่ฝึกฝนมันมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งดุจราวเทพอสูร

แม้ว่า เย่ชีเหวิน จะฝึกฝนมาถึงเพียงแค่ขั้นที่สอง แต่นั่นก็ทำให้สภาพร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งอยู่แล้วในระดับที่สูงมาก

แม้[วานรหิมะ]จะมีระดับการบ่มเพาะพลังที่สูงกว่า หากแต่ เย่ชีเหวิน กับมิได้เป็นรองเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้เขายังสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพลังที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ กลิ่นอายของเขาเริ่มดีขึ้นและหนามากขึ้น จนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เย่ชีเหวิน มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาไปยังระดับขั้นต่อไปในเร็ว ๆ นี้

           “ จะปล่อยให้มนุษย์พัฒนาไม่ได้! ” ความคิดเช่นนี้ได้ดังก้องอยู่ภายในหัวของ[วานรหิมะ] สติปัญญาของมันได้เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่มันได้ก้าวขึ้นมายัง[ ระดับขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ซึ่งมันสามารถรับรู้ได้ถึงอันตรายอย่างชัดเจนหากมันปล่อยให้ เย่ชีเหวิน พัฒนาไปยังระดับขั้นต่อไป

[วานรหิมะ]ไม่มีความลังเลใด ๆ มันได้เหวี่ยงหมัดขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งอันหนาวเย็นออกไป ชั้นบรรยากาศโดยรอบต่างเกิดการเปลี่ยนแปลงไปราวเหมือนกับว่าโลกทั้งใบได้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง

โดยที่ยังไม่ทันทีมันจะมาถึงตัว เย่ชีเหวิน ก็สามารถรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่น่าหวาดกลัวและหนาวเย็นกดทับร่างกายของเขาโดยที่เขาไม่สามารถต้านทานมันได้ ราวเหมือนกับหุบเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ทุบลงมายังด้านหน้าของเขา

กระดูกภายในร่างของ เย่ชีเหวิน ต่างกู่ร้อง จากผลกระทบของแรงกดดันอันมหาศาลที่ปะทะเข้ากับร่างกายของเขา

เย่ชีเหวิน แสยะยิ้มพร้อมหมุนวนพลังปราณอย่างบ้าคลั่ง ใบมีดยาวที่อยู่ในฝ่ามือของเขาได้ปลดปล่อยใบมีดประกายแสงแพรวพราวที่พร้อมจะคราทุกสิ่งมีชีวิตออกไป

สองคลื่นพลังอันมหาศาลต่างพุ่งเข้าชนกันกลางอากาศอย่างรุนแรง จนทำให้[ พลังปราณใบมีด ]ของ เย่ชีเหวิน เกิดเป็นประกายไฟที่น่ากลัว

ใบมีดที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังปราณและ เย่ชีเหวิน ต่างค่อย ๆ ทรุดตัวลง ภายใต้แรงกดดันของหมัด[วานรหิมะ]ที่ราวเหมือนกับหุบเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่กดทับลงบนร่างของเขา

แต่ในขณะนั้นเอง เย่ชีเหวิน ก็ได้รู้สึกถึงความตื่นเต้น ในขณะที่ทั่วทั้งร่างกายของเขาได้มีกลิ่นอายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล จากเดิมที่เขาได้มาถึงยัง[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และมีการผันแปร[ พลังปราณก่อเกิด ]ไปแล้วกว่า 60% แต่ภายใต้แรงกดดันที่เปล่งออกมาในขณะนี้มันได้บ่งบอกถึง[ พลังปราณก่อเกิด ]ภายในร่างของเขาได้เพิ่มสูงขึ้นมาถึง 20% กลายเป็น 80% ซึ่งนั่นมันเปรียบเสมือนได้กับความแข็งแรงของผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]

จาก[ พลังปราณก่อเกิด ] 60% ที่เพิ่มขึ้นมาจนถึง[ พลังปราณก่อเกิด ] 80% มันทำให้กลิ่นอายของ เย่ชีเหวิน ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน ใบมีดที่ห่อหุ้มไว้ด้วยพลังปราณและร่างกายที่ทรุดตัวลงของ เย่ชีเหวิน ก็ค่อย ๆ ยืนหยัดขึ้นด้วยความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิมนับหลายเท่า และเขาได้พุ่งชนเขากับหมัดขนาดใหญ่ที่ราวเหมือนกับหุบเขาน้ำแข็งอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้มันได้ถูกทำลาย เศษชิ้นส่วนของน้ำแข็งต่างปลิวไสวไปกับกระแสลมที่รุนแรง

#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : คิดไม่ออก
B2 : หัวทึบ
B3 : มึนโวยยยย
B4 : ไว้ตอนหน้าละกัน

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

4 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม