บทที่ 117 - เทียบเท่าศิษย์เมล็ดพันธุ์

ความเงียบได้แพร่กระจายไปทั่วลานประลอง ความรู้สึกที่ซับซ้อนได้เกาะกินภายในจิตใจของพวกเขา ซึ่งพวกเขาไม่เคยได้คาดคิดเลยว่าผลของการต่อสู้มันจะออกมาเป็นเช่นนี้ อีกทั้งพวกเขายังได้ร่วมเป็นสักขีพยานต่อความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของ เย่ชีเหวิน ที่ทำให้พวกเขาต้องรู้สึกงุนงงไปตาม ๆ กัน
       
ช่วงเวลาก่อนหน้าที่ โมฮัน ได้ประสบความสำเร็จในการบรรลุเขตแดนผสานร่างมนุษย์คมหอก มันก็ได้จุดประกายความหวังของพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่มันกลับถูก เย่ชีเหวิน โต้กลับได้อย่างง่ายดายเพียงพริบตา ซึ่งนั่นมันเป็นสิ่งที่พวกเขามิอาจทำใจยอมรับได้ ทั้งที่ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อยามที่เขาได้ผสานร่างเข้ากับคมหอก หากแต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ผลการต่อสู้ในครั้งนี้มันเปลี่ยนแปลงไปได้และกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปในที่สุด
       
[พรรค เฉินยู้]ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยเหล่าศิษย์ใหม่และอยู่อย่างยากลำบากเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในที่สุดตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลังแกพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้ในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีเหล่าผู้มีขุมพลังอำนาจมากมายมาร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย
       
ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ใหม่จาก[พรรค เฉินยู้]หรือศิษย์ใหม่คนอื่น ๆ ต่างก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข ให้กับชัยชนะที่น่าอัศจรรย์นี่ ในศึกนี้พวกเขาจริงได้รับชัยชนะ
       
          “ อันที่จริง เย่ชีเหวิน ได้มีชัยเหนือ โมฮัน ในขณะที่ทุกคนก็รู้ว่า โมฮัน นั้นเคยตัดอันดับ 1 ในศิษย์เมล็ดพันธุ์มาก่อน แม้ว่าในยามนี้เขาจะมิได้มีรายชื่ออยู่ในอันดับนั่น หากแต่เขาก็ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นกึ่งศิษย์เมล็ดพันธุ์ ”
       
          “ แต่พวกเจ้าก็เห็นว่าในระหว่างการต่อสู้นั่น โมฮัน ได้บรรลุเขตแดนผสานร่างมนุษย์คมหอกที่เขาล่ำลือกัน หากแต่ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับใบมีดของ เย่ชีเหวิน อย่างหมดรูป ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้เทียบเท่ากับศิษย์เมล็ดพันธุ์อย่างนั้นหรอกหรือทั้งที่เขายังเป็นเพียงแค่ศิษย์ใหม่ ”
       
          “ วิธีที่ศิษย์ใหม่มีความสามารถน่ากลัวเช่นนี้? เขาพึ่งได้เข้ามายังภายในสำนักหลักแต่กลับมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับศิษย์เมล็ดพันธุ์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหล่าศิษย์เมล็ดพันธุ์ต่างมีระดับการบ่มเพาะพลังอยู่ที่[ ระดับขั้นเสี้ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ทั้งสิ้น! ”
       
ร่างอันน่าสง่าที่ยืนอยู่ ณ สถานที่อันห่างไกลจากลานประลอง ฉินมู้เจ้อ ได้หันหลังกลับแต่ก่อนที่เขาจะก้าวเดินออกไปเขาได้กล่าวออกมาเบา ๆ ว่า “ ดูเหมือนว่าในเวลานี้ข้าจะเป็นฝ่ายที่คิดผิด ”
       
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เมื่อเขาได้เห็นศักยภาพที่น่าทึ่งของ เย่ชีเหวิน ด้วยตาของเขาเอง เย่ชีเหวิน ศิษย์ใหม่ที่พึ่งด้าวเข้ามายังภายในสำนักหลักด้วยระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน แต่กับมอบความพ่ายแพ้ให้กับผู้เชี่ยวชาญ[ ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ได้อย่างง่ายดาย เมื่อมองไปยังความเป็นจริงที่ไม่น่าเชื่อ โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าในภายภาคหน้าเขาจะต้องเป็นศิษย์ที่แท้จริงได้อย่างแน่นอน และหาก[พรรค ฟู๋ตี่]ของพวกเขายังคงสร้างความลำบากใจให้กับ เย่ชีเหวิน อยู่แน่นอนว่าในภายภาคหน้า[พรรค ฟู๋ตี่]ของพวกเขาอาจต้องประสบปัญหาเข้าก็เป็นได้ ซึ่งยังคงนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เขาได้จัดการประลองในครั้งนี้ขึ้น เพราะมันได้ทำให้เขารู้แล้วว่ายังคงมีบุคคลที่เขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่าง เย่ชีเหวิน อยู่
       
นอกจากนี้ยังไม่ต้องผู้ถึงเกี่ยวกับรองผู้บังคับบัญชาฝ่ายหลักของเขาที่ได้พัฒนาเข้าสู่เขตแดนผสานร่างมนุษย์คมหอกอย่างไม่คาดคิด ซึ่งแน่นอนว่ามันมีความสำคัญกับพรรคเป็นอย่างมาก เพราะมันได้เพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมให้กับพรรคของเขา มันจึงอาจกล่าวได้ว่าการประลองในครั้งนี้เขามิได้สูญเสียสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย แทนที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลเสียมากกว่า
       
เย่ชีเหวิน ได้ก้าวเดินออกมาจากลานประลอง ขณะที่เหล่าศิษย์จาก[พรรค เฉินยู้]ต่างมีใบหน้าที่เปลี่ยมไปด้วยความสุขและเข้าห้อมล้อมร่างกายของเขา เหล่าฝุ่นต่างตลบอบอวนไปด้วยน้ำเสียงแห่งการเฉลิมฉลอง เย่ชีเหวิน ได้กลายเป็นจุดศูนย์ดึงดูดความสนใจของพวกเขา
       
          “ พี่ชายเย่ ในครานี้ข้าต้องขอบคุณท่านจริง ๆ ” เหยียนชือหลิง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกประหลาดใจเพราะเขามิได้คาดคิดจริง ๆ ว่า เย่ชีเหวิน จะสามารถมีชัยเหนือ โมฮัน และกลายเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ไปได้ ในตอนนี้มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะสามารถแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้ว่า เย่ชีเหวิน ได้กลายเป็นผู้ชนะในการประลองและปกป้อง[พรรค เฉินยู้]ของพวกเขาเอาไว้ได้ เขาในตอนนี้ได้รู้สึกมาจากใจจริงว่ายากจะมอบตำแหน่งผู้นำพรรคให้กับ เย่ชีเหวิน
       
ก่อนที่ เย่ชีเหวิน จะได้กล่าวอะไรออกมา เย่หรูเชว่ ก็ได้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจว่า “ มันแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาจะต้องชนะ เพราะว่าเขาคือน้องชายคนเล็กของข้ายังไงล่ะ! ”
       
เย่ชีเหวิน ไม่ทราบว่าจะว่างตัวเช่นไรดีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของพี่หญิง ในขณะที่นางจะคงโอ้อวดถึงเรื่องราวของเขา!
       
ซึ่งแตกต่างจากบุคคลเหล่านี้ มีเพียงแค่ เย่หรูเชว่ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เชื่อมั่นในตัวเขาอย่างสนิทใจ
       
          “ ไปกันเถอะทุกคน ไปเก็บเงินเดิมพันกับชัยชนะของพวกเรากัน! ” ในเวลานี้ศิษย์ผู้หนึ่งจาก[พรรค เฉินยู้]ได้ตะโกนกล่าวออกมา
       
และในขณะที่ผู้คนต่างตะโกนฉลองเกี่ยวกับชัยชนะของ เย่ชีเหวิน พวกเขาก็จำขึ้นมาได้ว่าไม่เพียงแค่พวกเขาสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีและปกป้องพรรคเอาไว้ได้ แต่พวกเขายังได้รางวัลเป็นศิลาวิญญาณที่เขาได้วางเดิมพันสำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้ ด้วย ความโกรธจากการถูกกดขี่ข่มเหงโดยเหล่าศิษย์ผู้อาวุโสที่อัดอั้นยู่ภายในใจของพวกเขาได้ถูกระบายออกไปจนหมด ซึ่งที่มันเป็นเช่นนี้ได้ก็ต้องขอบคุณ เย่ชีเหวิน ที่ได้ต่อสู้เพื่อพวกเขา
       
ค่าชดเชย 10 เท่า สำหรับชัยชนะของ เย่ชีเหวิน ในยามนี้พวกเขาได้รับโชคลาภก่อนโตที่ราวเหมือนกับบุญหล่นทับ ซึ่งสำหรับเหล่าศิษย์ใหม่แล้วด้วยจำนวนเท่านี้ถือได้ว่ามากมายนักจนถึงขั้นอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาได้กลายเป็นคนที่มั่งมีไปภายในชั่วข้ามคืน และแน่นอนว่าเมื่อเทียบกับคนคนอื่น ๆ แล้ว เย่ฟง และ เย่หรูเชว่ ได้รับศิลาวิญญาณระดับกลางไปมากกว่าผู้ใดนับหลายเท่า ซึ่งพวกเขาได้กลายเป็นบุคคลที่มั่งมีไปด้วยศิลาวิญญาณระดับกลางจำนวนมากเป็นอันดับต้น ๆ ของหมู่ศิษย์ฝ่ายในเลยก็ว่าได้
       
และแน่นอนว่าผู้ที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดในครั้งนี้ก็คือ เย่ชีเหวิน ที่ได้ว่างเงินเดิมพัน 5,000 ศิลาวิญญาณระดับกลาง และด้วยค่าชดเชย 10 เท่า มันจึงทำให้รางวัลที่เขาได้รับนั้นคือ 50,000 ศิลาวิญญาณระดับกลาง ด้วยเงินจำนวนมากเช่นนี้โดยธรรมชาติแล้วบุคคลธรรมดาทั่วไปสามารถใช้มันได้นานนับหลายปีเลยก็ว่าได้
       
แม้สำหรับ เย่ชีเหวิน ความมั่งคั่งเหล่านี้ก็เพียงพอช่วยให้เขาสามารถบ่มเพาะพลังไปจนถึงใน[ ระดับขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด ]หรืออาจสูงกว่านั้น โดยที่เขามิจำเป็นต้องรู้สึกเป็นห่วงใด ๆ เกี่ยวกับศิลาวิญญาณ
       
มิน่าแปลกใจที่แม้แต่ศิษย์ที่แท้จริงก็ยังคงเปิดโต๊ะเพื่อวางเงินเดิมพัน เพราะมันเป็นการโกยทรัพยากรที่รวดเร็วที่สุดทางหนึ่งภายในช่วงข้ามคืน แม้แต่ เย่ชีเหวิน เองก็ยังได้รับกำไรเป็นจำนวนมากสำหรับการเดิมพันในครั้งนี้ ซึ่งกฎในการวางเดิมก็จะเหมือนกันในทุก ๆ ครั้งอย่างเช่นในวันนี้ โดยการเลือกข้าที่เราโปรดปราณและวางเดิมพันด้วยศิลาวิญญาณเท่าใดก็ได้ตามที่เรานั้นต้องการ
       
แม้ว่าโต๊ะวางเดิมพันจะต้องจ่ายชดเชยให้กับผู้ที่เลือกชัยชนะข้าง เย่ชีเหวิน ถึง 10 เท่า หากแต่มันก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เลือกข้างชัยชนะของ เย่ชีเหวิน ฉะนั้นแล้วแม้เขาจะชดเชย 10 เท่า หากแต่พวกเขาก็ยังคงได้รับศิลาวิญญาณกลับไปเป็นจำนวนมากอยู่ดี
       
ถ้ามันเป็นเพียงศิษย์หลักแล้วพวกเขาคงจะอุดมไปด้วยความมั่งคั่งของศิลาวิญญาณภายในชั่วข้ามคืน หากแต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการเปิดโตะวางเดิมพันนั้นคือศิษย์ที่แท้จริง ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจำนวนเงินที่ได้มามันจะมากสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับความมั่งคั่งของเหล่าศิษย์ที่แท้จริง
       
แต่เหล่าศิษย์ใหม่ทั้งหมดต่างก็เพลิดเพลินไปกับความสุข นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้ก้าวเข้ามายังภายในสำนักหลักพวกเขาไม่เคยมีความสุขมากเช่นนี้มาก่อน บ่อยครั้งที่พวกเขามักถูกรังแกโดยเฉพาะเหล่าศิษย์[ ระดับขั้นดินแดนลมปราณก่อเกิด ]ที่ได้ถูกพิจารณาว่าตนนั้นเป็นชนชั้นสูงภายในสำนักของตน หากแต่เมื่อพวกเขาได้ก้าวเข้ามายังภายในสำนักหลักพวกเขาต้องถูกกดขี่ข่มเหงอย่างไม่มีชิ้นดี ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้เลยแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเป็นยิ่งนักในสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่เช่นนี้
       
แต่ในท้ายที่สุดแล้วในตอนนี้พวกเขาต่างก็ได้รู้สึกดีใจไปกับมันเพราะตราบใดที่ เย่ชีเหวิน ยังคงเป็นผู้นำของพวกเขา ก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าที่จะลังแกพวกเขาได้อีก
       
ในตอนนี้หลายคนต่างคาดเดาว่าคาดแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นเทียบเท่าได้กับเหล่าศิษย์เมล็ดพันธุ์นับ 100 คนในหมู่ศิษย์นับหลายพันคน โดยการถูกทาบทามว่ามีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับศิษย์ 1 ใน 100 ได้บนเช่นนี้แล้วจะมีใครกล้าพอกระทำการข่มเหงพวกเขาได้อีก
       
ศิษย์เมล็ดพันธุ์นับ 100 คนเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ศิษย์ฝ่ายใน กระทั้งศิษย์หลักบางคนที่ได้กระทำการข่มเหงพวกเขาก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับพวกเขา ซึ่งถือได้ว่าศิษย์เมล็ดพันธุ์เหล่านี้นั้นมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
       
หากมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งเฉกเช่นเดียวกับ เย่ชีเหวิน อยู่ด้วยมีความเป็นไปได้ว่า[พรรค เฉินยู้]นั้นจะมีความแข็งแกร่งดุจหินผาและไม่มีใครกล้าที่จะมาลังแกพวกเขาได้อีกไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว[พรรค เฉินยู้]ก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษมากไปกว่าผู้ใดก็เหมือนพรรคทั่วไปที่มีอยู่มากมายภายในสำนักหลัก หากแต่ที่แตกต่างมันก็คงเป็นเพียงแค่พรรคที่ถูกก่อตั้งขึ้นใหม่โดยมีศิษย์ใหม่เป็นผู้นำเพียงเท่านั้น และด้วยผลจากการต่อสู้นี่เองก็ได้เป็นการส่งคำเตือนไปยังพรรคอื่น ๆ ที่คิดจะโค่นล้ม[พรรค เฉินยู้]ว่าหากพวกเขายังต้องการที่จะทำเช่นนั้น พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องฝ่ากำแพงเหล็กหนาอย่าง เย่ชีเหวิน ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะกลายเป็นศิษย์ที่แท้จริงได้ในอนาคตไปให้ได้เสียก่อน
       
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งที่เด็ดขาดของ เย่ชีเหวิน แล้วเหล่าศิษย์ผู้อาวุโสก็คงได้เข้าใจในที่สุดเขาว่านั้นไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือ หากแต่เป็นราชสีห์ที่ยังอยู่ในวัยเยาว์ แต่ก็ยังคงมีเขี้ยวเล็บอันแหลมคมหากไม่ระวังมันจะเป็นพวกเขาเสียเองที่ต้องเป็นฝ่ายเจ็บตัว
       
เย่ชีเหวิน นั้นรู้แล้วเกี่ยวกับเรื่องศิษย์เมล็ดพันธุ์ กระทั่งความเป็นจริงความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ก็เทียบเท่าได้กับพวกศิษย์เมล็ดพันธุ์เหล่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นในหมู่พวกเขาก็ยังคงมีศิษย์ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงที่สามารถมอบความพ่ายแพ้ได้แม้ทั้งศิษย์หลักหลบซ่อนอยู่ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างยืนอยู่บนจุดสูงสุดของบรรดาเหล่าศิษย์ฝ่ายในและ เย่ชีเหวิน ในตอนนี้ก็ยังคงเป็นเพียงแค่ศิษย์ใหม่
       
          “ เย่ชีเหวิน! ” ในขณะที่ทุกคนกำลังฉลองอยู่กับชัยชนะเสียงของ โมฮัน ก็ได้ดังขึ้นจากด้านหลัง
       
          “ ถึงแม้ในวันนี้ข้าจะได้พ่ายแพ้ให้แก่เจ้า แต่ในอีก 3 เดือนให้หลังการแข็งขันการประลองของเหล่าศิษย์ฝ่ายในข้าจะเอาชนะเจ้า ข้าจะต้องชำระหนี้แค้นที่เจ้าทำกับข้าไว้ในวันนี้ให้จงได้ ”
       
#########################################################

เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 4B หัวดอที่จะมาเผานิยายเรื่องนี้ไปพร้อมกลับคุณ
       
B1 :ยัง ยังไม่เข็ด
B2 : สงสัยอยากขายหน้าอีกไง
B1 : งั้นก็ไว้เจอกันนะไอ้หมู
B3 : รู้สึกสงสารมัน
B4 : ใช่ข้าก็เริ่มรู้สึกสงสารมัน

#########################################################
เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ BY: นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่มีรอบหน้าแล้ว. ขนาดรอบนี้ยังชนะแบบไม่เหนื่อยรอบหน้าคงจบในท่าเดียวแล้วละ

    ตอบลบ
  2. รวมๆ ละ ชนะแบบง่ายๆ อยู่นะนั่น

    ตอบลบ
  3. อีกสามเดือนคงไม่ต้องพูดถึง...
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  4. รู้สึกสงสารหมูน้อยด้วย

    ตอบลบ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม