บทที่ 113 - ข้าขอเดิมพัน 5000 ศิลาวิญญาณระดับกลางกับชัยชนะของ เย่ชีเหวิน!

1 เดือนผ่านไปเพียงพริบตา ในยามนี้[พรรค เฉินยู้]ได้กลายที่ดึงดูดความสนใจต่อเหล่าศิษย์มากมายของ[ ยอดหุบเขา เสียดนภา ] กระทั้งเหล่าบุคคลระดับสูงบางพวกก็ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
       
และในตอนนี้ชื่อของ เย่ชีเหวิน ก็มิได้กลายเป็นที่รู้จักกันในหมู่ศิษย์ใหม่อีกต่อไป เหล่าผู้คนจำนวนมากที่ได้มา ณ ที่แห่งนี้ต่างรู้จักชื่อของเขา จากข่าวลือที่พวกเขาได้รับว่ามีศิษย์ใหม่ได้ก่อตั้งพรรคใหม่ขึ้นในนามของ[พรรค เฉินยู้] และการประลองในครั้งนี้ก็ถูกจัดขึ้นภายใต้ผลประโยชน์ของ[พรรค เฉินยู้]ด้วยเช่นกัน ชื่อนี้จึงได้ถูกตราตึงอยู่ภายในจิตใจของผู้คนจำนวนมาก
       
แต่ส่วนใหญ่พวกเขาก็มิได้มองในแง่ดีต่อพัฒนาการของพรรค หลังจากที่พวกเขาได้รับรู้ว่า เย่ชีเหวิน กำลังจะไปเผชิญหน้ากับ โมฮัน พวกเขาในที่นี้ต่างไม่มีใครคาดคิดถึงชัยชนะของ เย่ชีเหวิน หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ยังคงเป็นเพียงแค่ศิษย์ใหม่ ในขณะที่ โมฮัน ได้ถูกยอมรับว่าเป็นศิษย์ที่มากไปด้วยชื่อเสียงผู้หนึ่ง อีกทั้งเขายังได้ถูกรับเลือกให้กลายเป็นศิษย์ที่ถูกเลือก ในหลายร้อยนับพันของศิษย์ฝ่ายใน มีเพียงแค่ 100 คนเท่านั้นที่ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นศิษย์ที่ถูกเลือก ฉะนั้นแล้วการที่ โมฮัน ได้ติดเป็น 1 ในศิษย์ที่ถูกเลือกมันก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
       
นี่ถือเป็นเป้าหมายหลักของศิษย์ฝ่ายใน หลังจากที่พวกเขาสามารถกลายเป็น 1 ในไม่กี่ศิษย์ที่ถูกเลือกได้แล้ว พวกเขาจะได้รับทรัพยากรจำนวนมากจากสำนัก เพราะเหล่าศิษย์ที่มากไปด้วยความสามารถมักจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่และทรัพยากรที่เพิ่มมากขึ้น กระทั้งการเลือกปฏิบัติก็ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับเหล่าศิษย์สามัญ และแน่นอนว่าพวกเขาส่วนใหญ่ก็มิได้มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสามารถไต่เต้าไปถึงจุดนั้นได้
       
เพราะการที่พวกเขาจะสามารถกลายเป็น 1 ในหมู่ศิษย์ที่ถูกเลือกนับ 100 พวกเขาจำเป็นที่จะแข่งขันกับเหล่าศิษย์ฝ่ายในด้วยกันนับหลายพันคน ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงการแข่งขันอันเข้มข้นนี้ได้ แม้ว่า โมฮัน จะได้ถูกรับเลือกว่าเป็น 1 ในศิษย์ที่ถูกเลือกแต่เขาก็ยังคงถือได้ว่าอยู่ระดับที่ต่ำสุด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มิอาจปฏิเสธความจริงได้ว่าเขานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
       
ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายคนที่ได้เดิมพันชัยชนะข้าง โมฮัน เพราะด้วยความสามารถของเขาแล้ว มันคงเป็นเพียงแค่เรื่องเวลาเท่านั้นที่เขาจะสามารถไต่เต้าไปยังตำแหน่งที่สูงขึ้นได้มากกว่านี้ในหมู่ศิษย์ที่ถูกเลือก
       
แต่แล้ว เย่ชีเหวิน นั้นเป็นใคร? เขาเป็นเพียงแค่ศิษย์ใหม่ที่ได้เข้าร่วมยังสำนักหลักภายในปีนี้เท่านั้น แม้ว่าเขาจะถูกยอมรับว่ามีความสามารถที่พิเศษเหลือล้นในหมู่ศิษย์ใหม่ด้วยกัน หากแต่ระยะเวลาในการบ่มเพาะพลังของเขานั้นยังคงอยู่ในระดับที่สั่นมาก หากการต่อสู้ในครั้งนี้เกิดขึ้นในอีกกี่ปีให้หลังพวกเขาคงไม่สามารถคาดเดาผลของการต่อสู้ในครั้งนี้ได้เป็นแน่ว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายชนะ หากแต่ในยามนี้มันต่างกันไม่มีผู้ใดเลยที่กล้าพอจะวางเดิมพันข้าง เย่ชีเหวิน
       
เมื่อ เย่ชีเหวิน พ่ายแพ้พรรคที่พึ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่อย่าง[พรรค เฉินยู้] จะถูกยุบในทันทีตามเงื่อนไขการประลอง
       
ในที่สุดวันแห่งการต่อสู้ก็ได้มาถึง มันได้ถูกจัดตั้งขึ้น ณ ลานประลองความเป็นและความตายของ[ ยอดหุบเขา เสียดนภา ] เหล่าฝูงชนมากมายต่างลายล้อมทั่วรอบเวทีประลอง ตามกฎของสำนักยี่หยวนการฆ่าศิษย์ในสำนักเดียวกันนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม แต่มันถือเป็นข้อยกเว้นในลานประลองความเป็นและความตายแม้ว่าศิษย์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตกตายไปในระหว่างการต่อสู้นั่นก็จะถือว่าไม่ผิดกฎของสำนัก เพราะลานประลองแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อสะสางหนีแค้นและความเกลียดชังของเหล่าศิษย์ หากทั้งสองฝ่ายเต็มใจที่จะเข้าร่วมชีวิตของพวกเขาก็จะถูกผูกมัดและขึ้นอยู่กับความต้องการของอีกฝ่าย แม้ว่าจะมีผู้ใดตายนั่นก็ไม่ถือว่าเป็นการผิดกฎ
       
เพราะสำนักยี่หยวนไม่ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความเป็นจริงที่ว่าโลกแห่งศิลปะการต่อสู้นั้นต่างเต็มไปด้วยไฟแค้นและความเกลียดชังที่ไม่สามารถหลีกหนีได้พ้น มันจะเป็นการดีต่อพวกเขาเสียมากกว่าหากจะต้องตายก็จงตายอย่างเป็นธรรมในการต่อสู้ภายในลานประลอง ดีกว่าที่พวกเขาจะต้องตกตายไปอย่างไม่เป็นธรรมจากการถูกแทงจากด้านหลัง
       
ทุกวันนี้เหล่าศิษย์ต่างมาสะสางหนี้แค้นและความคับข้องใจภายในลานประลองความเป็นและความตายแห่งนี้ แต่ทว่าการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้มันได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก เพราะพวกเขาต้องการที่จะดูการประลองระหว่างศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในหมู่ศิษย์ใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากับศิษย์ใหม่ที่โดดเด่นมากที่สุดในปีนี้ อีกทั้งยังมีพรรคที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นมาใหม่เป็นเดิมพัน มันเป็นระยะเวลานานแล้วที่มิเคยมีการประลองเช่นนี้เกิดขึ้น และด้วยการที่มันเป็นการประลองที่หาดูได้ยากพวกเขาจึงมีความรู้สึกสนใจมันเป็นพิเศษและรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เวลาแห่งการประลองใกล้เข้ามา
       
          “ เร่เข้ามาครับ เร่เข้ามา การต่อสู้จะเริ่มในอีกไม่ช้า เดิมพันข้าง เย่ชีเหวิน ชนะต่อ 10 เท่า , เดิมพันข้าง โมฮัน ชนะต่อ 0.5 เท่า! ” ศิษย์ผู้หนึ่งได้เปิดโตะและตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง ศิษย์มากหน้าหลายตาเริ่มวางเดิมพันกับการต่อสู้ในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่ได้วางเดิมพันข้าง โมฮัน เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า เย่ชีเหวิน จะสามารถเอาชนะ โมฮั่น ได้จึงไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยงวางพัน แม้ว่ามันจะมีค่าวางเดิมพันต่อสูงถึง 10 เท่าเลยก็ตาม แต่นั่นก็มิได้แตกต่างอะไรจากการเดิมพันที่หวังพึ่งปาฏิหาริย์
       
          “ หนอยบ้าบอสิ้นดี ไอ้เจ้าลูกหมูพวกนี้มันกล้าที่จะดูหมิ่นน้องเล็กของพวกเรา! ” เสียงผู้หญิงดังออกมาจากฝูงชน ผู้ที่ยินอยู่ท่ามกลางฝูงชนนั้นคือหญิงสาวที่มีรูปร่างอันงดงามที่ราวเหมือนกับอายุเพียงแค่ 20 ปี และด้านข้างของนางคือชายหนุ่มที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาอายุของเขามั่นเหมาะที่จะอยู่ราว 23 – 24 ปี
       
พวกเขาคือ เย่หรูเชว่ และ เย่ฟง สองพี่น้องคนโตตระกูลเย่ ซึ่งเป็นพี่ใหญ่และพี่หญิงของ เย่ชีเหวิน ในวันนี้มันไม่ได้มีเพียงแค่คนจาก[ ยอดหุบเขา เสียดนภา ]เท่านั้นที่ได้มาดูการประลองที่ลานความเป็นและความตายในครั้งนี้ แต่มันยังมีผู้คนอีกจำนวนมากจากทั่วทั้ง 9 ยอดหุบเขาหลัก ด้วยความที่ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการมาจะเชยชมกับการต่อสู้ในครั้ง
       
ซึ่ง เย่หรูเชว่ และ เย่ฟง เองก็เป็น 1 ในนั้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องการที่จะมาดูการต่อสู้ของน้องชายของพวกเขา นอกจากนี้เหล่าศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]เองก็มาร่วมให้กำลังใจกับ เย่ชีเหวิน ในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากที่พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจาก เย่ชีเหวิน เอาไว้แล้วนับหลายครา มีหรือที่พวกเขาจะไม่มาเชยชมสำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้
       
อีกทั้งยังไม่ได้มีเพียงแค่ศิษย์จาก[สำนักย่อยหุบเขาฉิงฟง]เท่านั้น แม้แต่ศิษย์จากสำนักย่อยอื่น ๆ ก็มาดูการต่อสู้ในครั้งนี้ของ เย่ชีเหวิน ด้วยเช่นกัน เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้มันไม่ได้เป็นขึ้นตรงต่อผลประโยชน์ของ[พรรค เฉินยู้]อีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นการวางเดิมพันศักดิ์ศรีของเหล่าศิษย์ทั้งหมด อีกทั้งเขายังเป็นตัวแทนในการต่อต้านการปกครองที่เด็ดขาดและการกดขี่ข่มเหงจากเหล่าศิษย์ผู้อาวุโส ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ลานประลองด้วยความรู้สึกสนอกสนใจต่อผลการต่อสู้ในครั้งนี้
       
ใบหน้าของ เย่หรูเชว่ ต่างแดงกล่ำด้วยความรู้สึกโกรธในขณะที่ เย่ฟง ก้มหน้าพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่น แน่นอนว่าการประลองในครั้งนี้ย่อมไม่มีผู้ใดคิดที่จะวางเดิมพันข้าง เย่ชีเหวิน ด้วยเหตุผลที่พวกเขานั้นต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ หากแต่นั่นมิใช่สำหรับ เย่หรูเชว่ เพราะนางนั้นมีความเชื่อมั่นในตัวของน้องชายคนเล็กของนางมาอย่างแรงกล้าว่าผู้ที่จะชนะศึกในครั้งนี้ย่อมมั่นเหมาะที่จะเป็นน้องชายคนเล็กของนางอย่างแน่นอน
       
และแน่นอนว่าผู้ซึ่งยืนอยู่ 2 ข้างพี่น้องผู้นี้ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เหยียนชือหลิง และ จางซุนยวี้หยิน ที่สัมพันธไมตรีอันดีงามกับ เย่ชีเหวิน พวกเขาจึงได้มาดูผลของการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย
       
          “ ศิษย์ผู้อาวุโสเหล่านี้แท้จริงแล้วพวกมันเห่อมากเกินไป! ” เหยียนชือหลิง กระซิบด้วยน้ำเสียงที่แลดูโกรธเกรี้ยว
       
เหยียนชือหลิง ได้เดินขึ้นไปยังแถวหน้าและวางเงินเดิมพันของเขา “ ข้าวางเดินพัน 300 ศิลาวิญญาณระดับกลางกับชัยชนะของ เย่ชีเหวิน! ”
       
เหยียนชือหลิง ขบฟันกล่าวเพราะ เย่ชีเหวิน ในยามนี้กำลังต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของเหล่าศิษย์และพรรคของพวกเขา ฉะนั้นแล้วนี่จึงเป็นสิ่งเดียวที่เขาพอจะสนับสนุน เย่ชีเหวิน ได้
       
          “ ข้าวางเดิมพัน 400! ” อีกเสียงหนึ่งก็ได้ดังจากด้านหลังของ เหยียนชือหลิง มันคือ เย่ฟง “ กับชัยชนะของ เย่ชีเหวิน ”
       
          “ ข้าวางเดิมพัน 100! ” เย่หรูเชว่ กล่าวพร้อมขบฟันของนาง
       
          “ ข้าวางเดิมพัน 30! ”
       
          “ ข้าวางเดิมพัน 10! ”
       
เห็นเช่นนี้เหล่าศิษย์ใหม่จำนวนมากต่างก็ยังได้วางเดิมพันข้าง เย่ชีเหวิน อยู่เป็นจำนวนมากด้วยความชอบส่วนตัวที่มีต่อ เย่ชีเหวิน
       
แม้แต่ผู้ที่รับผิดชอบต่อการวางเงินเดิมพันในครั้งนี้ก็ยังมีลักษณะที่ตกตะลึงอยู่เล็กน้อย เพราะเขามิได้คาดคิดเลยว่าจะมีผู้คนที่ชอบและวางเงินเดิมพันต่อ เย่ชีเหวิน มากมายถึงเพียงนี้ เขามิสามารถเข้าใจได้จริง ๆ ว่าเหตุใดเหล่าศิษย์ใหม่ถึงได้ตัดสินใจเช่นนั้นทั้งทีชัยชนะของ เย่ชีเหวิน ในครั้งนี้ไม่มีวี่แววให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
       
นี่พวกมันมิรู้อะไรเลยเช่นนั้นหรือ แม้มันจะเป็นเพียงแค่การวางเดิมพันเพียงแค่ 10 หากชนะมันย่อมคุ้มค้า แต่โอกาสที่ เย่ชีเหวิน จะเป็นฝ่ายชนะได้นั้นแทบไม่มี แล้วสิ่งที่พวกมันยังกล้าที่จะวางเงินเดิมพันหาก เย่ชีเหวิน เป็นฝ่ายพ่ายแพ้พวกมันจำเป็นที่จะต้องจ่ายถึง 10 เท่า เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วพวกกันจะมีปัญญาจ่ายเช่นนั้นหรือ?
       
อะไรคือสิ่งที่อยู่ภายในหัวสมองของพวกมันกัน!
       
เหล่าศิษย์แอบหัวเราะ ด้วยรูปลักษณ์ที่กระตือรือร้นที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาได้รับ[ ศิลาวิญญาณระดับกลาง ]จากพวกศิษย์ใหม่ ที่วางเดิมพันข้าง เย่ชีเหวิน มากกว่า 10 คน เมื่อมองไปยังใบหน้าของเหล่าบุคคลที่โง่เขลาเช่นนี้แล้วพวกเขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ไม่ว่ามันผู้นั้นจะโง่มากแค่ไหนมันก็ยังคงเลือกข้างที่มีโอกาสชนะมากกว่า แม้ว่าข้างวางเดิมพันมันจะเป็นต่อเพียงแค่ 0.5 ตาม เพียงแค่คนโง่ถึงโง่มากเท่านั้นที่วางเงินเดิมพันโดยหวังพึ่งแค่โชคแทนที่จะเลือกเส้นทาที่มันปลอดภัยมากกว่านี้
       
          “ ยังมีใครต้องการที่จะวางเงินเดิมพันอยู่อีกหรือไม่? การต่อสู้จะเริ่มขึ้นแล้วในไม่ช้าs]y’0kdouh! ” ศิษย์ผู้หนึ่งได้ตะโกนขึ้น
       
          “ ข้าวางเดิมพัน 5,000 ศิลาวิญญาณระดับกลางกับชัยชนะของ เย่ชีเหวิน! ”
       
รูปร่างผอมเพรียวในชุดคลุมสีฟ้าได้ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูทางเข้า
       
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
       
B1 : เดี้ยว ๆ ไอ้[ส.]ปากดี>>> เย่ชีเหวิน เขาเป็นใคร? >>>เดี้ยว[ม.]รู้เลยไอ้[ส.]นะรอจบการประลองก่อนเถอะ[ม.]จะมีปัญญาจ่ายคนโง่ ๆ แถวนี้รึป่าว
B2 : ว่าแต่คนที่พึ่งปรากฏตัวนี้ใคร ไม่บอกเพศด้วย วางเดิมพันต้อง 5000 เชี่ยวนะ
B1 : บางทีอาจเป็น ฮวาเหมิงฮัน ก็ได้
B4 : ไม่หลอกบางทีอาจเป็น จิงเยี้ยนหนาน ไม่ก็ ผู้อาวุโส หลินเจิ่นเทียน ไปเลยอะ
B1 : แหม่เขาก็บอกอยู่ว่าร่างกายผอมบาง หลินเจิ่นก็คงไม่ใช่หลอกมั้ง
B3 : จะใครก็ช่างเถอะนะ แพ้สักที่เถอะ [ก.]อยากเห็น
B1,B2 : ฝันไป

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

5 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม