บทที่ 112 - ประลองในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง

          “ ข้าต้องขอขอบคุณศิษย์พี่จิง สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ” เย่ชีเหวิน กล่าวอย่างสุภาพพร้อมป้องมือขึ้นเหนือหน้าอกในลักษณะที่ให้ความเคารพ
       
          “ นั่นมิใช่ความต้องการของข้า ข้าเพียงแค่ได้รับคำขอมาจากคนบางคนเท่านั้นว่าให้มาช่วยเหลือพวกเจ้า ” จิงเยี้ยนหนาน กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
       
เย่ชีเหวิน งุนงงเพราะเขามิสามารถคาดเดาได้ว่าผู้ใดกันที่ได้ส่งความช่วยเหลือมาให้แก่พวกเขา?
       
เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าที่สับสนของ เย่ชีเหวิน เหยียนชือหลิง ก็ได้กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า “ ท่านไม่จำเป็นต้องคาดเดาเพราะข้ายินดีที่จะบอกท่านว่าผู้ใดกันที่ได้ส่งความช่วยเหลือมาให้แก่พวกเรา ในความเป็นจริงแล้วมันคือศิษย์น้อง ฮวาเหมิงฮั่น ที่ได้ให้ความช่วยเหลือพวกเราในครานี้! ”
       
ฮวาเหมิงฮั่น!
       
ชื่อนี้ได้ดังก้องขึ้นมาภายในจิตใจของ เย่ชีเหวิน ซึ่งเขามิได้คาดคิดเลยว่ามันจะเป็น ฮวาเหมิงฮั่น ที่ได้ยื่นมือส่งความช่วยเหลือมาให้แก่พวกเขา!
       
ในตอนนี้เรือนร่างอันสง่างามราวกับเทพธิดาของ ฮวาเหมิงฮั่น ได้ปรากฏขึ้นอยู่ภายในจิตใจของ เย่ชีเหวิน!
       
          “ ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้รั่วไหลออกไปยังภายนอก? ” เย่ชีเหวิน ได้หยุดจินตนาการถึงเรือนรางอันงดงามของ ฮวาเหมิงฮั่น ไว้แค่นั้นและกล่าวถามออกไปโดยตรง
       
          “ แน่นอนเมื่อมองกลับไปยังสถานการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เหล่าศิษย์ใหม่ที่ต่างพากันเข้าร่วม[พรรค เฉินยู้]ของพวกเจ้าอย่างรวดเร็วราวกับไฟราวทุ่ง อีกทั้งพรรคอื่น ๆ ใน 10 ยอดหุบเขาก็ยังไม่มีใครทราบถึงตัวตนพรรคที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่อย่างอย่างห้าวหาญที่[ ยอดหุบเขา เสียดนภา ]! ” จิงเยี้ยนหนาน กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าและน้ำเสียงที่ราวเหมือนกับเย้ยหยัน
       
เหยียนชือหลิง มีใบหน้าถอดสีในทันทีเพราะการเป็นที่สนใจมากเกินไปตั้งแต่ในช่วงต้น นั่นนับเป็นเรื่องที่ไม่ดีสำหรับเขาในฐานะผู้นำของ[พรรค เฉินยู้]
       
          “ เจ้ามิได้เป็นคนแรกที่กระทำการเช่นนี้ ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีศิษย์ใหม่ที่ปฏิบัติเยี่ยงพวกเจ้ามาก่อน แต่หลังจากที่มันผู้นั้นได้ก้าวขึ้นเป็นศิษย์ที่แท้จริง พรรคของพวกมันก็ได้ดึงดูดเหล่ามหาอำนาจจำนวนมาก จนทำให้พรรคของพวกมันนั้นได้รับความเสียหายและยุบพรรคไปอย่างน่าสังเวช! ” จิงเยี้ยนหนาน กล่าวออกมาพร้อมจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยความรู้สึกที่สนใจเป็นพิเศษ เพราะเขาต้องการที่จะรู้ว่า เย่ชีเหวิน จะมีปฏิกิริยาเช่นไรเมื่อได้ยินเช่นนี้
       
          “ กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จะเอาชนะผู้รุกราน! ” เย่ชีเหวิน กล่าวออกมาในลักษณะที่ไม่แยแส
       
          “ ฮะฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ากล่าวกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จะเอาชนะผู้รุกราน! ” จิงเยี้ยนหนาน อุทานออกมาพร้อมกล่าวว่า “ ดีศิษย์ใหม่ในปีนี้ช่างแตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา หากแต่ความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งของเจ้ามันยังคงไม่เพียงพอ แม้ว่าข้าจะช่วยเหลือเจ้าและทำให้พวกมันนั้นล่าถอยออกไปได้แต่มันก็มิได้อยู่นานนัก พวกมันจะต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอนและเมื่อถึงเวลานั้นสิ่งเดียวที่จะช่วยเหลือพวกเจ้าได้ก็คือตัวของพวกเจ้าเอง. ”
       
          “ เพียงแค่ผู้อาวุโสจิง เข้าช่วยเหลือพวกเราแม้เพียงครั้งเดียวนั่นก็มากเกินพอแล้ว พวกเรารู้สึกขอบคุณท่านมาก ” เหยียนชือหลิง กล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
       
ในยามนี้ เย่ชีเหวิน เข้าใจดีถึงความคิดของเหล่าศิษย์ผู้อาวุโสจากพรรคอื่น ๆ ที่ต้องการขู่เข็ญเหล่าศิษย์ใหม่ให้เข้าร่วมพรรคของตนโดยการร่วมมือกันโค่นล้ม[พรรค เฉินยู้] เพื่อเป็นการส่งคำเตือนไปยังเหล่าบรรดาศิษย์ใหม่ที่ต้องการความเป็นอยู่อย่างอิสรภาพและสร้างพรรคของตนขึ้นมา แต่ถ้าหากพรรคของผู้ใดก็ตามที่มีความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น พรรคของมันผู้นั้นจะต้องได้รับผลกระทบร้ายแรงเฉกเช่นเดียวกับ[พรรค เฉินยู้]ที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้
       
เพราะสำนักยี่หยวนไม่สมควรที่จะต้องสูญเสียทรัพยากรไปให้กับเหล่าพรรคที่พึ่งก่อตั้งใหม่โดยเหล่าศิษย์ใหม่เช่นนี้
       
จิงเยี้ยนหนาน มิได้คิดที่จะอยู่นานนักหลังจากนั้นเขาก็ได้เดินทางกลับ เหยียนชือหลิง ก้มหน้าพร้อมรอยยิ้มอันขมขื่น เพราะเขามิได้คาดคิดว่าเพียงแค่การก่อตั้งพรรคใหม่ มันจะเป็นเรื่องยุ่งยากถึงเพียงนี้อีกทั้งยังต้องรบกวนศิษย์ผู้อาวุโสให้ช่วยเหลือในฐานะที่เขาเป็นผู้นำของ[พรรค เฉินยู้]แล้วมันช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนัก ตราบใดที่เหล่าศิษย์ผู้อาวุโสยังไม่เลิกคิดที่จะว่างมือพรรคของพวกเขาก็คงต้องยุบตัวลงในสักวัน ถ้าหากมีเวลามากกว่านี้อีกเสียอย่างน้อยสัก 10 ปี เขาเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถของเขาในตอนนั้นจะสามารถก่อตั้งพรรคขึ้นได้อย่างง่ายโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้น
       
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ ทั้งที่[พรรค เฉินยู้]พึ่งจะก่อตั้งได้ไม่นาน แล้วจะให้พวกเขาทำใจยุบลงได้เช่นไร
       
          “ พี่ชายเย่ แม้ในครานี้ศิษย์พี่จิงจะได้ให้ความช่วยเหลือ แต่พวกมันก็ได้หยิบยกเงื่อนไขขึ้นมา ในอีก 1 เดือนให้หลังพวกเราคนใดคนหนึ่งจะต้องประลองฝีมือกับรองผู้บัญชาการฝ่ายหลักของ[พรรค ฟู๋ตี่]นามว่า โมฮัน ตราบใดที่เราสามารถเอาชนะเขาได้ในภายภาคหน้าจะไม่มีใครกล้ายุ่งกับ[พรรค เฉินยู้]ของพวกเรา แต่ถ้าหากเราพ่ายแพ้เราจะต้องยุบ[พรรค เฉินยู้]ลงในทันที! ” เหยียนชือหลิง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้นชั่งใจ
       
          “ รู้อะไรเกี่ยวกับชายที่ชื่อ โมฮัน นี่บ้างหรือไม่? ” เย่ชีเหวิน กล่าวถาม เพราะเขามิได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับ[พรรค ฟู๋ตี่] ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยศิษย์ฝ่ายหลัก ซึ่งแน่นอนว่าการจะเป็นรองผู้บัญชาการฝ่ายหลักของพรรคได้นั้นจะต้องมิใช่ศิษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน
       
          “ เท่าที่ข้ารู้ โมฮัน ได้เข้าร่วมสำนักหลักก่อนพวกเรา 2 รุ่นนั่นก็เท่ากับ 6 ปี ซึ่งในช่วงระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาเขาได้กลายเป็นศิษย์ใหม่ที่โดดเด่นและเจริดจรัสมากที่สุดในหมู่ศิษย์ใหม่และด้วยระยะเวลาสั่น ๆ เพียง 6 ปี เขาก็ได้ไต้เต้าจนไปถึง[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และกลายเป็น 1 ในศิษย์ที่ถูกเลือกในหมู่ศิษย์ฝ่ายใน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก [พรรค ฟู๋ตี่]จึงได้มีข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษให้แต่งตั้งเขาขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการฝ่ายหลัก ทั้งที่เขายังคงเป็นเพียงแค่ศิษย์ฝ่ายใน ในหมู่รองผู้บัญชาการด้วยกันพวกขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์ฝ่ายหลักด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ” เหยียนชือหลิง กล่าวอธิบาย
       
ผู้ที่มากไปด้วยความสามารถและพรสวรรค์ มักจะได้รับการปฏิบัติที่ดีเสมอ อย่างเช่นในกรณีของ โมฮัน เป็นต้น
       
          “ ข้าไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้! ” เหยียนชือหลิง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง หากเขามีเวลาเสียสัก 2 ปี เขามีความเชื่อมั่นว่าหากถึงเวลานั้นความแข็งแกร่งของเขาย่อมไม่ด้อยไปกว่า โมฮัน แต่ช่องว่างนั้นคือระยะเวลา
       
          “ ท่านปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า อีก 1 เดือนให้หลังข้าจะเป็นคนจัดการกับ โมฮัน เอง ” เย่ชีเหวิน กล่าว
       
          “ นี่ท่าน… ” เหยียนชือหลิง จับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยสายตาที่มิอยากจะเชื่อ แม้ว่าความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นจะอยู่ในระดับที่ล้ำลึก และเขาได้พิสูจน์ตัวเองต่อผู้คนจำนวนมากแล้วว่าเขานั้นคืออัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ศิษย์ใหม่ หากแต่ เหยียนชือหลิง ก็ยังมิอาจทำใจเชื่อได้ลงว่า เย่ชีเหวิน นั้นจริงจะสามารถเอาชนะ โมฮัน ได้
       
          “ จงเชื่อมั่นข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง ” เย่ชีเหวิน กล่าวพร้อมคิดกับตนเองว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถจัดการได้โดยง่าย แต่โชคดีที่ ฮวาเหมิงฮั่น และ จิงเยี้ยนหนาน ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเป็นสื่อกลางให้กับพวกเขาทั้งสองฝ่าย มันอาจจะกล่าวได้ว่าพวกเขาได้ช่วยเหลือลดปัญหาให้กับ เย่ชีเหวิน ไว้ได้มากเลยที่เดี่ยว เพราะตราบใดที่ เย่ชีเหวิน สามารถเอาชนะชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอย่าง โมฮัน ลงได้[พรรค เฉินยู้]ของพวกเขาก็จะได้รับการยอมรับและไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมาลาวีอีก ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาจะมีเวลามากพอในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างมิมีสิ่งใดมาก่อกวน
       
หากการต่อสู้ระหว่างเขา และ โมฮัน ได้เริ่มขึ้นในขณะนี้แน่นอนว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะชนะ แต่ทว่าการต่อสู้ของพวกเขาจะเริ่มขึ้นอีกใน 1 เดือนหลังซึ่งสถานการณ์ได้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ขอเพียงแค่มีเวลาเสียสัก 1 เดือนการจะเอาชนะชายที่ชื่อ โมฮัน นั้นย่อมไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา ด้วยตัวของเขาในตอนนี้ที่อยู่ใน[ ระดับขุดสูงสุดขั้นที่ 2 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในยามนี้จะถือได้ว่าเป็นที่สุดในเหล่าบรรดาศิษย์ใหม่ หากแต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่เขาจะสามารถเผชิญหน้ากับ โมฮัน ได้
       
แต่ถ้าหากเขาใช้เม็ด[ หยวนจินตัน ]ความแข็งแรงของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั่น และทำให้เขาสามารถตัดผ่านไปยัง[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้โดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าความแข็งแกร่งของเขาในยามนั้นจะสามารถเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย และการจะจัดการผู้เชี่ยวชาญอย่าง โมฮัน ย่อมมิใช่เรื่องยากสำหรับเขา
       
แต่ถึงแม้ว่าเม็ด[ หยวนจินตัน ]จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใช้อย่างก้าวกระโดด แต่มันก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการดูดซับที่นานมาก โชคดีที่เขามีเวลาถึง 1 เดือนในการเตรียมพร้อมก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น
       
          “ ในอีก 1 เดือนหลังจากนี้ ข้าจะเป็นคนจัดการ โมฮัน เอง ” เย่ชีเหวิน กล่าว
       
เหยียนชือหลิง มีใบหน้าที่งุนงงกับท่าทางที่มั่นใจของ เย่ชีเหวิน เพราะแม้ด้วยความช่วยเหลือของเม็ด[ หยวนจินตัน ]ในแง่มุมของเขา ความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ก็ไม่มีทางที่จะเทียบเท่าได้กับ โมฮัน อย่างแน่นอน
       
เหยียนชือหลิง มิอาจรู้ได้เลยว่า เย่ชีเหวิน นั้นมีความก้าวหน้ามากแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่า เย่ชีเหวิน มิต้องการที่จะอธิบายความลับของเขา เขาจึงได้หันหลังและเดินกลับไปยังลานที่พักของตนเพื่อเริ่มต้นการปิดประตูบ่มเพาะพลัง
       
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ

B1 : เอาว่ะงานนี้มีเหลือง
B2 : 555555 ขอแบบหมี่เกี้ยวหมูแดง พิเศษ เพิ่มเส้นเยอะ ๆ
B1 : ผัดกระเพาะรวมมิตรใส่ไข่สองใบ เจียว กับ ดาวไม่สุข
B3 : นี่พวก[ม.]มาพากย์หรือจะมาสั่งข้าวเนี่ยไอ้[ส.]
B4 : โคตรหิว ก๋วยเตี๋ยวเรือพิเศษที่ครับ
B3 : เตี๋ยวเรือพ่อง!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

9 ความคิดเห็น:

  1. ได้เวลาปิดด่านฝึกตนสินะ

    ตอบลบ
  2. ขอ ข้าวไข่เจียวใส่พริก เยอะๆ นะ...

    ตอบลบ
  3. ไหงระดับลดมาอยู่ที่ก่อเกิดระดับที่2อีกแล้วละเนี่ย

    ตอบลบ
  4. ขอข้าวมันไก่ ใส่ผัดกระเพา ใส่ไข่ดาวสามใบ555

    ตอบลบ
  5. กุงงตอนทดสอบก็อัพก่อเกิด2ทีนึงละ สู้กับลิงมึงยังอัพก่อเกิด2 อีก ถ้าอัพยาทีนี้มึงจะเป็น2 รึ 3 ละทีนี้ไอ้[ส.]

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม