บทที่ 115 - ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด

โมฮัน เป็นจอมยุทธร่างสูง,อ้วน แต่งกายดูดีและมีรูปลักษณ์ใบหน้าที่น่ากลัว
       
          “ เย่ชีเหวิน อยู่ที่ไหน? เหตุใดมันถึงยังไม่ปรากฏตัว ” โมฮัน ถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
       
          “ ไม่แน่มันอาจกลัวท่านจนไม่กล้าขึ้นลานประลองก็เป็นได้! ” คนของ[พรรค ฟู๋ตี่]ต่างกล่าวหัวเราะเย้ยหยัน
       
          “ ฮะฮ่าฮ่าฮ่า ”
       
คนของ[พรรค ฟู๋ตี่]ได้ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น
       
          “ ข้าไม่เห็นว่ามันจะน่าขันตรงไหน! ” น้ำเสียงที่แลดูนิ่งสงบและชัดเจนดังก้องออกมาจากฝูงชน ขัดกับเสียงหัวเราะของเหล่าบรรดาคนจาก[พรรค ฟู๋ตี่]
       
เย่ชีเหวิน ก้าวเดินออกมาอย่างช้า ๆ และจับจ้องไปที่ โมฮัน ด้วยสายตาที่จริงจัง
       
          “ ดีในที่สุดเจ้าก็มา ข้าก็หลงคิดว่าเจ้าจะหนีจากการประลองครั้งนี้ไปเสียแล้ว! ” โมฮัน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หยาบกราน แม้ว่าในคราแรกเขาจะมิได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ทว่าในยามนี้เขาได้รู้สึกสนใจเล็กน้อยหลังจากที่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันแรงกล้าที่ได้เอ่อล้นมาจากร่างกายของ เย่ชีเหวิน
       
ทันทีที่ เย่ชีเหวิน ได้ก้าวเท้าขึ้นลานประลอง ชั้นบรรยากาศโดยรอบก็ราวเหมือนกับลุกเป็นไฟ เหล่าผู้ชมต่างใจร้อนและกระหายที่จะเห็นการต่อสู้ครั้งนี้โดยเร็ว
       
          “ ท่านรองสั่งสอนไอ้เด็กหยิ่งผยองนั่นให้มันรู้จักกับความจริงบนโลกใบนี้ ว่าความเป็นจริงมันน่ากลัวแค่ไหน! ”
       
          “ ใช่แล้วท่านรองจัดการไอ้เด็กหยิ่งผยองนั่นเสีย! ”
       
เหล่าผู้คนของ[พรรค ฟู๋ตี่]ต่างส่งเสียงเชียร์อันดังลั่นให้กับ โมฮัน
       
โมอัน มิได้ตอบกลับและเขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียเวลาใด ๆ เขาได้พุ่งตัวออกไปในทันทีราวกับลูกศรที่ยิงเข้าใส่ร่างของ เย่ชีเหวิน
       
เย่ชีเหวิน ได้เตรียมพร้อมเพราะเขาไม่ต้องการที่จะเสียท่าเป็นฝ่ายแรก ฝ่าเท้าเหยียบพื้นพร้อมพุ่งตัวออกไปราวเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
       
ณ ใจกลางลานประลองปรากฏสองรูปเงาเข้าห้ำหั่นกันด้วยความรวดเร็วที่ราวเหมือนกับสายฟ้าฟาด ทุกกระปะทะได้ส่งเสียดังกึกก้องราวเหมือนกับลูกอุกกาบาตสองลูกพุ่งชนเข้าใส่กัน ทุกการปะทะยิ่งทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้นพลังปราณของพวกเขาทั้ง 2 ต่างหลอมรวมเข้าด้วยกันจนปะทุ กลายเป็นคลื่นระเบิดพลังปราณที่รุนแรงจนก่อให้เกิดรอยแตกร้าวบนพื้นสนามประลอง
       
          “ ปัง ปัง! ”
       
เสียงการปะทะปรากฏเงาสองร่างกระเด็นถอยกลับออกมา สำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ไม่มีผู้ใดเป็นฝ่ายชนะ
       
ดวงตาของพวกเขาทั้งสองต่างเบิกกว้างด้วยความรู้สึกที่ประหลาดใจโดยเฉพาะ โมฮัน เขาตะลึงงึนงันเพราะมิได้คาดคิดว่า เย่ชีเหวิน จะมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดที่สามารถรับทุกการโจมตีของเขาได้โดยที่มิได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ เย่ชีเหวิน เองก็ยังรู้สึกแปลกใจทั้งทีเขามีความเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถเอาชนะ โมฮัน ได้อย่างง่ายดายด้วยการแลกกระบวนท่ากันก่อนหน้านี้
       
ดูเหมือนว่าในครานี้ความแข็งแกร่งของ โมฮัน นั้นจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ เย่ชีเหวิน ได้คาดการณ์ไว้
       
โมฮัน ได้ดึงหอกยาวสีดำทมิฬออกมาจากแหวนเก็บพื้นที่ของเขา ซึ่งเพียงพริบตาที่หอกได้ปรากฏขึ้นมันก็ได้แพร่กลิ่นอายอันหนาวเหน็บและดูเป็นอันตรายออกมาราวเหมือนกับอสรพิษที่ได้ออกมาจากหลุม ฉับพลันมันได้พุ่งตรงเข้าใส่ เย่ชีเหวิน ในทันทีและในขณะที่มันได้พุ่งตรงเข้ามายังด้านหน้าของเขามันก็ได้ปลดปล่อยรูปแบบของพลังอำนาจเป็นเงาคมหอกนับสิบในด้านหน้าของเขา
       
เย่ชีเหวิน ได้รีบดึงใบมีดยาวออกมาจากด้านหลังของเขาในทันที ในขณะที่ใบมีดยาวได้อยู่ในฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน มันก็ได้ร่ายรำพร้อมปลดปล่อยใบมีดประกายแสงออกมาเข้ารับการโจมตีที่กำลังเข้ามา
       
          “ เพล้ง! ”
       
เสียงแหลมคมเจาะหูจากการปะทะกันของโลหะดังกึกก้องพร้อมประกายไฟที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อปะทะกันแพร่กระจายออกไปทั่วลานประลอง ใบมีดยาวของ เย่ชีเหวิน ชนกันอย่างรุนแรงกับหอกทมิฬของ โมฮัน คลื่นพลังที่ถูกปล่อยออกมานั้นมีเพียงแค่ผู้ที่อยู่ในสนานประลองเท่านั้นจึงจะสามารถสัมผัสได้ คลื่นพลังอำนาจจากการปะทะกันยังคงแพร่ขยายออกมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนถึงชั้นบรรยากาศโดยรอบที่กำลังสั่นเท่า และในเพียงพริบตานั้นเองพวกเขาทั้งสองก็ได้แลกกระบวนท่ากันอย่างรวดเร็วจนแม้แต่สายตาของผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมการประลองก็ยังมิสามารถมองตามการโจมตีของพวกเขาได้ทัน
       
หลังจากที่พวกเขาได้แลกเปลี่ยนกระบวนท่าอยู่ชั่วครู่ พวกเขาทั้งสองก็ได้ถอยหลังกลับออกมานับหลายก้าว
       
          “ พลังของเจ้าถือว่ากล้าแกร่งไม่น้อย แต่เจ้ามันก็ยังคงเป็นเพียงแค่เด็กอมมือ เจ้ามันยังอ่อนต่อโลกนัก! ” โมฮัน กล่าวพร้อมหอกทมิฬในมือที่สั่นเล็กน้อย เฉกเช่นเดียวกับอสรพิษที่พร้อมจะแว้งกัดได้ตลอดเวลา “ สำนักหลักมันก็เปรียบเสมือนดั่งบึงน้ำลึก มันมิใช่สถานที่ที่ปลามาใหม่เช่นเจ้าจะสามารถออกหาอาหารได้ตามที่เจ้าต้องการ! ”
       
          “ ไร้สาระแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเปรียบเสมือนเป็นดั่งบึงน้ำลึก ข้าก็จะพยายามหาอาหารให้มากกว่าผู้ใด! ” เย่ชีเหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
       
          “ หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็อย่าหาว่าข้ามิเตือนเจ้า! ” โมฮัน ตะโกนกล่าวด้วยน้ำเสียงดังกึกก้อง กลิ่นอายอันเกรี้ยวกราดของผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้ไหลบ่าออกมาจากร่างกายและปกคลุมไปทั่วทั้งลานประลอง
       
เย่ชีเหวิน เองก็ไม่น้อยหน้า ฉับพลันเขาได้รีดเร้นพลังปราณที่เท่าเทียมกันออกมา แต่ดูเหมือนว่ากลิ่นอายของเขาจะดูรุนแรงกว่าเล็กน้อยและทันทีที่มันได้พวยพุ่งออกมา มันก็ได้ปกคลุมไปทั่วลานประลองอย่างสมบูรณ์
       
ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เย่ชีเหวิน มิใช้เวลาไปอย่างสูญเปล่า หลังจากที่เขาได้ใช้[ หยวนจินตัน ]เพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะพลังในระยะเวลาอันสั่นจน เย่ชีเหวิน สามารถขึ้นมาถึงเป็น[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 3 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และเปลี่ยน[ พลังปราณก่อตั้ง ]ภายในร่างให้กลายเป็น[ พลังปราณก่อเกิด ] 100% ซึ่งมันก็ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับเขาเป็นอย่างมาก
       
นอกจากนี้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เขายังได้ฝึกฝนทุกระดับขั้นของเคล็ดวิชา[ ย่างก้าวทูตสวรรค์ ] ไปจนถึง[ ดินแดนที่ 4 ขั้นสูงสุด ] อีกทั้งเขายังได้รับฝึกฝนเคล็ดวิชาใบมีด[ ตัดจันทร์เพ็ญ ]มาจนถึง[ ดินแดนที่ 4 ขั้นสูงสุด ]ด้วยเช่นกัน ซึ่งการที่เขาสามารถฝึกฝนมันมาจนได้ถึงใน[ ดินแดนที่ 4 ขั้นสูงสุด ]นี้เองจึงทำให้เขาสามารถบรรลุถึงแก่นแท้และท่าร่ายทั้งหมดของเคล็ดวิชา[ ตัดจันทร์หนาว ]
       
และเคล็ดวิชาลับที่ถือได้ว่าฝึกฝนได้ยากที่สุดสำหรับ เย่ชีเหวิน อย่างเคล็ดวิชา[ ฝ่ามือมังกรขด ]กระบวนท่าแรก[ มังกรแผลงกาย ]ก็ยังได้รับการฝึกฝนแล้วมาจนถึงใน[ ดินแดนที่ 4 ขั้นสูงสุด ]
       
และเคล็ดวิชาอื่น ๆ ของ เย่ชีเหวิน ก็ได้รับการฝึกฝนแล้วจนถึงในระดับที่ห่างไกลเว้นเสียแต่เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ]ที่ประสบความสำเร็จและก้าวหน้าขึ้นมายังระดับขั้นที่ 2 ในยามนี้มันได้ถูกฝึกฝนมาจนถึงแค่ใน[ ดินแดนที่ 3 ขั้นเชี่ยวชาญ ]แล้ว นอกจากนั้นเคล็ดวิชาอื่น ๆ ก็ได้ถูกพัฒนาไปแล้วถึง[ ดินแดนที่ 4 ขั้นสูงสุด ]หมดทั้งสิ้น
       
แต่หลังจากที่เคล็ดวิชา[ กายาทรราช ]ขั้นที่ 2 บรรลุไปถึง[ ดินแดนที่ 3 ขั้นเชี่ยวชาญ ]ความแข็งแรงของ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้ก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไปถึงความแข็งแกร่งระดับขั้น[ 99 มังกร ] ซึ่งถือได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งสูงสุดของผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และความแข็งแกร่งระดับขั้น[ 100 มังกร ] ก็เทียบเท่าได้กับความแข็งแกร่งสูงสุดของผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด ]
       
โดยเพียงอาศัยพลังอำนาจลึกลับของเคล็ดวิชา[ กายาทรราช ] ก็สามารถทำให้ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้บรรลุความแข็งแกร่งที่เทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และมีความแข็งแกร่งในระดับขั้น[ 100 มังกร ]
       
[ ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด ]จะถือได้ว่าอยู่ในระดับที่เหนือกว่า[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] ด้วยจอมยุทธที่เปลี่ยนแปลง[ พลังปราณก่อตั้ง ]เป็น[ พลังปราณก่อเกิด ] 100% ซึ่งตามปกติพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]และมีความแข็งแกร่งที่อยู่ในระดับขั้น[ 99 มังกร ] แม้ 100 และ 99 จะแตกต่างกันเพียงแค่ 1 ระดับขั้น แต่มันก็ถือได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นกันได้อย่างชัดเจนและมีการแสดงผลที่แตกต่างกันมาก
       
ฉะนั้นแล้วผู้ที่อยู่ใน[ ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด ]จึงมีความแข็งแกร่งกว่ามากเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ] และความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้ก็สามารถต่อสู้ได้กับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ใน[ ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ โมฮัน ยังคงเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]
       
ณ ลานประลองทั้งใบมีดยาวและหอกทมิฬต่างปลดปล่อยประกายแสงแพรวพราวออกมาแสงจ้าเจริดจรัสปกคลุมไปทั่วลานประลอง ฝุ่นตลบอบอวนบังเกิดเป็นลมพายุรุนแรง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปสองรูปร่างที่กำลังจะเข้าปะทะกันโดยไม่กระพริบตา
       
          “ ตึม! ”
       
พวกเขาทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อให้เกินการไหลเวียนของพลังปราณที่น่ากลัว คลื่นพลังระเบิดออกมาจากอาวุธของพวกเขา ซึ่งคล้ายดั่งรูปลักษณ์ของดอกบันที่บานสะพรั่งปกคลุมไปทั่วทั้งลานประลอง และด้วยการระเบิดของคลื่นดอกบัวนี้เองมันได้ส่งผลให้ชั้นบรรยากาศโดยรอบเกิดการสั่นไหวและแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างทั่วทุกทิศทาง
       
          “ ครืด ” ร่างหนึ่งได้ถูกดันกลับจนไปถึงขอบ ลานประลองความเป็นและความตาย รอยแตกลึกได้ถูกสลักเป็นแนวยาวบนเวทีลานประลอง
       
ในขณะที่แรงระเบิดและควันได้จางลง เหล่าผู้ชมที่ได้เห็นภาพบนลานประลองต่างก็ต้องรู้สึกตกใจ เพราะผู้ที่ถูกผลักดันกลับออกมานับหลายก้าวนั้นมิใช่ใครอื่นแต่มันผู้นั้นคือ โมฮัน รองผู้บังคับบัญชาฝ่ายหลักของ[พรรค ฟู๋ตี่]
       
เหล่าผู้คนต่างร้องอุทานเสียงหลง เพราะสิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นมันมิอาจทำใจให้เชื่อลงได้ ภายใต้แรงระเบิดที่รุนแรงผู้ที่ถูกดันให้ถอยกลับออกมาคือ โมฮัน แทนที่มันสมควรจะเป็น เย่ชีเหวิน
       
ทันทีที่ได้เห็นเช่นนั้น ฉินมู้เจ้อ ถึงกับลุกขึ้นยืนในทันทีพร้อมจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน ด้วยสายตาที่เบิกกว้าง ทั้งอาการตื่นตระหนกและความรู้สึกหวาดกลัวก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าจนเห็นได้ชัดพร้อมกล่าวบ่นพึมพำว่า “ ไม่นี่มันเป็นไปไม่ได้ แม้งเป็นเป็นไปไม่ได้ มันไม่ควรที่จะเป็นเช่นนี้ ”

แม้แต่ จิงเยี้ยนหนาน ที่ได้อยู่ด้านข้างของเขาก็ยังต้องรู้สึกประหลาดใจ แม้ว่าในช่วงเวลาก่อนหน้านี้เขาจะได้กล่าวเชยชมและประเมินค่า เย่ชีเหวิน เอาไว้สูง แต่เขาก็มิได้คาดคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งและศักยภาพของ เย่ชีเหวิน ในยามนี้จะมีชัยเหนือไปกว่า โมฮัน แต่ผลลัพธ์ที่มันได้แสดงออกมาเมื่อครู่มันได้ทำให้เขารู้สึกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง
       
และในหมู่ฝูงชนไม่ว่าจะเป็นคนของ[พรรค ฟู๋ตี่]หรือ[พรรค เฉินยู้]พวกเขาต่างก็ได้แสดงอาการออกมาด้วยใบหน้าที่มิอยากจะเชื่อ โดยเฉพาะคนจาก[พรรค เฉินยู้]พวกเขาไม่เคยได้รับรู้เลยว่าแท้จริงแล้ว เย่ชีเหวิน จะมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ว่าพวกเขาได้มีความหวังที่จะปกป้อง[พรรค เฉินยู้]ของพวกเขาเอาไว้แล้วหรอกหรือไม่
       
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
       
B1 : เป็นไงละไอ้[ส.] อึ่ง ทึ่ง งง เลยอะดิ ได้ยังไงมันทำได้ยังไง
B2 : เย่ชีเหวิน เขาเป็นใคร? ก็แค่ศิษย์ใหม่ 5555 เป็นไงละ[ม.]โดนศิษย์ใหม่ตบเข้าให้
B1 : ถึงกับร้องเป็นไปไม่ได้กันเลยที่เดียว
B3 : โคตรน่าอับอาย เสียชาติศิษย์ผู้อาวุโสหมด
B4 : เอาน่าเนี่ยเขาเรียกว่าศรีสัน แต่ขอให้ไม่ต้องเจ็บมาก และ ไม่ถึงตายก็พอนะ
B1,B2 : ฆ่าแม้งเลย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

5 ความคิดเห็น:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม