บทที่ 134 - เริ่มต้นการแข่งขัน

เย่ชีเหวิน ตรงไปลงทะเบียนอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสุดท้ายอย่างพอดิบพอดี ในยามราตรีเขาได้ใช้เวลาว่างนั้งขัดสมาธิอยู่ภายในลานเล็ก ๆ ของตน เพื่อทำความเข้าใจกับฉากการต่อสู้ของ 2 ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด

เพียงแต่ตัวเขาในตอนนี้ยังไม่อาจทำความเข้าใจได้อย่างท่องแท้ อนึงเมันอาจป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่อยู่ในระดับจุดสูงสุดของเหล่าบรรดาผู้เชีียวชาญ[ระดับขึ้นดินแดนลมปราณแท้จริง]

ในขณะที่ เย่ชีเหวิน ยังคงเป็นเพียงแค่[ระดับจุดสูงสุดขี้นที่ 4 ดินแดนลมปราณก่อเกิด] ซึ่งยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถก้าวไปถึง[ระดับขั้นดินแดนลมปราณแท้จริง] เพียงแต่เขาเชื่อว่าเขาจะต้องไปถึงในสักวัน

ก่อนที่การประลองศึกชืงตำแหน่งศิษย์เมล็ดพันธุ์จะเริ่มขึ้น เย่ชีเหวิน ได้ทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองอย่างต่อเนื่อง ศิลาวิญญาณได้ถูกเผาผลาญออกไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ เพื่่อเรียบเรียงฉากการต่อสู้ของ 2 ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดและทำความเข้าใจเกี่ยวกับมัน

ยามราตรีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ชั่วข้ามคืน เย่ชีเหวิน ได้เผาผลาญศิลาวิญญาณระดับกลางไปแล้งกว่า 5,000 ก้อน ซึ่งดูเหมือนว่าลมหายใจของเขาจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญ[ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด]ทั่วไป นอกจากนี้[พลังปราณหยวน]ภาบในร่างยังมีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่า ซ้ำยังมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งไร้เทีบมทานยากเกินที่จะมีผู้ใดสร้างรอยบาดแผลไว้บนร่างของเขาได้

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมหาศาลอย่างที่มันไม่เคยเป็น ทำให้ เย่ชีเหวิน มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นว่าด้วยกำลังของเขาในตอนนี้จะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญ[ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด]ได้อย่างง่ายได้ หรือแม้กระทั่งการจะเอาชนะหรือฆ่าผู้เชี่ยวชาญ[ระดับขั้นที่ 7 ดินแดนลมปราณก่อเกิด] ก็ยังเป็นไปได้

ไม่มีใครสามารถแข็งแกร่งได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืนดั่งเช่น เย่ชีเหวิน เพราะเขามี[พื้นที่ลึกลับ]คอยช่วยเหลือ เรื่องที่เป็นไปไม่ได้จึงเป็นไปได้สำหรับเขา ยิ่งไปกว่านั้นใยเวลานี้เขายังมีผู้ช่วบมือดีอย่าง เย่โม่ ที่คอยให้การสนับสนุน

เย่โม่ คือชื่อที่ เย่ชีเหวิน มอบให้ แม้ว่ามันจะมีนิสัยเย้อหยิ่ง แต่ในความเป็นจริงมันไม่เคยได้รับชื่อจากอดีตผู้เป็นนายของมัน เพราะราชันย์จักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ได้ปฏิบัติกับมันเฉกเช่นทาสรับใช้ จึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องมอบชื่อให้แก่มัน

หลังจากที่ เย่ชีเหวิน ได้มอบชื่อให้ ปีศาจน้อยก็มิได้กล่าวอะไรหลังจากที่ได้รับชื่อใหม่ แต่ เย่ชีเหวิน สามารถรับรู้ได้จากสายตาของมันว่าตัวมันเองก็ดีใจอยู่ไม่น้อย แม้ว่าปากของมันจะไม่ดี แต่ตามธรรมชาตินิสัยของมันก็มิใช่ว่าจะเลวร้าย เย่ชีเหวิน จึงได้ลบความคิดที่จะกำจัดมันออกไปจากหัวของเขาทีละน้อยและเริ่มรวบรวมความคิดเชื่อมต่อกับ[ศาสตราวุธจิตวิญญาณ]

ซึ่ง เย่โม่ เองก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นับจากที่มันได้รับชื่อใหม่มันก็ว่านอนสอนง่ายมากขึ้น จากแต่ก่อนที่มันหมักจะโวยวายแล้วกล่าวว่า ว่ามนุษย์นั้นต่ำต้อยอย่างไม่หยุดปาก

ยิ่งกว่านีั้น เย่โม่ ยังมีขนาดเล็กกระทัดลัดซึ่งดูน่ารักน่าเอ็นดู หากแต่ในความเป็นจริงมันคือปีศาจที่มีอายุและภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยโบราณการณ์ และติดตามราชันย์จักรพรรดิปีศาจไปทุกหนแห่ง จึงมีความรู้เกี่ยวกับ[เคล็ดวิชาการต่อสู้ปีศาจ]มากมายมหาศาลและมีความหลากหลายในการใช้งาน

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่[ศาสตราวุธจิตวิญญาณ] แต่มันก็หาใช่เครื่องมือธรรมดสที่จะเรียกใช้งานได้โดยง่าย ยิ่งกว่านั้นมันยังทำให้ เย่ชีเหวิน ได้เข้าใจถึงแนวความคิดเคล็ดวิชาการต่อสู้แบบใหม่ ซึ่งทำให้ความเข้าใจของเขาพัฒนาโดยไกลภายในชั่วข้ามคืน

จึงทำให้ความคิดสุดท้ายของ เย่ชีเหวิน ที่คิดจะกำจัด เย่โม่ หายไปจากใจอย่างสิ้นเชิง

ในยามนี้ฤดูใบ้ไม้ร่วงนั้นเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว แต่เนื่องจากว่าสำนักยี่หบวนถูกห้อมล้อมไว้ด้วยค่ายกลหลายชั้นจึงทำให้การผันเปลี่ยนของฤดูไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสำนักหรืออีกในหนึ่งมันทำให้สำนักยี่หยวนนั้นอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี

เย่ชีเหวิน ก้าวออกมาจากจวนของตนเองและก้าวเดินอยู่ภายในสวนพลางมองออกไปที่[ยอดหุบเขาดวงจันทร์] ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงระฆังที่ถูกตีอย่างต่อเนื่องแม้จะอยู่ห่างไกลแต่ก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน เพราะว่าการประลองศิษย์เมล็ดพันจะถูดจัดตั้งขึ้นที่[ยอดหุบเขาดวงจันทร์]

[ > 4B// > ยอดหุบเขาดวงจันทร์ = ยอดหุบเขาพระจันทร์เต็มดวง // ยอดหุบเขาเสียดฟ้า = ยอดหุบเขาเสียดนภา]

แม้ว่าในบางครั้ง[ยอดหุบเขาเสียดฟ้า]จะเป็นเจ้าภาพในการจัดพิธีการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ขึ้น หากแต่นั่นมันก็ผ่านล่วงเลยมาแล้วกว่าเกือบ 30 ปี

ในขณะที่เป็นเวลากว่าหลายปีที่ผ่านมาศิษย์จาก[ยอดหุบเขาเสียดฟ้า]ก็ยังไม่มีผู้ใดก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดในการจัดอันดับได้เลยซักครั้ง แม้ว่าสถิติสูงสุดของ[ยอดหุบเขาเสียดฟ้า]จะสามารถไปถึง 1 ใน 10 อันดับแรกได้ แต่หลังจากที่ศิษย์ผู้นั้นได้รับเลื่อนตำแหน่งกลายเป็นศิษย์หลัก ก็ไม่มีศิษย์หน้าไหนสามารถก้าวไปถึง 10 อันดับแรกได้เลย

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตกทอดกันมาของ[ยอดหุบเขาเสียดฟ้า]ก็มิใช่สิ่งที่ควรประมาท เพราะทุกครั้งที่มีการประลองก็มักจะมีเหล่าสานุศิษย์ของพวกเขาอยู่ไม่น้อยที่ได้ก้าวขึ้นไปสู่ 100 อันดับแรก

เสียงระฆังที่ดังก้อง ได้ดึงดูดเหล่าสานุศิษย์ฝ่ายในและนอกให้มารวมตัวกันที่[ยอดหุบเขาดวงจัทนร์] ซึ่งแน่นอนว่ามันมิใช่ว่าพวกเขามาเพื่อเข้าร่วมการประลอง แต่มาเพื่อชมการต่อสู้กันของเหล่าบุคคลชั้นนำ มันก็มิได้มีกันให้เห็นอยู่บ่อยครั้งนัก สำหรับการต่อสู้ของเหล่าบุคคลอัจฉริยะที่มากไปด้วยพรสวรรค์ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับชาวยุทธ์ธรรมดาสามัญเช่นพวกเขาแล้วนั้นถือว่าเป็นโอกาสที่หาดูได้ยากยิ่ง เช่นนั้นมีหรือที่พวกเขาจะยอมพลาดการประลองในครานี้

ซึ่งต่างกับพวกศิษย์จาก[พรรคเฉินยู้]ที่มายัง[ยอดหุบเขาดวงจันทร์]พร้อมกับ เย่ชีเหวิน แม้ว่า เย่ฟง และสานุศิษย์คนอื่น ๆ จะพบเจอกับบุคคลมากมาย กระทั่งบางพวกที่รู้สึกคุ้นหน้าคราตา แต่จะทำเช่นไรได้ นับแต่ที่ เย่ชีเหวิน ได้มีส่วนร่วมในการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ ก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขาจะต้องมาเพื่อเอาใจช่วย

[พรรคเฉินยู้]ถูกกล่าวขานว่าเป็นพรรคหน้าใหม่ ที่มีศิษย์ใหม่จำนวนมากต้องการที่จะเข้าร่วม ซึ่งแน่นอนสมาชิกยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อใดก็ตามที่ผุ้คนภายนอกได้ยินนามของ[พรรคเฉินยู้] ชื่อแรกที่ปรากกขึ้นภายในใจของพวกเขานั่นก็คือ เย่ชีเหวิน สานุศิษย์ใหม่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตอนนี้ โดยเฉพาะข่าวลือที่ถูกแพร่พรายออกไปอย่างกว้างขวางว่าเขานั้นมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับศิษย์เมล็ดพันธุ์ จึงเป็นเหตุผลให้สมาชิกใหม่ของ[พรรคเฉินยู้]ที่ยังไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของ เย่ชีเหวิน มาร่วมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้เพื่อเชยชมและเป็นสักขีพยานในความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของ เย่ชีเหวิน ในศิษย์เมล็ดพันธุ์ด้วยตาของตนเอง

          " ข้าได้ยินมาว่าการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ในปีนี้ โดยเฉพราะการกลับมาของพวก[ศิษย์ลัทธิมาร] ทำให้เหล่าสำนักน้อยใหญ่ได้ผลตอบแทนอย่างมหาศาล มีมากกว่าหลาย[ศาสตราวุธจิตวิญญาณ]คุณภาพสูงและยาอายุวัฒนะชั้นยอดเป็นของรางวัลในปีนี้ ดูเหมือนว่ามันจะมีค่าเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มานับหลายเท่าเลยทีเดียวเชียว "

          " นั่นมันก็ต้องแน่อยู่แล้วมิใช่รึ ในเมื่อปีนี้มันเป็นปีที่พิเศษ ยิ่งกว่านั้นข้ายังได้ยินมาอีกว่า พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากพวก[ศิษย์ลัทธิมาร] ทำให้มีการประชุมกันระหว่าง 4 สำนักใหญ่เช่นเดียวกับพวกราชวงศ์ก็ยังเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เพื่อหารือถึงวิธีการปราบปรามการจลาจลของพวก[ศิษย์ลัทธิมาร] ยิ่งกว่านั้นยังได้มีการจัดการประลองขึ้นเพื่อบังหน้าสำหรับพวกสานุศิษย์ฝ่ายใน , นอก , และศิษย์ที่แท้จริงและการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ในครั้งนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกสานุศิษย์เมล็ดพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด 100 คนแรก มีส่วนร่วมในการประชุมครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง "

          " มิน่าแปลกใจว่าเหตุใดทางสำนักถึงได้มอบรางวัลให้มากมายถึงเพียงนี้ เพราะนี่มันมิได้เป็นเพียงแค่การประชุมเพื่อหารือการปราบปรามพวก[ศิษย์ลัทธิมาร]เท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทางสำนักเรา จะได้ไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาดูถูกสำนักยี่หยวนของพวกเรา แต่โชคร้ายที่ภายในปีนี้มิได้มีการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ของพวกสานุศิษย์ฝ่ายหลัก เพียงเพราะว่ามันจะจัดขึ้นในทุก ๆ 2 ปี จึงเป็นเหตุผลที่มันมิได้ถูกจัดขึ้นในปีนี้ มิฉะนั้นแล้วพวกเราคงจะได้เห็นถึงการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเป็นแน่. "

          " แต่ข้าคิดว่าบางทีเรื่องพวกนั้นคงไม่จำเป็น หลังจากที่รายชื่อของพวกเขาอยู่ในการจัดอันดับศิษย์เมล็ดพันธุ์ พวกเขาก็ควรที่จะได้รับทรัพยากรจำนวนมากจากสำนักอย่างแน่นอน "

          " นอกจากนี้มันยังยากที่จะพูด แต่ดูเหมือนว่าศิษย์ใหม่ในปีนี้จะแข็งแกร่งมิใช่น้อย ซ้ำยังเข้าร่วมการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ในครั้งนี้ด้วย ชายที่ชื่อว่า เย่ชีเหวิน ข้าได้ยินมาว่าความแข็งแกร่งของมันนั้นเป็นที่น่ากลัว "

          " ข้าเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของมันมาเช่นกัน เรื่องที่มันได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับ โมฮัน แต่ทืว่าในช่วงเวลานั้น โมฮัน ยังคงเป็นเพียงแค่[ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด]และมีความเป็นไปได้ที่ว่าสาเหตุของความพ่ายแพ้นั่นก็เป็นเพราะความประมาท ข้ามั่นใจเลยว่า เย่ชีเหวิน ไม่มีทางที่จะเอาชนะสานุศิษย์เมล็ดพันธุ์ที่แท้จริงได้อย่างแน่นอน "

          " แต่เมื่อ 10 วันที่ผ่านมาข้าได้ยินมาว่า โมฮัน ได้ตัดผ่านเข้าสู่[ระดับขั้นเสี่ยวดินแดนลมปราณก่อเกิด] โดยอาศัยพลังอำนาจของ[มนุษย์คมหอก] เขาได้มอบความพ่ายแพ้ให้กับศิษย์เมล็ดพันธุ์ผู้หนึ่งจนในตอนนี้เขาสามารถเข้าสู้การจัดอันดับที่ 96 ได้แล้ว! "

          " ดูเหมือนว่าการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ในปีนี้จะดูน่าสนใจมิใช่น้อย "

เหล่าศิษย์มากมายต่างเริ่มพูดคุยกันซึ่งตัว เย่ชีเหวิน เองก็ปะป่นอยู่ภายในฝูงชนและรับฟังคำซุบซิบนินทาเหล่านั้น แต่ก็หาได้สร้างความหวั่นไหวให้กับเขาไม่

          " เย่ชีเหวิน เหล่าบรรดาศิษย์พวกนี้ก็เป็นเพียงแค่มดปลวกเท่านั้น การประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ในครั้งนี้หาได้คู่ควรกับเจ้าไม่ " ภายในใจของ เย่ชีเหวิน เสียงของ เย่โม่ ดังก้อง ซึ่งภายในน้ำเสียงของมันต่างเต็มไปด้วยความรังเกียจ ราวกับศิษย์พวกนี้ไม่คุ้นค่าพอให้เหลียวแล

ตอนนี้ เย่โม่ หลบซ่อนอยู่ภายใน[กระจกเทียนหยวน]ที่อยู่ภายในร่างกายของ เย่ชีเหวิน เนื่องด้วยที่ว่า เย่โม่ เป็น[วิญญาณเทพศาสตรา]ของ[กระจกเทียนหยวน]ฉะนั้นการจะหลบซ่อนอยู่ภายในจึงเป็นเรื่องที่ง่ายราวกับปลอกกล้วย

[ > 4B// > 天源镜 > 天 = ท้องฟ้า , สวรรค์ / 源 = แหล่งที่มา , แหล่งกำเนิด / 镜 = กระจก // 天源镜 > กระจกเทียนหยวน(กระจกกำเนิดสวรรค์)]

พร้อมกับฝูงชนจำนวนมาก เย่ชีเหวิน และเหล่าศิษย์จาก[พรรคเฉินยู้] ได้ก้าวเข้าสู่ภายใน[ยอดหุบเขาดวงจันทร์] ณ เวทีการประลอง แม้ว่า เย่ชีเหวิน จะมีชื่อเสียงอยู่มาก หากแต่ด้วยจำนวนคนที่มีมากกว่า 100,000 คน มีหรือที่พวกคนเหล่านั้นจะสามารถสังเกตุเห็น เย่ชีเหวิน ได้ชัดภายในคลื่นทะเลมนุษย์เหล่านี้

เย่ชีเหวิน และคนอื่น ๆ ได้เข้ามายังภายในพื่นที่และพบว่า ณ ที่นั่งบนอัฒจรรย์ในเวลานี้ต่างเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ซึ่งจับจ้องไปที่ตารางการแข่งขันจัดการประลองที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

ณ ด้านบนสุดของยอดหุบเขา ได้มีหลายภาพและตัวอักษรที่ค่อนข้างชัดเจนปรากฏขึ้น ซึ่งหากมองดูจากระยะไกล จะเห็นได้ชัดว่าภาพเหล่านีัคือรายชื่อของ top 10 การประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งภาพเหล่านี้จะปรากฏขึ้นก็เฉพาะสำหรับผู้ที่สามารถขึ้นมาเป็น 10 อันดับแรกได้เท่านั้น หากพวกเขาประสบความสำเร็จรายชื่อและรูปของพวกเขาจะปรากฏขึ้นและกลายเป็นที่ประจักต่อสายตาของผู้คนที่ได้มาเข้าชมการประลองในครั้งนี้

เห็นได้ชัดว่ามีเพียงแค่ 10 คนเท่านั้นที่จะถูกประทับรายชื่อเป็นนิรันดร์ โดยจำนวนเหล่าศิษย์นับไม่ถ้วนที่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญ มันจึงทำให้เหล่าศิษย์จาก[พรรคเฉินยู้]รู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะส่วนหนึ่งในหมู่พวกเขากำลังจะมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญของสำนักยี่หยวน และนี่ยังนับเป็นการมีส่วนร่วมครั้งแรกในเหตุดารณ์สำคัญของพวกเขา มีหรือที่พวกเขาจะมิรู้สึกตื่นเต้น

ณ สถานที่เหนือชั้นฟ้าสูงขึ้นไป ได้มีหลายผู้อาวุโสและสานุศิษย์ที่แท้จริงนั่งอยู่ ซึ่งตำแหน่งของพวกเขาถูกปิดกั้นโดยเมฆหมอกจึงไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นพวกเขาได้

ซึ่งพวกคนเหล่านี้ ต้องการที่จะเห็นถึงความแข็งแกร่งของศิษย์เมล็ดพันธุ์และความต้องการที่อยากจะเอาชนะอีกฝ่ายและนอกเหนือสิ่งอื่นใด คือพวกเขายังต้องการที่จะเห็นว่าภายในหมู่คนเหล่านี้ ใครกันที่จะสามารถกลายเป็นเสาหลักให้กับสำนักได้ในอนาคต

หลังจากที่มากันแล้วเกือบครบทุกคน ท่านผู้อาวุโสผู้หนึ่งก็ได้ยืนขึ้นพร้อมบินออกไปและจับจ้องลงมาที่พวกศิษย์ทุกคนพลางกล่าวว่า " การประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ประจำปี จะเริ่มขึ้น ณ ขณะนี้ หวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะทำสุดความสามารถและแสดงความแข็งแกร่งของตนให้เป็นที่ประจัก สำหรับผู้ที่สามารถขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการประลอง ทางสำนักจักมอบรางวัลให้อย่างล้นหลามกับเหล่าบุคคลที่แข็งแกร่งและโดดเด่น โดยผลตอบแทนที่ทางสำนีักมอบให้ จะทำให้พวกเจ้ามีกำลังทรัพย์ในการตัดผ่านจนไปถึง[ระดับขั้นดินแดนลมปราณแท้จริง]หรือแม้กระทั่งพวกเราเหล่าผู้อาวุโสได้อย่างรวดเร็วดุจราวมังกรทะยานผู้หนึ่ง! "

แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คำกล่าวสั่น ๆ แต่ยังคงตรงไปตรงมา ทันทีที่เหล่าสานุศิษย์ได้ยินเช่นนั้น มันก็ทำให้พวกเขาอกไม่ได้ที่จะต้องระเบิดเสียงกู่ร้องออกมา เพียงแค่แสดงความแข็งแกร่งของตนออกมาก็จะได้รับทรัพยากรอย่างมหาศาล นี่จึงเป็นเหตุผลที่สำนักยี่หยวนสามารถอยู่รอดมาได้ถึง 1,000 ปี แม้ว่ามันจะเป็นเพียง 1 ในกฏระเบียบที่เรียบง่าย แต่มันก็มีความโหดร้ายอยู่ไม่น้อย ซึ่งขึ้นกับความอยู่รอด

ตราบใดที่พวกเขามีความแข็งแกร่งมากพอ ทางสำนักก็จะปฏิบัติกับพวกเขาเป็นพิเศษ ซ้ำยังมอบทรัพยากรให้อีกเป็นจำนวนมากเท่าที่พวกเขาต้องการเพื่อเพิ่มพูนระดับการบ่มเพาะพลัง ตราบเท่าที่พวกเขามีความสามารถมากพอพวกเขาก็จะประสบความสำเร็จในการตัดผ่านไปยังระดับขั้นต่อไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงแฝงไปด้วยความโหดร้าย เพราะนี่เป็นที่ยืนสำหรับบุคคลที่แข็งแกร่งเท่านั้น ซึ่งเหล่าผู้ที่อ่อนแอมักจักต้องตกอยู่ภายใต้อาณัติของผู้ที่แข็งแกร่งเสมอ ดั่งเช่นคำที่ว่าปลาใหญ่กินปลาเล็ก การประลองครั้งนี้ก็เช่นกัน

          " การประลองรอบแรกคู่ที่ 130 เย่ขีเหวิน , ฝางซู่ ก้าวขึ้นสู่ลานประลองได้! "

ในที่สุดผู้ที่ได้รับการดูแลลานประลองการแข่งขันของพวกเหล่าศิษย์ก็ได้เอ่ยนามของ เย่ชีเหวิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม