บทที่ 138 - เผชิญหน้า โมฮัน อีกครั้ง

มันเป็นการเดิมพันว่าในอนาคต เย่ชีเหวิน นั้นจะสามารถพัฒนาไปได้มากแค่ไหนและจะสามารถไปจนถึงจุดสูงสุดของผู้เชี่ยวชาญ[ระดับขั้นดินแดนลมปราณแท้จริง]ได้หรือไม่ เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาที่จะได้เก็บเกี่ยว จึงมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่เริ่มให้ความสนใจ มิใช่มีเพียงแค่คนสองคนดั่งแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นทั้งสนามประลองต่างก็ให้ความสนใจ
       
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เย่ชีเหวิน และร่วมไปถึงสมาชิกระดับสูงของ[พพรคเฉินยู้]ต่างก็ทราบดี เป็นธรรมดาที่หาก เย่ชีเหวิน ได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วอันน่าทึ่งเช่นนี้ต่อหน้าสายตาทุกคนมันจะทำให้[พรรคเฉินยู้]กลายเป็นที่สนใจต่อคนหมู่มากในทันที แม้เดิมทีมันจะเป็นที่สนใจต่อศิษย์ใหม่จำนวนมากและศิษย์ผู้อาวุโสบางคน แต่ตอนนี้มันต่างกัน เมื่อเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นก็ได้มีคนติดต่อมาขอเข้าร่วมพรรคของพวกเขาในทันที แม้กระทั่งบางคนยังเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ[ระดับขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด] ซึ่งเดิมทีพวกเขาเหล่านี้ถูกนับว่าเป็นชนชั้นสูงในบรรดาเหล่าศิษย์ฝ่ายในและไม่แม้แต่จะเหลือบมอง[พรรคเฉินยู้]เลยเสียด้วยซ้ำ หากแต่ทว่าในตอนนี้พวกเขาต่างกรู่กันเข้ามาเพื่อขอเข้าร่วมราวกับฝูงมด
       
ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลามในตอนนี้ของ เย่ชีเหวิน เพราะในโลกนี้เป็นที่ยืนสำหรับผู้ที่แข็งแกร่ง มีเพียงแค่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เลือก ใครเล่าจะรู้ว่าในภานภาคหน้าเขาจะมีขุมพลังอำนาจมากแค่ไหน ใครเล่าจะสามารถจิตนาการถึงมันได้
       
ท่ามกลางของคนหมู่มาก พวกเขาคอยจับตาดูและคาดหวังด้วยความอยากรู้ว่า เย่ชีเหวิน จะสามารถผ่านเข้ารอบที่ 5 ไปได้หรือไม่ หลังจากที่คู่ต่อสู้ของเขาในรอบนี้คือ โมฮัน
       
บุรุษผู้ถือหอกคมยาวอยู่ข้างกาย ด้วยท่าทีและสายตาที่มืดมน ทั่วร่างของ โมฮัน ต่างกอปรไปด้วยกลิ่นอายอันทรงพลัง ซึ่งมันทำให้ โมฮัน นั้นดูมีบรรยากาศที่น่ากลัวมากขึ้นนับหลายเท่า นับจากที่พวกเขาได้พบกันเป็นครั้งสุดท้าย
       
เมื่อเทียบกับการประลองกันครั้งแรกของพวกเขาแล้ว ในช่วงเวลานั้น แทบไม่มีใครเลยที่คาดคิดว่า เย่ชีเหวิน จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ทว่าในตอนนี้มันได้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แทบไม่มีใครเลยในหมู่พวกเขาที่จะสามารถคาดเดาได้เลย ว่าการประลองในครั้งนี้ระหว่าง เย่ชีเหวิน และ โมฮัน ผู้ใดจะเป็นฝ่ายชนะ แม้ว่าหลายคนจะคาดคิดว่า เย่ชีเหวิน ควรที่จะเป็นฝ่ายชนะ หากแต่ก็ยังมีบางส่วนที่คิดว่าผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ควรจะเป็น โมฮัน หลังจากที่ โมฮัน ได้พัฒนาความแข็งแกร่งจนไปอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่ทว่าในยามที่เขาได้อยู่ใน[ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด] ทุกคนต่างก็ทราบดีว่าแม้แต่[ร่างผสานมนุษย์คมหอก]ท่าไม้ตายสุดแข็งแกร่งของ โมฮัน ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับ เย่ชีเหวิน ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ยิ่งตอนนี้ความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน ได้พัฒนาขึ้นนับจากตอนนั้นมากนัก จึงทำให้คนหมู่มากคิดว่า เย่ชีเหวิน ควรจะเป็นผู้ชนะสำหรับการประลองในครั้งนี้
       
          " ข้ามิได้คาดคิดเลยว่าจะได้มาพบเจ้าในการประลองรอบที่ 5 " เย่ชีเหวิน กล่าว

          " ข้ารอคอยเวลานี้มานานแล้ว " โมฮัน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนาวเย็น แต่ทว่าก็มีความมุ่งมั่นในเวลาเดียวกัน ในสายตาของเขาได้จดจ่อไปที่ เย่ชีเหวิน โดยไม่สนใจเสียงสรรเสริญรอบข้างเลยแม้แต่น้อย เสียงเชียร์เหล่านี้ไม่ส่งผลใด ๆ สำหรับเขา เพราะมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ลุกโชนอยู่ภายในใจของเขาในตอนนี้ นั่นคือการที่เขาจักต้องเอาชนะ เย่ชีเหวิน ให้จงได้!
       
ในควมคิดของเขามีเพียงแค่สิ่งเดียวคือจิตวิญญาณที่ต้องการจะเอาชนะ เย่ชีเหวิน!

          " แม้เจ้าจะดูเหมือนมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นจากแต่ก่อน แต่ข้าก็จะเอาชนะเจ้าให้จงได้ " โมฮัน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเข้มแข็งและเปิดเผยออกมาให้เห็นถึงความอ่อนแอเลยแม้แต่น้อน ภายในใจของเขามีเพียงแค่ความต้องการที่อยากจะเอาชนะ เย่ชีเหวิน เพียงอย่างเดียว แม้ว่า เย่ชีเหวิน ในตอนนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามมากจนน่ากลัว หากแต่เขาเองก็ไม่เหมือนกับแต่ก่อนแล้ว เขาในตอนนี้มีความเเข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากพร้อมกับความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม ซึ่งแตกต่างจากตัวเขาเมื่อเทียบกับ 3 เดือนที่ผ่านมาอย่างลิบลับ มิเช่นนั้นเขาคงมิสามารถก้าวผ่านขึ้นมาได้ถึงในรอบที่ 5 นี้เป็นแน่
          

          " ถ้าเช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลา เริ่มเลยเถอะ! " เย่ชีเหวิน กล่าวอย่างแน่วแน่
       
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โมฮัน ก็ได้กู่ร้องตะโกน พร้อมเหยียบฝ่าเท้าพุ่งทะยานออกไป ด้วยการระเบิดของ พลังปราณชี่ ทำให้ร่างของเขาพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกศรและมุ่งตรงไปยัง เย่ชีเหวิน ในทันที ด้วยความเร็วที่ราวกับกระสุนดินปืน เร็วขึ้นและเร็วขึ้น อุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบค่อย ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยผลกระทบจากขอบเขตของพลังอำนาจของผู้ที่แข็งแกร่ง
       
เมื่อเห็นคมหอกที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา เย่ชีเหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะต้องกระพริบตาด้วยความรู้สึกประหลาดใจ เพราะเขามิได้คาดคิดว่า โมฮัน จะสามารถห่อหุ่มคมหอกด้วย พลังปราณชี่ ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะ ยิ่งกว่านั้นยังดูเหมือนว่า ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม หากเขามิได้มาเผชิญหน้ากับ เย่ชีเหวิน ในรอบบนี้ บางทีอาจเป็นไปได้ที่ว่าเขานั้นอาจก้าวขึ้นไปสู่การจัดอันดับ 20 คนแรกได้ก็เป็นได้
       
ที่ฝ่ามืออันว่างเปล่าของ เย่ชีเหวิน ได้ปรากฏใบมีดคมยาวที่ถูกสร้างขึ้นมาจาก พลังปราณชี่ ได้ฟาดฟันมันออกไปอย่างรุนแรง

          " เสียงดังก้อง! " ใบมีดและคมหอกได้เข้าปะทะกัน จนก่อให้เกิดเสียงดังแพร่กระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง พร้อมคลื่นลมแรงที่พัดผ่านไปมา ตามด้วยเสียงระเบิดที่ดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน ก้องกังวาลไปทั่วทั้งสนามประลอง

          " ทำไมเจ้าถึงไม่ชักใบมีด หรือว่านี่เจ้ากำลังดูถูกข้า? "โมฮัน กล่าวถามด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น
       
โมฮัน ก็เปรียบดังคนบ้าการต่อสู้ เขาสามารถพ่ายได้และย่อมให้ตนเองตายดีกว่าใครมาหยาม เขาไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้มีใครมาดูถูกเขาได้

          " อย่าได้เข้าใจผิด เพราะข้านั้นไม่จำเป็นต้องใช้ใบมีด ในตอนนี้เคล็ดวิชาของข้าได้บรรลุไปจนถึงในระดับขั้นที่สามารถนำ พลังปราณชี่ มาสร้างเป็น ใบมีดลมปราณ ได้ ทั้งคุณสมบัติและความแข็งแกร่งก็นับว่ามิต่างกันมากนัก เมื่อมันอยู่ในมือของข้า " เย่ชีเหวิน กล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา
       
[ตัดจันทราเงียบงัน]นั้นใช้ ใบมีดลมปราณ เป็นการโจมตีหลักเสียส่วนใหญ่ ซึ่งหาก เย่ชีเหวิน ต้องเผชิญกับคู้ต่อสู้ที่มีความแข็งแกร่งเท่าเทียมกัน การใช้ใบมีดก็มิได้สร้างความแตกต่างใดเลย แม้ต้องเจอคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่าก็ตามหรือแม้กระทั่งคู้ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า การชักใบมีดออกมาก็มิได้สร้างผลเปลี่ยนแปลงใด ๆ

          " ถ้าเช่นนั้นก็อย่ากล่าวหาว่าข้าไม่สุภาพ " โมฮัน คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถใช้มือเปล่าแทนอาวุธด้วยเคล็ดวิชการต่อสู้เช่นนี้อยู่ด้วย
          
สิ้นสุดเสียง คมหอกได้พุ่งตรงออกไปยังเบื้องหน้า ปรากฏประกายแสงเย็นสว่างวาบ คล้ายเงาอสรพิษ พุ่งตรงไปยังเบื้องหน้าของ เย่ชีเหวิน
          


ในขณะเดียวกัน พลังปราณชี่ ก็ได้ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของ เย่ชีเหวิน ห่อหุ่ม ใบมีดลมปราณ ของเขาและฟาดฟันออกไป กลายเป็นเงาใบมีดคมยาวมากมายนับประการ พุ่งตรงไปยังเบื้องหน้าของกลุ่มเงาคมหอก
          


          " แกร้ง! "          


เสียงการปะทะกันของโลหะ ได้ดังก้องกังวาลแพร่กระจายออกไปทั่วทุกที่ พร้อมกับประกายแสงไฟที่เกิดขึ้นทุกหนแห่ง จากการเข้าปะทะกันของ ใบมีดคมยาว ที่ถูกไปถูกสร้างขึ้นโดย พลังปราณชี่ ของ เย่ชีเหวิน กับคมหอกของ โมฮัน ได้ก่อให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนต่อชั้นบรรยากาศโดยรอบ แผ่ขยายออกไปทั่วทั้งสนามประลอง เพียงแค่ชั่วพริบตา ก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นไปทั่วทั้งสนามประลอง
          


เย่ชีเหวิน ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ในขณะที่ โมฮัน นั้นได้ถอยกลับไปไม่กี่ก้าว แต่ถึงกระนั้นเมื่อ โมฮัน จับจ้องมองไปที่ เย่ชีเหวิน ภายในดวงตาของเขาก็ปรากฏถึงความตกใจ
          


โมฮัน ไม่ลังเลที่จะรวบรวมพลังของเขาอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนกัน 2 กระบวนท่า หากแต่ถึงกับต้องบังคับให้เขานั้นต้องใช้ความแข็งแกร่งเต็มที่ หลังจากที่ได้ประมือกันในกระบวนท่าที่ 2 โมฮัน ก็ยืนยันได้แล้วว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน นั้นเป็นเผด็จการขึ้นมาก ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถ้าเพียงเทียบกับก่อนหน้านี้ ที่เขาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย โมฮัน สามารถรับรู้ได้ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นไกล้เคียงกัน หากแต่ในครานี้เขาแทบมิอยากจะเชื่อเลยว่าเขาต้องใช้ความแข็งแกร่งของ[ร่างผสานคมหอก]เข้าต่อต้านกับความแข็งแกร่งอันน่าหวาดกลัวของ เย่ชีเหวิน อีกครั้ง
          


โมฮัน ก้าวเท้าเหยียบแน่นไปที่พื้น พร้อมกับร่างที่เริ่มผสานเข้ากับคมหอก พลังปราณก่อเกิด ได้เริ่มหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ออร่าทั่วร่างของเขาได้เริ่มทับซ้อนกับคมหอกและถูกปกคลุมไว้ด้วย พลังปราณชี่ เขาได้ก้าวเข้าสู่เขตแดน[รูปร่างมนุษย์ผสานคมหอก]และพุ่งทะยานออกไป เหล่าชั้นบรรยากาศต่างถูกแยกออกเป็นทางความแรงของคมหอก โมฮัน
          


หากเป็นก่อนหน้านี้ ร่างของเขาจะพุ่งตรงออกไปราวกับกระสุนดินปืนที่ยากจะคดเคี้ยว หากแต่ในยามนี้เขากับสามารถคดเคี้ยวไปมาได้ราวดุจอสรพิษ พร้อมกับเสียงลมที่แหวกไปมา
          


เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ[ร่างผสานมนุษย์คมหอก]ของ โมฮัน ใบหน้าของ เย่ชีเหวิน ก็แสดงออกมาด้วยท่าทีที่เคร่งขรึม ด้วยความสามารรถของ โมฮัน ในยามนี้ ที่สามารถควบคุมทิศทางของเขตแดน[ร่างผสานมนุษย์คมหอก]ได้อย่างใจนึก ทำให้พลังอำนาจในการสู้รบของ โมฮัน นั้นทะลุ[ระดับจุดสูงสุดขั้นที่ 5 ดินแดนลมปราณก่อเกิด]ในที่สุดและมีความสามารถที่เทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญ[ระดับขั้นที 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด]
          


แต่อย่างไรก็ตาม ในครานี้มันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ เพราะ เย่ชีเหวิน ไม่แม้แต่มีความคิดที่จะหลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย หากแต่กลับเดินตรงไปยังเบื้องหน้า เพื่อเผชิญหน้ากับ[ร่างผสานมนุษย์คมหอก]ของ โมฮัน ที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาโดยตรง
          


ในสนามประลอง คมหอกประกายแสง กำลังพุ่งตรงเข้าปะทะกับ คมมีดประกายแสง เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั่น ๆ ภายใต้การจับจ้องมองผู้คนจำนวนมาก ก็ได้เกิดคลื่นพายุขึ้น ณ ใจกลางสนามประลอง เพียงชั่วพริบตาร่างของพวกเขาทั้ง 2 ก้ได้เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง
          


          " ตูม! "          


ร่างเงา 2 ร่างได้เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง จนก่อให้เกิดคลื่นระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวแพร่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง ราวกับคลื่นสึนามิที่ส่งคลื่นสั่นสะเทือนต่อชั้นบรรยากาศไปทุกทิศทาง
          


หลังจากที่มีการระเบิดขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว ก็มีร่าง ๆ หนึ่งถูกส่งบินออกมาจากหมอกควันและอยู่ในสถานภาพที่นอนพลิกคว่ำ
          
หลังจากที่หมอกควันได้เจือจางลง ขณะนี้ เย่ชีเหวิน ยังคงยืนนิ่งอยู่บนเวทีประลอง ในสายตาของทุกคน ฝ่ามือของ เย่ชีเหวิน ยังคงอยู่ในสภาพที่ไขว้หลัง สิ่งที่เกิดขึ้น ผลของการต่อสู้ในครั้งนี้ไม่อาจถูกซ่อนจากสายตาของฝูงชนได้อีกต่อไปแล้ว!
          


ฉับพลันเหล่าผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็โห่ร้องด้วยเสียงเชียร์อันดังก้อง ในเวลานี้ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดพวกเขาได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ใหม่หรือศิษย์ผู้อาวุโส ต่างก็กู้ร้องด้วยเสียงเชียร์ มันมิได้มีมากนักที่จะมีบุคคลที่มากไปด้วยพรสรรว์เช่นนี้จะปรากฏตัวขึ้นในเบื้องหน้าของพวกเขา ในเวลานี้ประวัติศาสตร์ใหม่ของผู้ที่แข็งแกร่งได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว!
          


มิใช่ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นประสงค์ของสวรรค์อย่างนั้นหรอกหรือ?
          


มีศิษย์ผู้อาวุโสจำนวนมากที่ไม่ชอบ เย่ชีเหวิน หากแต่ก็ต้องยอมรับในความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของเขา โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ของ โมฮัน ได้กลายเป็นตัวพิสูจน์อย่างดี หลังจากที่เขาได้ผสานร่างเข้ากับมนุษย์คมหอกจะทำให้ทั้งความแร็วและความแข็งแกร่งของเขานั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถนำมาเทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญ[ระดับขั้นที 6 ดินแดนลมปราณก่อเกิด]ได้เลยก็มิปาน ในตอนนี้มันได้กลายเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน เพราะหากเขามิได้มาเผชิญหน้ากับ เย่ชีเหวิน ในรอบนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่ โมฮัน จะสามารถก้าวเข้าสู่การจัดอันดับ 10 คนแรกได้ก็เป็นได้
          


แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่พวกเขานั้นต้องมาเผชิญหน้ากับ เย่ชีเหวิน มันก็เหมือนดั่งโชคชะตาไม่ว่าจะเป็น จางชิ หรือ โมฮัน พวกเขาทั้ง 2 ต่างก็มิได้อ่อนแอ หากแต่ เย่ชีเหวิน นั้นแข็งแกร่งมากเกินไป ด้วยความแข็งแกร่งของ เย่ชีเหวิน และพัฒนาการของเขา ไม่มีใครเลยที่จะสามารถนำเอามาเปรียบกับความก้าวหน้าของเขาได้
          


" เย่ชีเหวิน เป็นฝ่ายชนะ! "
          


เย่ชีเหวิน สามารถผ่านเข้าสู่รอบที่ 5 ไปได้อย่างง่ายดายและทำลายสถิติเก่าของ ฉีเฟยฟาน ได้ในที่สุด สถิติใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นและจาลึกลงในหน้าประวิติศาสตร์ของสำนักยี่หยวน อย่างน้อย ๆ เขาก็นับเป็นคนแรกที่สามารถสร้างเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้ ในช่วงระยะเวลานับหลาย 100 ปีที่ผ่านมาของสำนักยี่หยวน
          


ในขณะที่ทุกคนกำลังเร่าร้อนกับประวิติศาสตร์ครั้งใหม่ที่กำลังจะถูกสร้างขึ้นโดย เย่ชีเหวิน ก็ได้มีเสียงอันเย็นเหยียบดังมา " เย่ชีเหวิน เจ้าโชคดีมากที่สามารถมาถึงที่นี่ได้ แต่จงสนุกซะเสียให้พอ เพราะนี่จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเจ้า "
          


เย่ชีเหวิน จับจ้องมองไปยังต้นเสียง และพบเข้ากับขุนนางหนุ่มที่กำลังจับจ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและอิจฉาริษยา ทั้งที่เขาสามารถผ่านเข้ามายังรอบที่ 6 ได้แต่กลับไม่มีใครสนใจเขา ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ เย่ชีเหวิน เหตุใดเขาถึงมิได้รับความสนใจจากทุกคน!
          


ทำไมต้องเป็นเขา!
          


เย่ชีเหวิน จับจ้องมองไปที่ขุนนางหนุ่มด้วยสายตาที่เย็นชา เพราะเขารู้ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปของเขาคือใคร นอกจากนี้ขุนนางหนุ่มผู้นี้ยังมีลักษณะนิสัยที่เย่อหยิ่งและดูเป็นอันตราย
          


เขาไม่ทราบว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ หรือว่ามีใครเป็นคนชักใยอยู่บ้างหลัง หากแต่ด้วยระยะเวลาอันสั่น เขาและขุนนางหนุ่มผู้นี้ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
          
หลังจากพักเพียงชั่วครู่ เย่ชีเหวิน ก็ได้ยินเสียงประกาศชื่อของเขาและคู่ต่อสู้ในการประลองรอบต่อไป
          


          " การประลองรอบต่อไป เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง เย่ชีเหวิน และ จูปิ่งหยุน! "          


จูปิ่งหยุน เป็นนามของขุนนางหนุ่ม!
          


          " จัดการมันเลย เย่ชีเหวิน , มอบความพ่ายแพ้ให้กับไอ้ จูปิ่งหยุน นั่นเสีย! "          


          " สร้างตำนานบทใหม่และจาลึกลงในหน้าประวัติศาสตร์! "          


เกือบทั้งหมดของพวกเหล่าศิษย์ในสนามประลอง ต่างก็ส่งเสียงเชียร์สนับสนุนให้กับ เย่ชีเหวิน เพราะต้องการให้เขานั้นเป็นผู้ชนะ หากฝ่ายชนะเป็น จูปิ่งหยุน แล้วมันก็นับว่าเป็นการประลองที่น่าเบื่อเกินไป เพราะทุกครั้งที่มีการประลองศิษย์เมล็ดพันธุ์ ก็มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอยู่เสมอซ้ำไปมา พวกเขาทั้งหมดต่างไม่ต้องการเช่นนั้น ในสายตาของพวกเขาต่างก็ร่ำร้องถึงสิ่งที่จะมาทำให้พวกเขานั้นต้องประหลาดใจ

พวกเขาต้องการตำนานบทใหม่ที่จะได้จาลึกลงให้หน้าประวัติศาสตร์ของสำนัก และเป็นที่จดจำในสายตาของพวกเขาอย่างไม่มีวันลืม
          


หาก เย่ชีเหวิน เป็นผู้ชนะแล้ว การประลองมันก็จะแตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะมันจะเป็นการสร้างประวิติศาสตร์ครั้งใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในหน้าประวิติศาสตร์ของสำนักยี่หยวน และพวกเขาที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ก็จะเป็นพยานให้กับตำนานบทนั้น ชัยชนะที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จะถูกจดจำให้กลายเป็นตำนาน หากเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ในรอบนี้และสามารถผ่านเข้ารอบไปยังรอบต่อไปได้

เขาก็จะได้เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ถือว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หาก เย่ชีเหวิน สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาในรอบต่อไปได้ ตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็จะถูกจาลึกลงในหน้าประวิติศาสตร์ของสำนักยี่หยวนในทันที
          


ทุกคนต่างก็สนับสนุนให้ เย่ชีเหวิน นั้นเป็นผู้ชนะในครั้งนี้ พวกเขาต้องการให้ เย่ชีเหวิน เป็นฝ่ายชนะแทนที่จะเป็นตัวตายอย่าง จูปิ่งหยุน
          


ด้วยเหตุนี้เองใบหน้าของ จูปิ่งหยุน จึงได้บูดบึงจนหน้าเกลียด เขารู้โกรธมากและจับจ้องมองไปที่ เย่ชีเหวิน โดยที่ไม่สามารถละสายตาได้เลย
          


..........
          


B1 : จูปิ่งหยุน ในโลกนี้ไม่มีที่ยืนให้กับมึงแล้ว
B2 : 55555 จูปิ่งหยุน ขุนนางหนุ่มที่โลกไม่ต้องการ
ฺB3 : อุส่าผ่านมายังรอบที่ 6 ได้แท้ ๆ โคตรน่าส่งสาร
B4 : ตายแล้วไปเกิดใหม่เถอะ จูปิ่งหยุน แล้วชีวิตเจ้าจะดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม